เรือประมงรอซ่อมอับปาง คราบน้ำมันลอยทั่วรัศมี 20 เมตร จนท. เร่งกำจัด

[mrtnews]

เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (6  มิ.ย. 57) นายวีระศักดิ์ ตินโนเวช ผู้อำนวยการสำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ ได้รับแจ้งจากประชาชนย่านคลองสานว่า มีเรือประมงที่จอดอยู่ที่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกติดกับท่าเรือของโรงแรมมิลเลเนี่ยมฮิลตัน แขวงและเขตคลองสาน กรุงเทพ จึงเร่งประสานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานเขต คลองสานฝ่ายตรวจสอบการเดินเรือกรมเจ้าท่าไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบเรือประมงไม้ ชื่อพรสมุทรนาวา 5 ทะเบียน 2274.15456 ขนาดกว้าง 5?20 เมตร ท้ายเรือจมลงสู่ท้องน้ำราว 70% มีคราบน้ำมันดีเซลกระจาย อยู่บนหน้าน้ำรัศมีประมาณ20 เมตร เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันใช้สารกำจัดน้ำมันที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ เป็นที่เรียบร้อยโดยใช้เวลาเพียง 45 นาที

นายรีระศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับเรือคันดังกล่าวเป็นการจอดเพื่อรอการซ่อมมาหลายปีแล้วและยังไม่ได้กีดขวาง การจราจรทางน้ำแต่อย่างใด เมื่อจอดนานก็ทำให้เรือผุและ เมื่อมีมีเรือใหญ่วิ่งผ่านไปมาทำให้เกิดคลื่นมากระแทก ทำให้เรือับปางจมลงสู่ท้องน้ำดังกล่าว ส่วนน้ำมันที่ไหลออกมาบนผิวน้พก็ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด เป็นดีเซลชนิดเบาที่ติดค้างอยู่ในเครื่องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนถังที่อยู่ในเรือก็เป็นถังใส่อุปกรณ์การประมงเบื้องต้นได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตคลองสาน ได้ใช้น้ำยากำจัดคราบน้ำมันดีเซลเรียบร้อยแล้วหลังจากนั้นจะให้ฝ่ายตรวจสอบการเดินเรือ ที่ดูแลเรื่องการกู้เรือประสานกับ เจ้าของเรือให้มาดูความเสียหายเสียค่าปรับ

ที่มา -



เรือประมงผุอับปาง น้ำมันรั่วลอยเจ้าพระยา

เกิดอุบัติเหตุเรือประมงพรสมุทรนาวา 5 ซึ่งจอดเทียบท่าย่านคลองสาน เพื่อรอการซ่อม เกิดอับปางท้ายเรือจมน้ำราว 70% ส่งผลให้น้ำมันเครื่องกระจายสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งช่วยกันใช้สารกำจัดน้ำมันที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ

วันนี้ (6 มิ.ย. 57 ) นายวีระศักดิ์ ตินโนเวช ผอ.สำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ ได้รับแจ้งจากประชาชนย่านคลองสาน ว่า มีเรือประมงที่จอดอยู่ที่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ติดกับท่าเรือของโรงแรมมิลเลเนียม ฮิลตันแขวงและเขตคลองสาน กทม. จึงเร่งประสานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตคลองสาน ฝ่ายตรวจสอบการเดินเรือกรมเจ้าท่าไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบเรือประมงไม้ ชื่อพรสมุทรนาวา 5 ทะเบียน 2274.15456 ขนาดกว้าง 5x20 เมตร ท้ายเรือจมลงสู่ท้องน้ำราว 70% มีคราบน้ำมันดีเซลกระจายอยู่บนหน้าน้ำรัศมีประมาณ 20 เมตร เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันใช้สารกำจัดน้ำมันที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ เป็นที่เรียบร้อยโดยใช้เวลาเพียง 45 นาที

นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับเรือคันดังกล่าวเป็นการจอดเพื่อรอการซ่อมมาหลายปีแล้ว และไม่ได้กีดขวางการจราจรทางน้ำแต่อย่างใด เมื่อจอดนานก็ทำให้เรือผุ และเมื่อมีเรือใหญ่วิ่งผ่านไปมา ทำให้เกิดคลื่นมากระแทก ทำให้เรืออับปางจมลงสู่ท้องน้ำดังกล่าว ส่วนน้ำมันที่ไหลออกมาบนผิวน้ำก็ไม่มีอันตรายแต่อย่างใด เป็นดีเซลชนิดเบาที่ติดค้างอยู่ในเครื่องเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนถังที่อยู่ในเรือก็เป็นถังใส่อุปกรณ์การประมง เบื้องต้นได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตคลองสาน ได้ใช้น้ำยากำจัดคราบน้ำมันดีเซลเรียบร้อยแล้ว หลังจากนั้นจะให้ฝ่ายตรวจสอบการเดินเรือ ที่ดูแลเรื่องการกู้เรือประสานกับเจ้าของเรือให้มาดูความเสียหายเสียค่าปรับ

ที่มา -



เจ้าหน้าที่กู้เรือประมง ล่มที่ท่าย่านคลองสาน

วันที่ 6 มิ.ย. 57 นายวีระศักดิ์ ตินโนเวช ผอ.สำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ รับแจ้งเหตุเรือประมงพลิกคว่ำ บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตกติดกับท่าเรือของโรงแรมมิลเลเนี่ยมฮิลตัน แขวงและเขตคลองสาน กทม. จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตคลองสาน ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยฝ่ายตรวจสอบการเดินเรือกรมเจ้าท่า และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย

ที่เกิดเหตุพบเรือประมงชนิดไม้ ชื่อพรสมุทรนาวา 5 ทะเบียน 2274.15456 ขนาดความกว้าง 5x20 เมตร ภายในบรรจุถัง พลาสติกเต็มลำ ช่วงท้ายจมลงสู่ท้องน้ำประมาณ 70 เปอร์เซ็น จนเป็นเหตุให้บนพื้นผิวน้ำมีคราบน้ำมันดีเซลกระจัดกระจาย เกลื่อนพื้นรัศมีวงกว้างกว่า 20 เมตร เจ้าหน้าที่จึงเร่งช่วยกันใช้เครื่องสูบน้ำผสมน้ำยาล้างจานฉีดสกัดเพื่อสลายคราบน้ำมัน ที่ลอยอยู่บริเวณดังกล่าว โดยใช้เวลานานกว่า 45 นาที จึงสามารถควบคุมไว้ได้

นายรีระศักดิ์ เปิดเผยว่า เรือประมงลำดังกล่าวเป็นเรือขนาดเล็กซึ่งมาจอดทิ้งไว้ที่จุดเกิดเหตุเพื่อรอการซ่อมแซมมานาน หลายปี เมื่อมีเรือขนาดใหญ่วิ่งผ่านไปมาจึงเกิดการกระแทก กระทั่งเกิดการผุกร่อนจนเป็นสาเหตุให้จมลงสู่ท้องน้ำ ส่วนเรื่อง น้ำมันที่ไหลออกมาบนพื้นผิวน้ำไม่มีอันตรายแต่อย่างใด เป็นน้ำมันดีเซลชนิดเบาบางซึ่งติดค้างอยู่ในเครื่องเพียงเล็กน้อย เมื่อเรือจมจึงไหลซึมออกมา และถังที่อยู่ภายในเรือเป็นเพียงถังใส่อุปกรณ์ในการประมงเท่านั้น นอกจากนี้เรื่องการจอดเรือ ที่ท่าดังกล่าว ถ้าเป็นเรือขนาดเล็กไม่ต้องแจ้งจอดแต่ถ้ามีขนาดใหญ่เกินกว่า 60 ตัน ต้องรีบแจ้งต่อกรมเจ้าท่า
     
ต่อมาเมื่อเวลา 17.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้พื้นผิวน้ำในจุดเกิดเหตุเริ่มกลับมาใสเป็นปกติ  ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ ได้นำเรือเครนเพื่อกู้เรือดังกล่าวขึ้นมาจากท้องน้ำ ก่อนจะหารอยรั่วซึมเพื่อทำการอุดรูต่างๆ บริเวณโดยรอบก่อนจะติดต่อ ให้เจ้าของเรือรีบมารับเพื่อนำไปซ่อมต่อไป

ที่มา -