ข่าว:

ห้ามโพส ปั่นลิงก์ SEO ในส่วนของ ลายเซ็นสมาชิกเพื่อจะแสดงที่ด้านล่าง ของแต่ละข้อความที่ตอบกระทู้ เช่น คาสิโน บาคาร่า แทงบอล ฯลฯ เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

ทลฉ.เปิดงาน APS ยิ่งใหญ่ 10 ปท.อาเซียนร่วมปักธงพัฒนาระบบโลจิสติกส์

เริ่มโดย mrtnews, ก.ค 24, 14, 19:56:52 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ท่าเรือแหลมฉบัง จัดงาน " Asean Port Symposium 2014"รับผู้นำท่าเรือ 10 ปท.ยกระดับการบริหารท่าเรือสู่การแข่งขันระดับสากล ผนึกกำลังบูรณาการการขนส่งสินค้าทางทะเล รับการเข้าสู่ เออีซี


เมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ (23 ก.ค. 57) ท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี จัดงาน "Asean Port Symposium 2014" ที่ห้องแกรนด์ บอลลูม โรงแรมรอยัล คริฟ บีซ พัทยา มีผู้นำท่าเรือใน 10 ประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขนส่งสินค้าทางน้ำเข้าร่วม โดยดร.จุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวปาฐกถาในหัวข้อภาพรวมการขนส่งของไทย

เรือเอกสุทธินันท์ หัตถวงษ์ ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง เปิดเผยว่า ท่าเรือแหลมฉบังเป็นท่าเรือน้ำลึกเพื่อการพาณิชย์ในระดับสากล มีบทบาทในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจภายในประเทศ ภายใต้การกำกับดูแลของการท่าเรือแห่งประเทศไทย โดยท่าเรือแหลมฉบังได้เปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการลงทุนพัฒนาบริหาร และประกอบการท่าเทียบเรือ

ตลอดระยะเวลา 23 ปีที่ผ่านมา ท่าเรือแหลมฉบังประสบความสำเร็จในการสร้างประโยชน์ ทั้งทางตรงและทางอ้อมให้แก่ประเทศไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งในโอกาสที่ประเทศไทยและประเทศสมาชิกรวม10 ประเทศ กำลังจะก้าวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economics Community : AEC) ท่าเรือแหลมฉบังมีแนวความคิดที่จะสร้างความเข้มแข็ง และพัฒนาสัมพันธภาพเพื่อก่อให้เกิดความร่วมมือร่วมใจของท่าเรือต่างๆในกลุ่มประเทศเออีซี จึงได้จัดงานสัมมนาท่าเรืออาเซียนขึ้น ภายใต้ชื่องาน "ASEAN PORT SYMPOSIUM 2014" โดยมีผู้บริหารท่าเทียบเรือในกลุ่มประเทศสมาชิก 10 ประเทศ ประกอบด้วย ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ บรูไน ลาว กัมพูชา เวียดนาม พม่า และผู้ประกอบการท่าเทียบเรือเอกชน ผู้บริหารการท่าเรือแห่งประเทศไทย และท่าเรือแหลมฉบัง หน่วยงานภาครัฐเข้าร่วม

"เมื่อประเทศไทยก้าวเข้าสู่เออีซีในปี 2558 รัฐบาลต้องมองภาพการบริหารประเทศที่ใหญ่ขึ้นจากการรวมตัวกันของประเทศสมาชิกข จึงเป็นนิมิตหมายอันดี เพราะทำให้ประเทศต่างๆที่เป็นสมาชิก สามารถสร้างอำนาจต่อรองกับประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่กว่าได้ ขณะเดียวกันก็จะทำให้สมาชิกอาเซียน พึ่งพาทรัพยากรทางเศรษฐกิจ ร่วมกันได้ ส่งผลให้เกิดการเสริมสร้างความแข็งแกร่ง และยังนำไปสู่การสร้างโอกาสการค้ากับกลุ่มคู่ค้าสำคัญ เช่น จีน เกาหลี อินเดีย สหภาพยุโรป หรือสหรัฐอเมริกา"

เรือเอกสุทธินันท์ กล่าวถึงสภาพการแข่งขันทางการค้าของไทย หลังเข้าสู่ยุคการค้าแบบไร้พรมแดนว่า เศรษฐกิจและการค้าของไทยได้ผูกติดกับระบบเศรษฐกิจการค้าโลกอย่างสิ้นเชิง และเป็นไปได้ว่าสภาพการแข่งขันทางธุรกิจจะถูกกดดันจากทุกทิศทาง ผู้ประกอบการทุกภาคส่วนต้องเร่งปรับตัว และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาระบบ "โลจิสติกส์" เพราะปัจจุบันต้นทุนด้านโลจิสติกส์ไทยสูงกว่าหลายประเทศในอาเซียน จึงจำเป็นต้องเร่งพัฒนาและเสริมสร้างระบบการค้าโดยรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ให้มีศักยภาพแข่งขันในยุคของกระแสโลกาภิวัฒน์

ซึ่งท่าเรือจึงนับเป็นจุดเชื่อมต่อหลักในการเชื่อมโยงระบบเศรษฐกิจของประเทศ เข้ากับตลาดต่างประเทศ และเป็นศูนย์กลางทางการค้าที่สำคัญของประเทศ ทั้งนี้สิงคโปร์และมาเลเซีย นับเป็นประเทศที่มีศักยภาพในด้านนี้ ขณะที่กัมพูชาและพม่าไม่มีสายการเดินเรือหลักของโลกเข้าไปให้บริการโดยตรง ส่วนลาวเป็นประเทศไม่มีทางออกสู่ทะเล สาเหตุที่ 2 ประเทศดังกล่าวไม่มีสายการเดินเรือหลักของโลกเข้าไปให้บริการ เป็นผลมาจากปริมาณสินค้าที่ขนส่งโดยตู้คอนเทนเนอร์ค่อนข้างต่ำ หากเปรียบเทียบกับปริมาณของประเทศสมาชิกอาเซียนอื่น ที่มีระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่สูงกว่า"


นอกจากนั้น ประเทศสมาชิกอาเซียนใหม่ (ยกเว้นลาว) จะมีเรือสินค้าขนาดเล็ก ทำหน้าที่รับช่วงส่งสินค้าระหว่งจุด (shuttle feeder) เข้าเทียบท่าเพื่อขนส่งสินค้าไปรวบรวมยังศูนย์กลางท่าเรือของภูมิภาค ได้แก่ สิงคโปร์ และฮ่องกง ทั้งนี้ กลุ่มอาเซียนมีระบบเครือข่ายการขนส่งทางเรือที่มีรูปแบบค่อนข้างซับซ้อน เนื่องจากท่าเรือแต่ละแห่งจะถูกเชื่อมต่อเข้าด้วยกัน ทั้งในลักษณะแบบ Hub-feeder และในลักษณะแบบ end-to-end ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่พึ่งพากันระหว่างระบบเศรษฐกิจระดับประเทศ ระดับภูมิภาคและระดับโลก ซึ่งความเชื่อมโยงด้านการขนส่งทางทะเลภายในกลุ่มอาเซียนจึงนับว่ามีความเชื่อมโยงระหว่างกันในระดับดี และมีความพร้อมในการรองรับการขนส่งสินค้าปริมาณมหาศาลทั้งภายในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกัน และระหว่างประเทศอื่นนอกกลุ่ม ซึ่งนับว่าความเชื่อมโยงด้านการขนส่งทางทะเลของอาเซียนมีระดับการพัฒนามากที่สุด

โดยเป้าหมายการจัดงาน "ASEAN PORT SYMPOSIUM 2014" เพื่อเป็นการรวมตัวกันครั้งสำคัญของผู้นำท่าเรือในภูมิภาค เพื่อร่วมหาแนวทางในการบูรณาการการขนส่งทางทะเลของอาเซียน สร้างศักยภาพในการแข่งขันทางการค้าระดับโลก และเป็นนิมิตหมายอันดีในการร่วมกำหนดทิศทาง และนโยบายในการพัฒนาระบบการขนส่งทางทะเลในระดับภูมิภาค เพื่อการพัฒนาระบบการขนส่งทางทะเลในประเทศรองรับการเข้าสู่เออีซี และสร้างศักยภาพการแข่งขันในระดับสากล

ที่มา -