ข่าว:

รับสมัครเฉพาะชาวเรือและผู้ที่สนใจที่เป็นคนไทยเท่านั้น สมัครแล้วรออนุมัติประมาณ 2-3 วัน หากต้องการด่วนโปรดแจ้ง webmaster@marinerthai.net

Main Menu

TTA บวก 2.40% หลังงบฯ Q3/57 พลิกเป็นกำไร ขานรับรายได้โต-มาร์จินดีขึ้น

เริ่มโดย mrtnews, ส.ค 15, 14, 23:04:28 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม 2557 - หุ้น TTA ราคาขยับขึ้น 2.40% มาอยู่ที่ 21.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 390.80 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.40. โดยเปิดตลาดที่ 21.20 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 21.40 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 21.10 บาท


เช้านี้ บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์(TTA)และบริษัทย่อย ประกาศผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/57 มีกำไรสุทธิ 254.63 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.20 บาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 121.41 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.12 บาท

พร้อมชี้แจงว่า ในไตรมาส 3/2557 กำไรสุทธิรวมจำนวน 255 ล้านบาท เติบโต 310% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/2556 ที่มีขาดทุนสุทธิรวมจำนวน 121 ล้านบาท

รายได้รวมขยายตัว 12% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 5,328 ล้านบาท รายได้เพิ่มขึ้นจากโทรีเซน

ชิปปิ้ง (+52% จากปีก่อน) จากเมอร์เมด มาริไทม์ (+5% จากปีก่อน) และบาคองโค (+7% จากปีก่อน) ซึ่งมากกว่ารายได้

ของ UMS ที่ลดลง (-43% จากปีก่อน) อัตราค่าระวางเรือของโทรีเซนชิปปิ้งอยู่ในระดับสูงตามการฟื้นตัวของธุรกิจเรือ

ขนส่งสินค้าแห้งเทกองเมื่อเทียบกับปีก่อนและจำนวนวันเดินเรือที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน เมอร์เมด มาริไทม์ รับรู้รายได้จาก

สัญญาระยะยาวในการให้บริการดำน้ำและบริการขุดเจาะที่ทำไว้กับซาอุดิอรามโค และลูกค้ารายอื่น

กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 35% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มาอยู่ที่ 1,308 ล้านบาท กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากโทรีเซน

ชิปปิ้ง และบาคองโค โดยโทรีเซนชิปปิ้งมีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากจำนวนกองเรือที่เพิ่มขึ้น การควบคุมค่าใช้จ่าย และ

การเพิ่มเรือเช่าเหมาลำ (Charter-in) เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ธุรกิจปุ๋ยของบาคองโคมีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก

ปริมาณขายที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการรักษาระดับราคาขายให้อยู่ในระดับสูงแม้ว่าราคาวัตถุดิบปรับตัวลดลง ขณะที่เมอร์เมด มาริไทม์ มีกำไรขั้นต้นลดลงจากอัตราการใช้ประโยชน์ของเรือสนับสนุนการทำงานนอกชายฝั่งและเรือขุดเจาะ

ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนจำนวน 269 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 351% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดย

ส่วนใหญ่มาจากการเติบโตของส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนของเมอร์เมด มาริไทม์ ใน AOD ซึ่ง AOD มีส่วนแบ่งรายได้ในไตรมาสนี้ 240 ล้านบาท พลิกจากผลขาดทุน 30 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน

TTA มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย(EBITDA) จำนวน 1,032 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 97% จากไตรมาส 3/2556 เป็นผลจากส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนเติบโตอย่างมาก ขณะที่ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขายและการบริหาร(SG&A) เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย

ที่มา -




***TTA พุ่งนำตลาดบวกกว่า 1% แนวโน้มกำไรเด่น

วันศุกร์, 15 สิงหาคม 2557 - หุ้น TTA เปิดเช้านี้พุ่งนำตลาดวอลุ่มติดอันหนึ่ง ราคาบวกกว่า 1% หลังแจ้งกำไร 3Q57 ดีสุดในรอบ 5 ปี โบรกมองแนวโน้มครึ่งปีหลังสดใสต่อเนื่อง


หุ้น TTA เปิดเช้านี้ที่ 21.40 บาท เพิ่ม 1.42% จากราคาปิดวานนี้ที่ 21.10 บาท ขึ้นสูงสุดที่ 21.70 บาท หรือ 2.84% และล่าสุด 10.11 น. อยู่ที่ 21.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 2.37 % มูลค่าซื้อขายรวม 398 ล้านบาท

ทรีนีตี้  แนะนำ "ซื้อ" TTA ที่ราคาเป้าหมาย 25.40 บาท กำไร 3Q57 ดีสุดในรอบ 5 ปี แนวโน้มครึ่งปีหลังสดใสต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยหนุนแนวโน้มธุรกิจหลัก ทั้งเดินเรือและเมอร์เมดโตต่อเนื่องในระยะ 12 เดือนข้างหน้า โดยคาดค่าระวางเรือ Bottom Out ไปแล้ว และคาดบันทึกกำไรพิเศษจากการนำบริษัทลูกเข้าจดทะเบียนในตลาด สำหรับผลการดำเนินงาน 3Q57 (ม.ค.-มี.ค.) มีกำไรสุทธิ 255 ล้านบาท +39%QoQ +193%YoY ดีสุดในรอบ 5 ปี ด้วยแรงหนุนของธุรกิจเดินเรือที่ฟื้นตัว แม้ค่าระวางเรือยังปรับตัวลดลง

อีกทั้งอัตราการใช้ประโยชน์เรือซ่อมบำรุงใต้ทะเลเพิ่มขึ้น ขณะที่ผลขาดทุนของ UMS ลดลงเป็น 6 ล้านบาท จาก 35 ล้านบาทในไตรมาสก่อนหน้า หลังเริ่มทยอยขายถ่านหินขนาดเล็ก ประเมินแนวโน้มปี 4Q57 ยังสดใส ขณะที่ค่าระวางเรือ Supermax และ Handsize เริ่มฟื้นตัวดีในช่วงเดือน ส.ค. อีกทั้งยังมีแรงหนุนจากเรือขุดเจาะที่อยู่ในแนวโน้มขาขึ้น ตามธุรกิจน้ำมันและก๊าซ

ส่วนผลการดำเนินงาน 3Q57 (เม.ย.-มิ.ย.) มีกำไรสุทธิ 255 ล้านบาท +39% QoQ  +193%YoY  โดยผลการดำเนินงานรวมโดดเด่นสุดในรอบ 5 ปี จากกำไรที่เพิ่มขึ้นในทุกธุรกิจ ขณะที่ธุรกิจเดินเรือพลิกเป็นกำไร แม้อัตราค่าระวางเรือ TCE ปรับตัวลดลงเป็น 9,933 เหรียญฯต่อเที่ยวต่อลำ -6%QoQ แต่ค่าใช้จ่ายการดำเนินงานปรับตัวลงเป็น 8,372 เหรียญฯต่อวัน -4%QoQ  ด้านธุรกิจวิศวกรรมใต้ทะเล(บริษัทย่อยเมอร์เมด) หลังอัตราการใช้ประโยชน์ของเรือเพิ่มขึ้น จาก 51% เป็น 66% ส่งผลให้รายได้และ EBITDAปรับตัวเพิ่มขึ้นราว  25% และ 66%QoQ  ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจเรือขุดเจาะทั้ง 3 ลำ ยังโตต่อเนื่อง นอกจากนี้ ภาวะขาดทุนของ UMS เหลือเพียง 6 ล้านบาท (1H57 ขาดทุน 70 ล้านบาท หลังเริ่มทยอยขายถ่านหินขนาดเล็กได้ แต่ยังไม่สามารถขนส่งถ่านอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากห้ามขนส่งผ่านแม่น้ำแม่กลอง 
         
ทั้งนี้คาดค่าระวางเรือ bottom out แล้ว: ในไตรมาสที่ผ่านมา ดัชนีค่าระวางเรือปรับตัวลดลง ส่งผลให้การฟื้นตัวของธุรกิจต้องหยุดชะงัก โดยมีสาเหตุจากการห้ามส่งออกสินแร่และอลูมิเนียมจากอินโดนีเซีย รวมถึงความล่าช้าในการส่งออกธัญพืช ขณะที่การเดินเรือต้องเผชิญกับช่วงมรสุมในเดือน พ.ค.-มิ.ย. อย่างไรก็ตาม เรามองว่าธุรกิจเดินเรือเทกองเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวตั้งแต่ครึ่งปีหลัง  ขณะที่เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงกำลังฟื้นตัว นอกจากนี้ แนวโน้มอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซยังเป็นบวก ในระยะ 12 เดือนข้างหน้า เนื่องจากมีการสำรวจและขุดเจาะอย่างต่อเนื่อง ยังนอกจากนี้ ตลาดยังมีความต้องการใช้งานเรือขุดเจาะแบบสามขา โดยบริษัทได้สั่งซื้อเรือขุดเจาะเพิ่มอีก 2 ลำ เป็น 5 ลำ จากจำนวนเรือในตลาดทั้งหมด ราว 48 ลำทั่วโลก
         
บริษัทได้เตรียมสั่งเรือเพิ่มอีก 5 ลำ จากจำนวนกองเรือปัจจุบัน 25 ลำ เป็น 30 ลำ ในระยะ 12 เดือนข้างหน้า ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาเรือยังต่ำ เพื่อรองรับกิจกรรมขนส่งที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ดัชนีค่าระวางเรือในช่วงเดือน ส.ค. ส่งสัญญาณฟื้นตัวดี ทั้งดัชนี BDI รวมถึง BSI สำหรับเรือ Supermax และ BHSI สำหรับเรือ Handysize คาด แนวโน้มผลประกอบการ 4Q57 ยังคงสดใสต่อเนื่องไปจนถึงปี 58
         
ฝ่ายวิจัยคงประมาณการกำไรสุทธิปี 57 ที่ 976 ล้านบาท โดยกำไรสุทธิ 9 เดือนแรกคิดเป็น 70% ของประมาณการทั้งปี ซึ่งเรามองว่าแนวโน้มผลประกอบการ 12 เดือนข้างหน้ายังสดใสต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจเดินเรือที่ฟื้นตัว รวมถึงรายได้ที่แน่นอนจากสัญญาว่าจ้างของเรือขุดเจาะธุรกิจเมอร์เมดเป็นตัวขับเคลื่อนฐานรายได้  ประเมินราคาเป้าหมาย ที่ 25.40 บาท อิงวิธี SOTP มี upside ราว 19% นอกจากนี้ เรามองว่า การที่บริษัทเตรียมการนำ บริษั้ทลูก PTMA บางคองโก เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์  ซึ่งแนวโน้มธุรกิจปุ๋ยและคลังสินค้ายังเติบโตต่อเนื่องและอยู่เตรียมความพร้อมการขยายกิจการ จะเป็นอีกปัจจัยหนุนการเติบโตของ TTA ในระยะยาว คงคำแนะนำ "ซื้อ"

ที่มา -