คำเตือนมหาประลัยหายนะภัยจากธรรมชาติ ใกล้เอเชีย

[mrtnews]

"สิ่งที่มนุษย์หวาดกลัวขั้นผวามาตลอดอายุขัยตั้งแต่เริ่มมีวัฒนาการมาจนบัดนี้คือ หายนะภัยจากธรรมชาติ...เทพเจ้าผู้ทรงมหิทธานุภาพที่เขย่าขวัญเรามาหลายล้านปี-สองวันมานี้ภูเขาไฟทาวูร์วูร์ที่เอเชียเราหันมองอยู่บ่อยๆ กำลังส่งฤทธิ์เดชขึ้นอีกจนได้"

29 สิงหาคม 2557 เว็บไซต์เอบีซีนิวส์แจ้ง : ภูเขาไฟทาวูร์วูร์ในปาปัวนิวกินี ปะทุพ่นเถ้าถ่านขึ้นสู่ท้องฟ้าไปหลายร้อยเมตร ประชาชนต้องอพยพออกจากชุมชนใกล้เคียง หวั่นเกิดอันตรายจากภูเขาไฟดังที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปี 2550, 2556

โดยทางการเมืองราบวล ซึ่งเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟทาวูร์วูร์ ได้เปิดเผยว่าการปะทุของภูเขาไฟครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 03.00-04.00 น. เสียงระเบิดดังออกมาเป็นระลอก กระจกบ้านเรือนสั่นสะเทือนแตกร้าว ขณะที่ภูเขาไฟก็ได้พ่นเถ้าถ่านสู่ท้องฟ้าไปไกลหลายร้อยเมตร และมีลาวาไหลออกมาจากปากปล่องภูเขาด้วย

ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้กับภูเขาไฟในรัศมีหลายกิโลเมตร อพยพออกจากที่อยู่อาศัย โรงเรียน ร้านค้าต่างๆ พากันปิดทำการ การปะทุของภูเขาไฟกระทบต่อการบินและภูมิอากาศโลกไม่น้อยไปกว่าหายนะภัยในปีที่แล้วมา

ปีที่แล้วมาภูเขาไฟ Ulawun ที่ตั้งอยู่บนเกาะนิวบริเทน ปาปัวนิวกินีแห่งนี้ในความสูง 2,344 เมตรก็มีบันทึกการปะทุ 22 ครั้ง เกิดการระเบิดลูกย่อมๆ อยู่บ่อยครั้ง และปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ออกมาประมาณ 7 กิโลกรัม ซึ่งคิดเป็น 2% ของก๊าซที่ปล่อยออกมาทั้งหมดทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พืชและสัตว์ล้มป่วย ฝนที่ตกลงมามีความเป็นกรดสูง และก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย ทางเดินระบบหายใจ โรคปอด หลอดลมอักเสบ และถ้าสารนี้เข้มข้นมากถึงมากที่สุด ก็อาจเสียชีวิตทันทีเหมือนอดีตที่เกิดในเมืองปอมเปอีสวรรค์ของชาวโรมันภายใต้อำนาจของวิสสุเวียนภูเขาไฟเทพเจ้าตัวจริงที่โลกยังสยองไม่หาย

หากจะนับอันดับ 2 รองความวิบัติของมวลมนุษยชาติจากแรงพิโรธใหญ่ๆ ก็ต้องเหตุการใกล้บ้านเรานี่เลย...

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม เวลา 10 นาฬิกาตรง ได้เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ที่สุดที่กรากะตัวอินโดนีเซีย แรงระเบิดนั้นคร่าชีวิตทุกคนที่ยังอยู่บนเกาะ พื้นที่ร้อยละ 65.52 ของเกาะกลายเป็นเถ้าธุลีลอยสูงขึ้นไปถึง 80 กิโลเมตร ในรัศมี 240 กิโลเมตรจากเกาะ (ระหว่างชวาสุมาตรา) ถูกเถ้าธุลีเหล่านั้นบดบังแสงอาทิตย์จนมืดมิดคล้ายตอนกลางคืน เสียงระเบิดดังกึกก้องมาก จนเมืองปัตตาเวียที่อยู่ห่างจากกรากะตัวถึง 150 กิโลเมตร ผู้คนยังต้องเอามืออุดหูกันเสียงระเบิด และผู้คนที่อาศัยบนเกาะโรดริเกซซึ่งอยู่ห่างจากกรากะตัวถึง 4,776 กิโลเมตร ก็ได้ยินเช่นเดียวกัน นอกจากนี้การระเบิดยังทำให้เกิดคลื่นสึนามิ สูงกว่า 30 เมตร เดินทางไปถล่มเกาะหลายแห่ง แรงแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นตรวจจับได้แม้แต่ที่สหราชอาณาจักร รวมแล้วมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ประมาณ 36,000 คน

กรากะตัวหรือ กรากาเตา ในภาษาอินโดนีเซียเป็นชื่อภูเขาไฟที่ตั้งอยู่บนเกาะชื่อเดียวกัน ระหว่างเกาะชวากับเกาะสุมาตราเป็นทะเล ต่อมาเมื่อประมาณ 1,000,000 ปีก่อน เปลือกโลกบริเวณนี้ได้แยกตัวออก ส่งผลให้แมกมาและธาตุภูเขาไฟจำนวนมากถูกพ่นออกมา และต่อมาแมกมาก็เย็นลงจับตัวกันเป็นภูเขาใต้น้ำ หลายหมื่นปีต่อมา ธาตุภูเขาไฟเริ่มเย็นตัวลง และจับตัวแข็งอยู่ใต้ทะเลเหนือภูเขาใต้น้ำเหล่านั้น และก็เกิดการทับถมอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นเกาะพ้นน้ำขนาดใหญ่ใกล้เคียงกับเกาะชวากับเกาะสุมาตรา แต่เป็นเกาะที่ไม่แข็งแรง จึงค่อยๆ สึกกร่อนไป จนเหลือเฉพาะบริเวณที่แข็งแรง กลายเป็นเกาะขนาดเล็กหลายเกาะ และมีเกาะจำนวนมากที่มีภูเขาไฟ

หินภูเขาไฟและธาตุภูเขาไฟที่ให้เป็นเกาะที่อุดมสมบูรณ์ เหมาะต่อการเกษตรกรรม 3,000 ปีก่อนคริสตกาล มนุษย์กลุ่มแรกๆ จึงตั้งรกรากอาศัยอยู่บนเกาะ ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ทางตะวันตกของอินโดนีเซีย...ความอุดมสมบูรณ์นี้ยั่วยวนมนุษย์ไม่ต่างกันกับปาปัวนิวกินี

ปาปัวนิวกินีที่เพิ่งสัมผัสภัยทรายสีเพลิงร้อนๆ นี้ ตั้งอยู่ในบริเวณตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก อยู่ทางเหนือของประเทศออสเตรเลีย และอยู่ทางตะวันตกของหมู่เกาะโซโลมอน เป็นประเทศที่เปลี่ยนเจ้าของอยู่บ่อยๆ เช่น ประเทศอังกฤษ ประเทศเยอรมนี ประเทศออสเตรเลีย มีลักษณะเป็นภูเขาและชายฝั่งทะเลเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก (รองจากเกาะกรีนแลนด์)

เป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ป่าไม้ ทรัพยากรทางทะเล ทองคำ ทองแดง น้ำมันดิบ แก๊สธรรมชาติ มีบทบาทนำในกลุ่มประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก ส่งออกสินค้าเกษตรไปยังตลาดนิวซีแลนด์ ได้รับโควตาการส่งออกปลาทูน่าไปยังตลาด EU

ปาปัวนิวกินีครบกำหนดตัดริบบิ้นโรงงานในโครงการก๊าซธรรมชาติเหลว (Liquefied Natural Gas-LNG) ของสหรัฐอเมริกา พร้อมด้วยหุ้นส่วนมีมูลค่าประมาณ 15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มหึมาที่สุดในภูมิภาคแปซิฟิกใต้ แต่ผลผลิตจะส่งผ่านท่อไปยังโรงงานที่ตั้งอยู่ใกล้กรุงพอร์ตมอร์สบี เพื่อจำหน่ายไปทั่วโลกได้สมเจตนาลุงแซมและพวกหรือไม่...บางทีบทเรียนจากภูเขาไฟอาจมีคำตอบให้เร็วๆ นี้...

ที่มา -