ข่าว:

คุณ ต้องลงทะเบียนสมัครสมาชิกก่อน ตอบกระทู้หรือตั้งคำถามใหม่ นะครับ

Main Menu

กองทัพเรือจัดพิธีทำบุญเนื่องใน 'วันเรือดำน้ำ'

เริ่มโดย mrtnews, ก.ย 05, 14, 20:27:27 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

กองทัพเรือจัดพิธีทำบุญเนื่องใน "วันเรือดำน้ำ" 4 กันยายน 2557 เพื่อรำลึกถึงประวัติศาสตร์การมีเรือดำน้ำของกองทัพเรือไทย และเชิดชูเกียรติให้แก่อดีตทหาร ...


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 4 กันยายนของทุกปี กองทัพเรือกำหนดให้เป็น "วันเรือดำน้ำ" เพื่อรำลึกถึงประวัติศาสตร์การมีเรือดำน้ำของกองทัพเรือไทย และเชิดชูเกียรติให้แก่อดีตทหาร ที่เคยเป็นนักเรือดำน้ำ บรรดาทหารเรือที่เคยประจำการในเรือดำน้ำ

โดยวันนี้ พล.ร.ต. ภาณุ บุณยะวิโรจ ผู้บัญชาการกองเรือดำน้ำ กองเรือยุทธการ ได้จัดพิธี "วันเรือดำน้ำ 4 กันยายน" พร้อมจัดให้มีพิธีสวดพระพุทธมนต์ และถวายภัตตาหารเพล พระสงฆ์จำนวน 10 รูป และร่วมกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลแด่อดีตนักดำเรือดำน้ำที่เสียชีวิต

สืบเนื่องจาก ปี พ.ศ.2480 เรือดำน้ำ 2 ลำ จากจำนวน 4 ลำ ซึ่งกองทัพเรือได้สั่งต่อจาก บริษัท มิตซูบิชิ ประเทศญี่ปุ่น มีขนาด 370 ตัน ในราคา ลำละ 82,000 บาท และได้รับพระราชทานชื่อทั้ง 4 ลำ คือ เรือหลวงมัจฉานุ (หมายเลข 1) เรือหลวงวิรุณ (หมายเลข 2 ) เรือหลวงสินสมุทร (หมายเลข 3) และเรือหลวงพลายชุมพล (หมายเลข 4 ) ได้สร้างแล้วเสร็จ ทางบริษัทพร้อมที่จะส่งมอบให้แก่ราชนาวีไทย จำนวน 2 ลำก่อน ถึงแม้กองทัพเรือ จะปลดระวางประจำการเรือดำน้ำชุดนี้ไปแล้ว แต่ในอดีตเรือดำน้ำเหล่านี้ ได้เป็นเขี้ยวเล็บที่เสริมสร้างนาวิกานุภาพของไทยให้เข้มแข็งจนเป็นที่เล่าขานในกรณีพิพาทกับฝรั่งเศส และในสงครามมหาเอเชียบูรพาจนกระทั่งสงครามสงบ เรือดำน้ำทั้งหมดได้ปลดระวางประจำการไป เมื่อ 30 พฤศจิกายน 2494 รวมเวลารับใช้กองทัพเรือเป็นเวลา 12 ปีเศษ


เรือดำน้ำสร้างขึ้นมาเพื่อปฏิบัติการทางทหารโดยใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ใต้น้ำอาศัยการซ่อนพรางตัวในพื้นที่ทางยุทธวิธี พยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับข้าศึก หรือปรากฏตัวโดยไม่จำเป็น เข้าจู่โจมโดยไม่ให้ข้าศึกรู้ตัวเป็นการช่วยสนับสนุนด้านความมั่นคงของชาติ ได้แก่ การหาข่าวและเฝ้าระวังการลำเลียงยาเสพติด การรุกล้ำน่านน้ำ รวมถึงการกระทำอันเป็นโจรสลัดในพื้นที่อธิปไตยทางทะเลของชาติ

เรือดำน้ำมีศักยภาพสูงจากคุณสมบัติการซ่อนพรางตัวใต้น้ำ ยากที่ตรวจจับและมีอาวุธเด็ดขาดที่สามารถทำลายกำลังพลทางเรือผิวน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นการเพิ่มกำลังรบทางเรือให้กับกองทัพ หากมองกำลังทหารและยุทโธปกรณ์ของแต่ละประเทศเรือดำน้ำจะช่วยถ่วงดุลอำนาจกำลังรบทางเรือกับประเทศในภูมิภาคปัจจุบันนับเป็นเวลากว่า60 ปีที่กองทัพเรือปราศจากเขี้ยวเล็บอย่างเรือดำน้ำซึ่งกองทัพเรือยังมีความต้องการอยู่เสมอ เริ่มตั้งแต่ปี 2528 แต่สุดท้ายก็ต้องชะลอโครงการออกไป จนกระทั่งปี พ.ศ.2554 กองทัพเรือได้เสนอโครงการจัดหาเรือดำน้ำแบบ 206 เอ จากสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี จำนวน 6 ลำอีกครั้ง แต่โครงการดังกล่าวก็ไม่ประสบความสำเร็จ แต่ความต้องการเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ก็ยังมีอยู่เพื่อเป็นการเสริมเขี้ยวเล็บของกองทัพเรือไทย

สำหรับประเทศเพื่อนบ้านรอบๆ ประเทศไทย เช่น อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย หรือแม้กระทั่ง เวียดนาม ได้บรรจุเรือดำน้ำเข้าประจำการในกองทัพกันหมดแล้ว แม้ปัจจุบันประเทศไทยยังไม่มีเรือดำน้ำเข้าประจำการ แต่ได้ส่งนายทหารเรือไปฝึกการบังคับใช้เรือดำน้ำ ที่ประเทศเกาหลี และประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีปัจจุบันมี พล.ร.ต.ภาณุ บุณยะวิโรจ เป็นผู้บัญชาการกองเรือดำน้ำ กองเรือยุทธการ.

ที่มา -


วันที่ 4 กันยายน คือ วันที่ระลึกเรือดำน้ำของราชนาวีไทย
- ความคิดที่จะมีเรือดำน้ำในกองทัพเรือได้เป็นความจริงขึ้นหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นระบอบประชาธิปไตยแล้ว
- นาวาเอก พระยาวิจารณ์จักรกิจ เป็นผู้บัญชาการทหารเรือในสมัยนั้นได้เรียกประกวดราคาสร้างเรือดำน้ำในเดือน ตุลาคม 2478
- กองทัพเรือ ลงนามเซ็นสัญญากับบริษัทมิตซูบิซิ เมืองโกเบ ให้สร้างเรือดำน้ำขนาด 370 ตัน จำนวน 4 ลำ ในราคาลำละ 820,000 บาท เมื่อ 5 พ.ย.2478
- เรือทั้ง 4 ลำ ได้รับพระราชทานชื่อภายหลังว่า
(1) ร.ล.มัจฉาณุ
(2) ร.ล.วิรุณ
(3) ร.ล.สินสมุทร
(4) ร.ล.พลายชุมพล
- ร.ล.มัจฉาณุ และ ร.ล.วิรุณ แล้วเสร็จสมบูรณ์และทำพิธีส่งมอบให้ ทร.พร้อมส่งคนลงประจำเรือ ในวันที่ 4 ก.ย. 2480
- ทหารเรือจึงถือเอาวันที่ 4 กันยายน เป็นวันที่ระลึกเรือดำน้ำ
- ร.ล.สินสมุทร และ ร.ล.พลายชุมพล เสร็จสมบูรณ์และส่งมอบในวันที่ 30 เม.ย. 2481
- วันที่ 5 มิ.ย. 2481 เรือดำน้ำแห่งราชนาวีไทยได้เดินทางกลับประเทศไทยพร้อมกันทั้ง 4 ลำ โดยไม่มีเรือพี่เลี้ยง มี ร.อ.กนก นพคุณ ผู้บังคับการ ร.ล.มัจฉาณุ เป็นผู้ควบคุม
- ในระหว่างทางได้แวะพักที่เมืองท่าคีลุง เกาะฟอร์โมซา และเมืองมนิลาประเทศฟิลิปปินส์สองแห่งเท่านั้น
- เดินทางถึงกรุงเทพฯเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2481 รวมระยะทางทั้งสิ้น 3,000 ไมล์ นั่นแสดงถึงความสามารถของลูกนาวีไทย
- ขึ้นระวางประจำการ 19 ก.ค.2481
- ปลดประจำการ 30 พ.ย.2494
- ข้อมูลเหล่านี้ได้มาจาก หนังสือในงานพระราชทานเพลิงศพ พล.ร.อ.จริง จุลละสุขุม หนึ่งในอดีตนักดำเรือดำน้ำ ทร.บิดาของ พล.ร.ต.ดนัย จุลละสุขุม