'บุญเลิศ' มั่นใจแหลมฉบังได้เป็นเขตปกครองพิเศษเหมือนกับพัทยา

[mrtnews]

"บุญเลิศ" อดีตนายกเทศมนตรี ต.แหลมฉบัง มั่นใจแหลมฉบังได้เป็นเขตปกครองพิเศษ หลังคณะกรรมการการกระจายอำนาจไฟเขียว

นายบุญเลิศ น้อมศิลป์ ประธานที่ปรึกษาคณะผู้บริหารเทศบาลนครแหลมฉบัง อดีตนายกเทศมนตรีตำบลแหลมฉบัง กล่าวว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลจะผลักดันแหลมฉบังเป็นรูปแบบเมืองพิเศษหลังจากนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยมีคณะผู้บริหารจากกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการคลัง ตลอดจนผู้ทรงคุณวุฒิ และคณะผู้บริหารจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) เข้าร่วมประชุมเมื่อวันที่8 ตุลาคมที่ผ่านมา

สมัยที่เป็นนายกเทศมนตรีได้พยายามเรียกร้องให้แหลมฉบังเป็นเมืองพิเศษ แต่กระทรวงมหาดไทยขอร้องให้เป็นเทศบาลนครไปก่อน การที่พยายามเรียกร้องให้เป็นเมืองพิเศษ เนื่องจากในพื้นที่ประกอบไปด้วยท่าเรือแหลมฉบัง มีเรือต่างประเทศเข้ามาเดือนละ 500-600 ลำ มีตู้คอนเทนเนอร์ขนสินค้าที่จะต้องขนย้ายส่งออกไปต่างประเทศปีละไม่น้อยกว่า 6 ล้านตู้ รวมทั้งมีนิคมอุตสาหกรรมตั้งอยู่ในพื้นที่ มีโรงงานกว่า 130 แห่ง นอกจากนี้ยังมีบริษัทต่างๆ ในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์กว่า 80 บริษัท และโรงกลั่นน้ำมัน เอสโซ่ โรงกลั่นน้ำมันปตท. รวมทั้งโรงกลั่นน้ำไทยออยล์ ทำรายได้ให้กับประเทศปีละไม่น้อยกว่า 2 แสนล้านบาท หากมองไปในประเทศต่างๆ จะเห็นว่าเมืองที่มีท่าเรือจะโตเป็นอันดับ 2 ของเมืองหลวง

จะมีการยกฐานะเป็นเมืองพิเศษ เหมือนกับพัทยาหรือ กรุงเทกมหานคร ขณะนี้เมืองแหลมฉบังโตขึ้นมาก สร้างรายได้ให้กับรัฐบาลมากมายมหาศาล สมควรแล้วที่จะได้รับการยกฐานะเป็นเมืองพิเศษ ซึ่งในตอนนี้คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้ให้ทางกระทรวงมหาดไทยได้ศึกษาข้อมูลของเทศบาลนครแหลมฉบังอีกครั้งเพื่อที่จะผลักดันให้เป็นเขตปกครองพิเศษ ต่อไป ที่ผ่านมาเทศบาลนครแหลมฉบัง สามารถสร้างรายได้ให้กับรัฐบาล เป็นจำนวนมาก แต่งบประมาณที่กลับมาพัฒนาพื้นที่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ดังนั้นควรจะต้องมีการยกฐานะเป็นเมืองพิเศษ เพื่อสะดวกและรวดเร็วในการพัฒนาต่อไป

สำหรับพื้นที่เทศบาลนครแหลมฉบัง มีกลุ่มผู้ประกอบการหลายรูปแบบ เช่น นิคมอุตสาหกรรม ,การท่าเรือแหลมฉบัง และกลุ่มปิโตรเลี่ยม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สร้างรายได้ให้กับรัฐบาล แต่หากมีงบประมาณและอำนาจหน้าที่ในการบริหารงานเพิ่มมากขึ้น การพัฒนาหรือปรับปรุงเพื่อรองรับการเจริญเติบโต ก็สามารถดำเนินการได้เต็มที่และทันท่วงทีที่ที่เกิดขึ้นด้วย

ที่มา -