ผู้ว่าฯ ภูเก็ต ตรวจการทำงานศูนย์ควบคุมเรือยอร์ชจังหวัดภูเก็ต หรือ ศูนย์ PYCC

[mrtnews]

เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 57 นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เดินทางลงพื้นที่ไปยังบริเวณท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เพื่อตรวจเยี่ยมการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานประจำอยู่ ณ ศูนย์ควบคุมเรือยอร์ชจังหวัดภูเก็ต หรือ ศูนย์ PYCC โดยมี นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต พร้อมด้วย พล.ร.ต.สมชาย ณ บางช้าง เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 / พ.ต.ท.ฉัตรชัย ศักดิ์ดี สารวัตรตำรวจน้ำจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ด้วย

นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ กล่าวภายหลังการตรวจเยี่ยมการทำงานของเจ้าหน้าที่ ว่า ศูนย์ควบคุมเรือยอร์ช นั้นเป็นศูนย์รักษาความปลอดภัยทางทะเล ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัย และการจัดการจราจรทางน้ำ เพื่อป้องกันการลักลอบการกระทำผิดกฎหมาย และป้องกันเหตุอันจะเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ โดยศูนย์นี้จะเป็นศูนย์ที่รวบรวมข้อมูลในการรายงานต่อผู้บังคับบัญชาหากเกิดเหตุการณ์ขึ้น

โดยศูนย์ควบคุมเรือยอร์ชจังหวัดภูเก็ต เป็นจุดตรวจการเข้า–ออก ของเรือสำราญและกีฬาประเภทเรือยอร์ช ในจังหวัดภูเก็ต เพียงแห่งเดียว เป็นจุดให้บริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินงานผ่านระบบออนไลน์ ระบบเรดาร์ และระบบ AIS ซึ่งระบบ AIS นั้น เป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งบนเรือ เพื่อแจ้งข้อมูลที่ตั้งเกี่ยวกับเรือให้กับเรือลำอื่น ๆ และหน่วยงานชายฝั่งที่ติดตั้งอุปกรณ์ ระบบ AIS ให้ทราบถึงเส้นทางการเดินเรือ ทั้งนี้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการสัญจรทางน้ำ

นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธ์ กล่าวว่า สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต ได้แบ่งการดำเนินงานเกี่ยวกับการติดตั้งระบบ AIS ซึ่งเป็นสถานีควบคุม ออกเป็น 3 เฟส ประกอบด้วย เฟสแรกใช้งบประมาณ 15 ล้านบาท ติดตั้งในจังหวัดภูเก็ต 3 จุด /ส่วนในเฟสที่ 2 ซึ่งใช้ประมาณ 45 ล้านบาท ติดตั้งในภูเก็ต จำนวน 6 จุด /พังงา 2 จุด / กระบี่ 2 จุด โดยในเฟสที่ 1 และ เฟสที่ 2 ติดตั้งเรียบร้อยแล้ว มีรัศมีครอบคลุม 8 ไมล์ทะเล หรือ ประมาณ 15 กิโลเมตร ขณะที่เฟส 3 อยู่ในระหว่างดำเนินการ ซึ่งทางจังหวัดภูเก็ต สนับสนุนงบประมาณ จำนวน 40 ล้านบาท โดยวางเป้าหมายการติดตั้งให้ครอบคลุมฝั่งอันดามัน เพื่อยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยการจราจรทางน้ำ แก่นักท่องเที่ยว และผู้สัญจรทางน้ำ นอกจากนี้ยังได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวและเรือโดยสารที่มีขนาดความจุ ตั้งแต่ 25 คน ขึ้นไป ให้ติดตั้งระบบ AIS เพื่อเป็นสัญญาณติดตามการเดิน ทั้งนี้ ได้มีผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวและเรือโดยสารบางส่วนได้เริ่มติดตั้งไปบ้างแล้ว

ที่มา -