ญี่ปุ่นลด “โควตาจับวาฬ” เกินครึ่ง หวังกล่อมนานาชาติเชื่อทำวิจัยจริง

[mrtnews]

เอเอฟพี – ญี่ปุ่นประกาศในวันนี้ (18 พ.ย. 57 ) ว่า จะตัดลดโควตาการจับวาฬในแถบแอนตาร์กติกลงราว 2 ใน 3 โดยเป็นความเคลื่อนไหวที่พวกเขาหวังว่าจะช่วยโน้มน้าวเหล่าผู้ต่อต้านจากนานาชาติให้เชื่อว่า พวกเขากำลังดำเนินการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ว่าด้วยการสำรวจในภูมิภาคนี้จริงๆ

ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นศาลสูงสุดขององค์การสหประชาชาติ มีคำตัดสินเมื่อเดือนมีนาคมว่า ญี่ปุ่นกำลังละเมิดข้อยกเว้นทางวิทยาศาสตร์ที่มีระบุในสนธิสัญญาว่าด้วยการล่าวาฬปี 1986

ศาลระบุว่า โครงการที่เป็นประเด็นโต้เถียงกันนี้ ซึ่งพบว่ามีเรือที่ได้รับการอุดหนุนด้านภาษีหลายลำไล่ล่าแทงฉมวกใส่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมยักษ์ใหญ่เหล่านี้และจากนั้นก็ขายเนื้อของพวกมันโดยอ้างว่าเป็นผลผลิตพลอยได้ เป็นการล่าเชิงพาณิชย์ที่ใช้การวิจัยบังหน้า

คณะผู้พิพากษา ระบุว่า ประเทศใดก็ตามที่ต้องการใช้ประโยชน์จากข้อยกเว้นทางวิทยาศาสตร์นี้ ต้องแสดงให้เห็นว่าเหตุใดถึงมีความจำเป็นที่จะต้องสังหารวาฬเพื่อทำการการวิจัย

หลังคำพิพากษาดังกล่าว ญี่ปุ่นได้สั่งยกเลิกการล่าวาฬในแถบแอนตาร์กติกช่วงปี 2014-2015 แต่ระบุว่า พวกเขามีแผนที่จะดำเนิน "การล่าวาฬเพื่อการวิจัย" อีกครั้งในปี 2015-2016

ในแผนการใหม่ฉบับนี้ที่ได้เสนอต่อคณะกรรมาธิการล่าวาฬระหว่างประเทศ (IWC) และคณะกรรมาธิการด้านวิทยาศาสตร์ของตนแล้ว ญี่ปุ่นได้วางเป้าหมายใหม่ประจำปีไว้ที่จำนวนวาฬมิงค์ 333 ตัว ลดจากราว 900 ตัวภายใต้โครงการที่แล้ว รัฐบาลกล่าวในถ้อยแถลง

การจับในระดับนี้เป็น "สิ่งจำเป็น" เพื่อเก็บข้อมูลด้านอายุของประชากรวาฬ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ทางญี่ปุ่นระบุว่า จำเป็นที่จะต้องอนุญาตให้มีการกำหนด "ขีดจำกัดการจับในระดับที่ปลอดภัย" เช่นนี้และเพื่อรับประกับความยั่งยืน

โตเกียวยังได้กำหนดระยะเวลาการวิจัยนี้เป็น 12 ปีนับตั้งแต่ปีการเงิน 2015 เพื่อตอบสนองคำวิจารณ์ของศาลที่ตำหนิสภาพของโครงการนี้ว่าไม่มีการกำหนดระยะเวลาล่วงหน้า

โคยะ นิชิคาวา รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร , ป่าไม้ และประมง บอกกับผู้สื่อข่าวว่า "เราจะอธิบายแผนการใหม่นี้ด้วยความสัตย์ซื่อ เพื่อแต่ละประเทศได้มีความเข้าใจ"

ญี่ปุ่นสังหารวาฬมิงค์ 251 ในแถบแอนตาร์กติกในช่วงปี 2013-2014 และ 103 ตัวในปีก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้มาก เพราะการดำเนินการขัดขวางจากกลุ่มเคลื่อนไหว ซี เชพเพิร์ด

โตเกียวยังได้ดำเนินการล่าวาฬในนามวิทยาศาสตร์ในมหาสมุทรแปซิฟิกฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งฆ่าวาฬไปได้กว่า 132 ตัวในปี 2013 และ 92 ตัวที่นอกชายฝั่งแดนอาทิตย์อุทัย

ในปีนี้กลุ่มเฝ้าระวังการล่าวาฬของโลก (IWC) เห็นพ้องที่จะยกระดับการตรวจสอบการล่าในแถบแอตแลนติกให้เข้มงวดขึ้น แต่ปฏิเสธว่ามีความพยายามที่จะขยายการคุ้มครองในแถบแอตแลนติกใต้ ขณะที่พวกเขากำลังพยายามหาสมดุลระหว่างข้ออ้างของการล่าตามประเพณีกับการอนุรักษ์


ที่มา -



ญี่ปุ่นลดจำนวนล่าวาฬฤดูกาลหน้า 2 ใน 3

ญี่ปุ่นประกาศลดโควต้าการล่าวาฬในมหาสมุทรใต้ลง 2 ใน 3 นับเป็นความเคลื่อนไหวที่หวังโน้มน้าวกลุ่มต่อต้านในต่างประเทศ

ญี่ปุ่นประกาศลดโควต้าการล่าวาฬในมหาสมุทรใต้ลง 2 ใน 3 นับเป็นความเคลื่อนไหวที่หวังโน้มน้าวกลุ่มต่อต้านในต่างประเทศ เชื่อว่าญี่ปุ่นล่าวาฬเพื่อการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการย้ายถิ่นฐานของวาฬในภูมิภาค

ก่อนหน้านี้ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือไอซีเจ ซึ่งเป็นศาลสูงสุดของสหประชาชาติหรือยูเอ็น มีคำตัดสินเมื่อเดือนมีนาคมว่า การล่าวาฬประจำปีในมหาสมุทรใต้ที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น ละเมิดข้อยกเว้นทางวิทยาศาสตร์ที่ระบุในข้อตกลงระงับการล่าวาฬชั่วคราวเมื่อปี 2529 เนื่องจากมีจุดประสงค์เพื่อการพาณิชย์ไม่ใช่เพื่อการวิจัย และได้สั่งให้ญี่ปุ่นยุติการล่าวาฬด้วย

ล่าสุด รัฐมนตรีการเกษตร ป่าไม้ และการประมงญี่ปุ่น นายโคยะ นิชิคาวะ แถลงว่า แผนใหม่ซึ่งได้ยื่นต่อคณะกรรมการการล่าวาฬระหว่างประเทศหรือไอดับเบิลยูซี จะลดจำนวนการล่าวาฬมิงค์สำหรับฤดูกาล 2558-2559 เหลือ 333 ตัว จากประมาณ 900 ตัวที่ระบุไว้ก่อนหน้านี้ และบอกว่า รัฐบาลจะอธิบายแผนใหม่อย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้แต่ละประเทศได้เข้าใจการล่าวาฬของญี่ปุ่นมากขึ้น

ทั้งนี้ ในฤดูกาล 2556-2557 ญี่ปุ่นล่าวาฬมิงค์ในมหาสมุทรใต้ไปแล้ว 251 ตัว และ 103 สำหรับฤดูกาลก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าเป้าที่วางไว้อย่างมาก เนื่องจากมีการประท้วงและขัดขวางจากกลุ่มนักเคลื่อนไหว "ซี เชพเพิร์ด" นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังล่าวาฬเพื่อการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนเหนือจำนวน 132 ตัวและนอกชายฝั่งตะวันออกของประเทศอีก 92 ตัวในปี 2556 แต่หลังจากมีคำตัดสินของศาลระหว่างประเทศ ญี่ปุ่นก็ได้ยกเลิกการล่าวาฬฤดูกาลนี้ แต่ก็ยืนยันว่าจะกลับมาล่าใหม่อีกครั้งในฤดูกาลหน้า

ที่มา -

[youtube=640,390]http://www.youtube.com/watch?v=HExK2h5CQCw[/youtube]