ข่าว:

ห้ามโพส ปั่นลิงก์ SEO ในส่วนของ ลายเซ็นสมาชิกเพื่อจะแสดงที่ด้านล่าง ของแต่ละข้อความที่ตอบกระทู้ เช่น คาสิโน บาคาร่า แทงบอล ฯลฯ เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

วุ่นไม่จบสายเดินเรือขึ้นค่า THC วอนเก็บชั่วคราว 2,820 บาทไปก่อน 6 เดือน

เริ่มโดย mrtnews, ก.พ 18, 15, 20:18:18 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

สมาคมผู้นำเข้าและผู้ส่งออกยื่นข้อ เสนอสายเดินเรือเก็บค่า THC ชั่วคราวที่ 2,820 บาทต่อตู้ 20 ฟุต ไปก่อน 6 เดือน หลังครบกำหนดสิ้น ก.พ.ยังไม่ได้ข้อยุติด้านสายเดินเรือบอกขอหารือบริษัทแม่ พร้อมให้คำตอบสัปดาห์นี้


นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายในเปิดเผยว่า ขณะนี้ทางกรมการค้าภายใน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พยายามเจรจาหารือกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อหาอัตราที่เหมาะสมในการเรียกเก็บค่าภาระการขนถ่ายสินค้าหน้าท่า (THC) ของสายการเดินเรือ จนถึงตอนนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน แต่ในเบื้องต้นทางผู้ประกอบบางส่วนได้เสนอให้มีเรียกเก็บค่าภาระหน้าท่าอยู่ที่ 2,739 บวกอีก 3% เท่ากับค่าจ่ายใช้ทั้งสิ้น 2,820 บาทต่อตู้ 20 ฟุต ให้มีผลตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป เป็นระยะเวลา 6 เดือน ก่อนที่จะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนอีกครั้ง แต่ทางผู้ประกอบการสายเดินเรือได้ขอเวลาในการนำเรื่องดังกล่าว กลับไปหารือและแจ้งบริษัทแม่ก่อน โดยจะมาให้คำตอบภายในสัปดาห์นี้

ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการสายเดินเรือไม่เห็นด้วยกับค่าใช้จ่ายที่มีการเสนอมา และด้วยความจำเป็นกรมการค้าภายในอาจจะต้องขอความร่วมมือผู้ประกอบการสายเดินเรือตรึงค่าใช้จ่ายเดิมที่ 2,600 บาทต่อตู้ 20 ฟุต ออกไปอีก 6 เดือนเช่นกัน จนกว่าจะได้ข้อยุติของค่า THC ที่ชัดเจนและเหมาะสม ขณะเดียวกันต้องเร่งศึกษา สำรวจต้นทุนที่แท้จริงของค่า THC เพื่อหาค่าใช้จ่ายที่เหมาะสมกับทั้ง 2 ฝ่าย

"ที่ผ่านมา กรมการค้าภายในได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการสายเดินเรือ ให้ชะลอการปรับขึ้นค่า THC ออกไป 60 วันนับตั้งแต่ต้นปี 2558 จะครบกำหนดในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ค่าใช้จ่ายภาระหน้าท่าที่ผู้ประกอบการบางส่วนเสนอให้กับสายเดืนเรือเรียกเก็บชั่วคราวไปก่อนนี้ ยังไม่ใช่ข้อสรุป ต้นทุนที่แท้จริง เป็นเพียงค่าใช้จ่ายที่ได้เจรจา ประนีประนอมกัน จากที่ได้หารือและประชุมกันมาหลายครั้ง จึงได้อัตราค่าใช้จ่ายดังกล่าวนี้มา หากทางผู้ประกอบการสายเดินเรือเห็นชอบกับค่าใช่จ่ายนี้" นายสันติชัยกล่าว

โดยระหว่าง 6 เดือนที่ขอความร่วมมือกรมจะเร่งเสนอให้คณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ หรือ กกร. ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน พิจารณาในการตั้งอนุกรรมการเพื่อพิจารณาความเหมาะสมในการเรียกเก็บค่าภาระหน้าท่า เพื่อให้มีผลทางกฎหมายโดยจะเพิ่มนักวิชาการ และองค์กรภาคเอกชนด้านโลจิสติกส์ และผู้นำเข้า-ส่งออกเข้าในอนุกรรมการ เพื่อให้มีการยอมรับมากขึ้น

นายคงฤทธิ์ จันทริก ผู้อำนวยการบริหาร สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับอัตราค่าใช้จ่ายที่มีการเสนอให้ผู้ประกอบการสายเดินเรือเก็บนั้น เป็นข้อเสนอจากสมาคมผู้นำเข้าและผู้ส่งออกระดับมาตรฐานเออีโอ ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 126 บริษัท โดยเสนอให้เรียกเก็บในอัตราค่าใช้จ่ายที่ 2,739 บาทต่อตู้ 20 ฟุต ซึ่งเป็นค่าใช้จ่าย 3 รายการ คือ ค่ายกตู้หน้าท่าเรือ ค่าใช้จ่ายผ่านท่าเรือ และค่าธรรมเนียมน้ำมัน หรือ ค่า Crane & Stevedore, Wharfage และ Fuel Surcharge และบวกอีก 3% คือค่าบริการจัดการที่ให้กับบริษัทสายเดินเรือรวมแล้วคิดเป็นอัตราค่าใช้จ่ายภาระการขนถ่ายสินค้าหน้าท่า(THC) ทั้งสิ้น2,820 บาทต่อตู้ 20 ฟุต ทั้งนี้ ทางสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือยังไม่สามารถยอมรับกับอัตราค่าบริการดังกล่าว เนื่องจากค่าบริหารจัดการเหมือนเป็นการเพิ่มกำไรให้กับสายเดินเรือ ซึ่งมองว่าไม่จำเป็น


โดยสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือยังต้องการให้เรียกเก็บในอัตรา 2,600 บาทต่อตู้ 20 ฟุต ซึ่งมีความเหมาะสม กับผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก มากกว่าและเป็นที่ยอมรับในอัตราค่าใช้จ่ายดังกล่าวด้วย และระหว่างเก็บอัตราค่าใช้จ่ายนี้ ต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดทำโครงสร้างค่าใช้จ่ายขนส่งสินค้าทางทะเลทั้งระบบ เพื่อให้ได้อัตราค่าใช้จ่ายที่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง และให้ยึดอัตราค่าใช้จ่ายนี้ หากในอนาคตเมื่อมีต้นทุน หรือภาระ ที่มีความจำเป็นต้องปรับขึ้น เพื่อให้สอดคล้อง สามารถพิจารณาเป็นเรื่อง ๆ ไป และให้ปรับขึ้นไปได้ เพื่อให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับต้นทุนปัจจุบันในขณะนั้น ซึ่งเห็นว่าผู้ประกอบการ ผู้ส่งออกยอมรับได้

"สมาชิกของสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือมีกว่า 2,300 บริษัท และมีบางรายยังเป็นสมาชิกในสมาคมผู้นำเข้าและผู้ส่งออกฯด้วย ทั้งนี้ มองว่าการที่สมาคมผู้นำเข้าและผู้ส่งออกฯเสนออัตราค่าใช้จ่ายนี้ ยังสามารถต่อรองอัตราค่าใช้จ่ายให้ถูกลงได้ ขณะที่ทางสภาผู้ส่งสินค้าฯ ส่วนใหญ่อำนาจต่อรองสายเดินเรือน้อยกว่า การเสนอราคาดังกล่าวจึงมองว่ายังไม่เหมาะสม และทางสภาผู้ส่งสินค้าฯ ต้องเจรจา ต่อรองให้กับผู้ส่งออก ผู้ประกอบการที่ไม่ได้เป็นสมาชิกด้วย ตอนนี้คงต้องรอดูคำตอบจากสายเดินเรือก่อน"

ที่มา -