เครือนทลิน จับธูรกิจเรือเดินสมุทรแต่งตัวเตรียมพร้อมเข้าตลาดหุ้น

[mrtnews]

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 - นายอภิสิทธิ์ รุจิเกียรติกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีออยล์(SEAOIL) เปิดเผยว่า เครือนทลิน ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ SEAOIL มีแผนจะผลักดันธุรกิจเรือเดินสมุทรในเครือเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างบริษัทเพื่อแปรสถาพเป็นบริษัทมหาชน ซึ่งอาจจะปรับไปเป็นรูปแบบของบนิษัทโฮลดิ้ง

"นทลิน กรุ๊ป ที่เป็นบริษัทแม่เตรียมผลักดันบริษัทที่ประกอบธุรกิจเรือเดินสมุทรเข้าตลาดหุ้น แต่อาจจะเป็นการตั้งเป็นบริษัทโฮลดิ้ง เพราะปัจจุบันในนทลิน กรุ๊ป มีบริษัทย่อยทั้งหมดถึง 42 บริษัท"นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ส่วนของ Sea Oil แถลงทิศทางปี 2558 พร้อมรับมือกับราคาน้ำมันที่ผันผวน ดังนี้

- Sea Oil มีการเข้าซื้อหุ้นของ Pan Orient Energy ในไทย จำนวน49.99% เพื่อสำรวจและขุดเจาะพลังงานเพิ่มเติม

- ทำการศึกษาเพื่อแสวงหาความเป็นได้ในการลงทุน จากการสัมปทานปิโตรเลียมครั้งที่ 21

- ราคาน้ำมันที่ตกลงในปีที่แล้วส่งผลให้แท่นขุดน้ำมันปิดทำการไปหลายแห่ง เนื่องจากไม่คุ้มทุน ทำให้การขุดเจาะน้ำมันในทุกบริษัทต้องทำอย่างรอบคอบ

- ราคาน้ำมันมีโอกาสที่จะขึ้นไปถึง 80 เหรียญต่อบาร์เรล เนื่องจากปริมาณการผลิตน้ำมันในประเทศลดลง ในขณะที่การใช้พลังงานไม่ได้ลงลงมากนัก

- นทลิน ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Sea Oil กำลังปรับโครงสร้างบริษัทในเครือเพื่อเข้าตลาดหลักทรัพย์ หลังจากที่ Sea Oil เข้าตลาดในปี 2556

ที่มา -



SEAOIL มั่นใจรายได้-กำไรปีนี้โตมากกว่า 20% เตรียมสรุปดีลซื้อกิจการ-แผนลงทุนธุรกิจใหม่ เม.ย. นี้

'ซีออยล์'มั่นใจรายได้-กำไรปีนี้โตมากกว่า 20% หลังธุรกิจขายเดิมขยายตัว เริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจขุดเจาะน้ำมัน เผยเตรียมสรุปดีลซื้อกิจการ - แผนลงทุนธุรกิจใหม่ ต้นเดือน เม.ย. นี้ พร้อมตั้งงบลงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท

นางสาวนีรชา ปานบุญห้อม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ SEAOIL เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้รวมปี 58 โตมากกว่า 20% เนื่องจากธุรกิจเดิม คือการจำหน่ายน้ำมันคาดว่าจะโต 20% เนื่องจากบริษัทขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น เช่น สิงคโปร์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ทำให้ปริมาณขายน้ำมันเพิ่มขึ้น

รวมถึงบริษัทฯจะรับรู้รายได้จากบริษัท แพน โอเรียนท์ เอ็นเนอยี่ (สยาม) ลิมิเต็ด (POES) ซึ่งทำธุรกิจขุดเจาะและสำรวจน้ำมัน ตั้งแต่เดือนมี.ค.เป็นต้นไป แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะรับรู้รายได้จากบริษัทดังกล่าวในสัดส่วนเท่าใด เพราะบริษัทเพิ่งเข้าซื้อหุ้นในช่วงต้นเดือนก.พ. ที่ผ่านมา โดยคาดว่าภายในไตรมาส 2 ปีนี้ จะประเมินตัวเลขได้ชัดเจน หลังจากได้เข้าไปประชุมกับฝ่ายบริหารของบริษัท  แพน โอเรียนท์ เอ็นเนอยี่ (สยาม) ลิมิเต็ด (POES)

ทั้งนี้ บริษัทฯมั่นใจว่ากำไรสุทธิปี 58 จะเพิ่มขึ้น 20% จากปี 57 เนื่องจากบริษัทฯจะรับรู้รายได้และกำไรจากแพน โอเรียนท์ฯ เข้ามา เพราะบริษัทดังกล่าวมีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) และอัตรากำไรสุทธิ (Net Margin) ที่สูง ต่างจากธุรกิจเดิมของบริษัทที่มี Net Margin ต่ำเพียง 2-3%

"ปกติที่ผ่านมารายได้ของ SEAOIL มาจากการขายน้ำมันปีละ 3,000 ล้านบาท ซึ่งปีนี้บริษัทฯมีแผนขยายตลาดต่างประเทศมากขึ้น และมีการตั้งสาขาซื้อขายน้ำมันระหว่างประเทศ รวมทั้งปีนี้จะมีการรับรู้รายได้และกำไรจากธุรกิจขุดเจาะเและสำรวจน้ำมัน ก็จะทำให้รายได้รวมของบริษัทฯ โตมากกว่า 20% "นางสาวนีรชา กล่าว

นางสาวนีรชา กล่าวว่า บริษัทจะมีความชัดเจนในเรื่องการซื้อกิจการธุรกิจขุดเจาะและสำรวจน้ำมันและแผนการลงทุนธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจน้ำมันในช่วงต้นเดือนเม.ย.นี้  รวมทั้งจะทราบว่าจะหาเงินจากแหล่งใดมาลงทุน โดยเบื้องต้นบริษัทคาดว่าจะใช้งบลงทุนปีนี้มากกว่า 100 ล้านบาท

"ขณะนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างศึกษาการเข้าซื้อกิจการธุรกิจที่เกี่ยวกับการขุดเจาะและสำรวจน้ำมันอยู่หลายบริษัท และอยู่ระหว่างการพิจารณาการลงทุนธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน จากปัจจุบันบริษัทฯประกอบธุรกิจทางด้านต้นน้ำและปลายน้ำ ซึ่งระหว่างทางก็ยังมีอีกหลายธุรกิจที่บริษัทสามารถเข้าไปลงทุนได้ โดยคาดว่าในต้นเดือนเม.ย. 58 จะมีความชัดเจน ซึ่งหากสรุปการลงทุน จะมีการพิจารณาหาแหล่งเงินทุนที่เหมาะสม เบื้องต้นบริษัทสามารถกู้สถาบันการเงินได้ถึง 2-3 พันล้านบาท เพราะมีหนี้สินต่อทุนเพียง 0.3 เท่า และบริษัทยังมีเงินทุนหมุนเวียน 2,000 ล้านบาท มีส่วนผู้ถือหุ้น 500-600 ล้านบาท นอกจากนี้ยังสามารถระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้ จึงไม่มีปัญหาในการจัดหาแหล่งเงินทุน"นางสาวนีรชา กล่าว

ที่มา -