เรือสำราญยอมออกค่าเครื่องบินให้ ตม. ไปตรวจนักท่องเที่ยวที่สิงคโปร์

[mrtnews]

นายสุวัตร สิทธิหล่อ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงฯได้มีการหารือกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางเรือสำราญ ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาเรื่องความล่าช้าของขั้นตอนการผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่ทำให้นักท่องเที่ยวต้องใช้เวลาในการทำขั้นตอนนี้นาน และทำให้เสียเวลาในการท่องเที่ยวบนบก อีกทั้งยังเสียรายได้จากการจับจ่ายสินค้า ซึ่งทำรายได้ให้กับประเทศไทยสูง

โดยได้ข้อสรุปว่า ให้บริษัทเรือสำราญจากต่างประเทศที่จะนำนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ติดต่อกับ ตม.ล่วงหน้า รวมถึงส่งรายชื่อผู้โดยสารและลูกเรือ จำนวนวันพำนัก เพื่อให้ ตม.ได้ดำเนินการจัดเจ้าหน้าที่ไปดำเนินการตรวจนักท่องเที่ยวก่อนที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเป็นสถานที่จอดพักเรือก่อนที่จะเดินทางต่อมายังประเทศไทย แต่บริษัทเรือสำราญจะต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายสำหรับค่าตั๋วเครื่องบินในการเดินทางให้กับเจ้าหน้าที่ ตม. คาดว่าจะเริ่มดำเนินการตามที่ได้หารือกันนี้ได้ภายใน? 2 สัปดาห์

"เดิมนักท่องเที่ยวต้องเสียเวลามาก ในการประทับตราผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง และขั้นตอนอื่นๆอีกเฉลี่ย 1 คน ใช้เวลาทำขั้นตอนต่างๆ 1 นาที และในแต่ละผลัดมีเจ้าหน้าที่เพียง 4 คน จากนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาทางเรือ 1 ลำ ประมาณ 1,000-4,000 คน การประทับตราเมื่อถึงท่าเรือไทย จึงเสียเวลามาก"นายสุวัตร กล่าว

ทั้งนี้ปัจจุบันนักท่องเที่ยวทางเรือสำราญ เริ่มเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้น จากนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่นิยมท่องเที่ยวทางเรือสำราญ 19 ล้านคน โดยเข้ามาท่องเที่ยวในเอเชีย 2 ล้านคน หรือ15% และเดินทางเข้าสู่น่านน้ำไทยในปี 2555 ถึง 3 แสนคน สร้างรายได้ 3,000 ล้านบาท และในปี 2556 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น25% หรือ 5 แสนคน?โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะมีการใช้จ่ายเฉลี่ย 5,000 บาทต่อคนต่อวัน

นางพรทิพย์ หิรัญเกตุ รองประธานฝ่ายการตลาด สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) กล่าว่า การท่องเที่ยวทางเรือสำราญเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะท่าเรือภูเก็ต คาดว่าปี 2556 จะมีเรือสำราญเข้ามา 250 เที่ยว แต่ละเที่ยวมีจำนวนผู้โดยสารและลูกเรือเกือบ 5,000 คน แต่ท่าเรือที่ภูเก็ตมีขนาดเล็ก ทำให้มีปัญหาการจอดเทียบท่า และนักท่องเที่ยวมีปัญหาในเรื่องแท็กซี่ป้ายดำ จึงอยากให้รัฐบาลเข้ามาดูแลจัดตั้งเคาน์เตอร์ของแท็กซี่ให้ถูกต้อง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ส่วนเรื่องท่าเรือภูเก็ตหากมีการปรับปรุง ก็จะเป็นการอำนวยความสะดวกในการขึ้นลงเรือของนักท่องเที่ยวได้ดีขึ้น

นายจุมพล ชฎาวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รีเกล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า การเดินทางท่องเที่ยวทางเรือสำราญขณะนี้ถือว่าเติบโตแบบก้าวกระโดด จากเดิมเติบโตปีละ 10% แต่ 2ปีที่ผ่านมาเติบโตแบบก้าวกระโดดขึ้นไปประมาณ 30%

ที่มา -