ครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปี เรือล่าวาฬขั้วโลกใต้ญี่ปุ่นกลับเข้าฝั่งมือเปล่า

[mrtnews]

เรือล่าวาฬแถบมหาสมุทรแอนตาร์คติกของญี่ปุ่น กลับเทียบท่าเมื่อวันเสาร์ โดยไม่มีวาฬติดเรือกลับมาแม้แต่ตัวเดียว นับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปีของการออกล่าประจำปี

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 28 มี.ค. ว่า เรือล่าวาฬในน่านน้ำมหาสมุทรแอนตาร์คติก แถบขั้วโลกใต้ของญี่ปุ่น 2 ลำ คือ ยูชินมารุ ระวางขับน้ำ 724 ตัน และ ไดนิ (หมายเลข 2) ยูชินมารุ ระวางขับน้ำ 747 ตัน เดินทางกลับถึงท่าเรือเมืองชิโมะโนะเซกิ ทางภาคตะวันตก ซึ่งเป็นฐานหลักของกองเรือล่าวาฬ ในวันนี้ หลังออกล่าวาฬนานประมาณ 3 เดือน โดยไม่มีวาฬที่จับได้บรรทุกมาในเรือทั้ง 2 ลำแม้แต่ตัวเดียว 

ถือเป็นครั้งแรกทื่เรือล่าวาฬของญี่ปุ่น กลับเข้าสู่ฝั่งโดยไม่ได้วาฬแม้แต่ตัวเดียว นับตั้งแต่ญี่ปุ่นเริ่มการล่าประจำปีเพื่อ "การวิจัย" ในน่านน้ำมหาสมุทรแอนตาร์คติกในปี พ.ศ. 2530 และการล่าของเรือทั้งสองลำในปีนี้ ไม่ได้เผชิญกับการต่อต้านใดๆ จากกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านการล่าวาฬ เหมือนที่เคยปรากฏเป็นข่าวในแต่ละปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ทางการญี่ปุ่นเผยว่า การเดินทางของกองเรือล่าวาฬในปีนี้ ไม่ได้เป็นการล่าเพื่อฆ่าวาฬ ฉมวกซึ่งปกติจะเป็นอาวุธหลักสำหรับการล่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดยักษ์ประเภทนี้ ถูกถอดออกจากเรือก่อนออกเดินทาง ลูกเรือของเรือทั้ง 2 ลำเพียงแค่ทำการ "สำรวจด้วยสายตา" และนำเอาตัวอย่างผิวหนังของวาฬ มาเพื่อการศึกษาวิจัยเท่านั้น

การวิจัยโดยไม่ฆ่าวาฬของญี่ปุ่น มีขึ้นหลังจาก ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ไอซีเจ) ซึ่งเป็นศาลสูงสุดขององค์การสหประชาชาติ มีคำวินิจฉัยเมื่อเดือน มี.ค. ปีที่แล้วว่า ญี่ปุ่นอาศัยช่องโหว่ของข้อห้าม ซึ่งอนุญาตให้ล่าวาฬได้ เพื่อการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ แต่ตามจริงแล้วเนื้อวาฬที่่ญี่ปุ่นล่าได้ส่วนใหญ่ ไปปรากฏอยู่ในตลาด ซึ่งมีการซื้อขายเพื่อการบริโภค

ที่มา -



เรือล่าวาฬแถบมหาสมุทรแอนตาร์คติกของญี่ปุ่น กลับเทียบท่าวานนี้โดยไม่มีวาฬติดเรือกลับมาแม้แต่ตัวเดียว

รายงานข่าวจากกรุงโตเกียวของญี่ปุ่นแจ้งเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า เรือล่าวาฬในน่านน้ำมหาสมุทรแอนตาร์คติก แถบขั้วโลกใต้ของญี่ปุ่น 2 ลำ คือ ยูชินมารุ ระวางขับน้ำ 724 ตัน และ ไดนิยูชินมารุ ระวางขับน้ำ 747 ตัน เดินทางกลับถึงท่าเรือเมืองชิโมะโนะเซกิ ทางภาคตะวันตก ซึ่งเป็นฐานหลักของกองเรือล่าวาฬ ในวันนี้

หลังออกล่าวาฬนานประมาณ 3 เดือน โดยไม่มีวาฬที่จับได้บรรทุกมาในเรือทั้ง 2 ลำแม้แต่ตัวเดียว ถือเป็นครั้งแรกทื่เรือล่าวาฬของญี่ปุ่น กลับเข้าสู่ฝั่งโดยไม่ได้วาฬแม้แต่ตัวเดียว นับตั้งแต่ญี่ปุ่นเริ่มการล่าประจำปีเพื่อการวิจัยในน่านน้ำมหาสมุทรแอนตาร์คติกในปี 2530 และการล่าของเรือทั้งสองลำในปีนี้ ไม่ได้เผชิญกับการต่อต้านใดๆ จากกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านการล่าวาฬ เหมือนที่เคยปรากฏเป็นข่าวในแต่ละปีที่ผ่านมา

ที่มา -