ข่าว:

รับสมัครเฉพาะชาวเรือและผู้ที่สนใจที่เป็นคนไทยเท่านั้น สมัครแล้วรออนุมัติประมาณ 2-3 วัน หากต้องการด่วนโปรดแจ้ง webmaster@marinerthai.net

Main Menu

บริษัทแท่นขุดเจาะน้ำมันขู่ปรับลดคนงาน จี้รัฐเปิดสัมปทานรอบ 21

เริ่มโดย mrtnews, เม.ย 28, 15, 06:41:46 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

จันทร์ที่ 27 เมษายน 2558 - ผู้บริหาร สภาอุตฯออกกดดันให้เร่งเปิดสัมปทาน อ้างส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุน ขณะที่บริษัทแท่นขุดต้องปรับลดพนักงานลง


นายเจน นำชัยศิริ รองประธานคณะกรรมการบริหาร สถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และรองประธาน ส.อ.ท.เปิดเผยว่า ต้องการให้รัฐบาลเดินหน้าเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 อย่างเร่งด่วน เพราะถ้าหากไม่ตัดสินใจหรือดำเนินการล่าช้าอาจทำให้บริษัทก่อสร้างแท่นขุดเจาะ และสำรวจปิโตรเลียมกลางทะเล จะต้องปลดพนักงานออก และทำให้พนักงานย้ายไปกับทำงานแท่นขุดเจาะในต่างประเทศ เพราะมีความมั่นคงมากกว่า และถึงแม้ว่าไทยจะเดินหน้าโครงการในภายภาคหน้า แต่ก็อาจเกิดปัญหาการขาดแคลนบุคลากรในด้านนี้ เนื่องจากพนักงานอาจไม่กลับมาทำงานกับบริษัทเดิมได้อีก

ในส่วนของการแก้ไข พ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 และ พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ.2514 ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะแล้วเสร็จเมื่อใด จึงมีความเสี่ยงที่ประเทศไทยจะผลิตก๊าซธรรมชาติ และน้ำมันดิบได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ในอนาคต อาจส่งผลผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนเนื่องจากการดำเนินนโยบายดังกล่าวของรัฐบาลไม่มีความชัดเจนพอที่จะให้ผู้รับสัมปทานสำรวจ และขุดเจาะปิโตรเลียมนั้นลงทุนต่อไปอีก

นายเจน กล่าวว่า ระยะเวลาในการพัฒนาแหล่งปิโตรเลียมนั้นใช้เวลานานมาก ตั้งแต่เริ่มขุดเจาะสำรวจจนถึงวันแรกที่เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์อาจใช้เวลาถึง 10 ปี เห็นได้จากที่ผ่านมาไทยมีการขุดเจาะ การผลิต และการใช้ปิโตรเลียมมาเป็นเวลากว่า 40 ปี มีการเปิดสัมปทานไปแล้ว 20 รอบ โดยเฉลี่ย 2 ปีต่อหนึ่งรอบ แต่สัมปทานรอบที่ 21 ห่างจากสัมปทานรอบที่ 20 กว่า 6 ปี และในรอบที่ 20 ก็ขุดพบปิโตรเลียมน้อยมาก ไม่คุ้มค่าต่อการลงทุนในเชิงพาณิชย์ จึงถือได้ว่าสัมปทานรอบที่ 21 ล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็นไปมากแล้ว ดังนั้น หากชะลอการสำรวจแหล่งปิโตรเลียมใหม่ออกไปอย่างไม่มีกำหนด จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อความไม่มั่นคงของพลังงานในประเทศ

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า การจัดหาพลังงานเพื่อสำรองไว้ใช้สำหรับอนาคตเป็นเรื่องจำเป็น แม้ว่าในปัจจุบันราคาพลังงานได้ปรับตัวลดลงตามราคาในตลาดโลก แต่ในอนาคตไม่รู้ว่าแนวโน้มจะเป็นอย่างไร ซึ่งที่ผ่านมาประเทศมหาอำนาจหลายประเทศต้องการที่มีพลังงานไว้ในมือ และในหลายประเทศพลังงานทำให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการเมืองจึงมองว่าการมีสำรองพลังงานเป็นเรื่องที่ต้องดำเนินการ เพราะถ้าหากต้องรอกฎหมายจะทำให้เกิดความล่าช้าออกไปอีก

"การรอพิจารณาเรื่องกฎหมายจะทำให้เสียเวลา เสียโอกาส และถือว่าเป็นความเสี่ยงของประเทศ และกระทบต่อความเชื่อมั่นทำให้นักลงทุนไม่กล้าเข้ามาลงทุน" นายสุพันธ์ กล่าว


แหล่งข่าวจาก กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า การที่รัฐบาลยังไม่สรุปเรื่องการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ทำให้ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจก่อสร้างแท่นขุดเจาะ และผลิตปิโตรเลียมกลางทะเลรายหนึ่ง ได้เริ่มปลดพนักงานไปแล้ว 700 คน เพราะไม่รู้ในอนาคตว่ารัฐจะตัดสินใจเรื่องนี้อย่างไร จึงต้องลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานไปก่อน

ก่อนหน้านี้ นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน ยอมรับว่า "สอบตก"เรื่องการเปิดสัมปทานรอบที่ 21 จากเดิมจะมีการพิจารณาเสร็จสิ้นในเดือนก.พ. 2558 แต่ต้องประกาศยกเลิกไป โดยจากนี้ไปจะเป็นกระบวนการเพื่อแก้ไขกฎหมายปิโตรเลียม คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน3 เดือน ซึ่งการปรับปรุงแก้ไขกฏหมายปิโตรเลียมจะเป็นหน้าที่ของ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)

ที่มา -