ชาวหมู่เกาะโซโลมอน นิยมล่าโลมาเพื่อเอาฟันและบริโภค

[mrtnews]

ชาวหมู่เกาะโซโลมอน นิยมล่าโลมา เพื่อเอาฟัน และบริโภค ซึ่งปี 2556 โลมาถูกฆ่าตายกว่า 1,600 ตัว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 58 ว่า ผลการวิจัยที่เผยแพร่ลงในวารสารรอยัลโซไซตี้ โอเพ่น ไซเอนซ์ ระบุว่า กลุ่มชาวบ้านในฟานาไล หมู่บ้านเล็กๆ บนหมู่เกาะโซโลมอน ประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ฆ่าโลมามากกว่า 1,600ตัวเมื่อปี 2556 เพื่อเอาฟันของโลมา เนื่องจากชาวบ้านแถวนั้นยึดเอาฟันของโลมาเป็นเงินตราและเครื่องประดับล้ำค่า หากนับตั้งแต่ปี 2519 ถึง 2556 ชาวบ้านเหล่านี้ฆ่าโลมาไปแล้วมากกว่า 15,400 ตัว แม้นักอนุรักษ์ธรรมชาติได้พยายามเข้าไปหยุดยั้งการล่าโลมาของชาวบ้านแต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จ

โดยราคาฟันของโลมาเพิ่มขึ้นจากมูลค่าเทียบเท่ากับ 14 เซนต์สหรัฐเมื่อปี 2556 มาเป็น 70 เซนต์เมื่อปีที่แล้ว รายงานระบุว่า จำนวนโลมาถูกฆ่าเพิ่มมากขึ้นและมีแนวโน้มว่าการล่าโลมาในอนาคตจะมีมากขึ้นด้วย เนื่องจากมูลค่าของฟันโลมาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ ทีมล่าจะใช้เรือแคนู 20-30 ลำต้อนฝูงโลมาจากน้ำลึกให้เข้าสู่น่านน้ำใกล้ชายฝั่ง เพื่อให้โลมาพุ่งชนแนวหินใต้น้ำที่สร้างขึ้นมา ทำให้โลมาไม่สามารถหนีรอดไปได้

ทั่วหมู่เกาะโซโลมอนถือกันว่า ฟันของโลมามีค่าและถูกใช้เป็นเงินตรา สินสอดทองหมั้น และอัญมณี อีกทั้งยังสามารถขายเป็นเงินสดได้อีกด้วย ส่วนเนื้อโลมาก็มีการบริโภคภายในหมู่บ้านที่ล่าโลมาหรือนำไปขายให้แก่หมู่เกาะอื่น อย่างไรก็ตามความเชื่อในการฆ่าโลมาเคยยุติไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อกลางศตวรรษที่ 19 แต่กลับมาฟื้นคืนชีพอีกครั้งเมื่อปี 2491 และในช่วงกลางทศวรรษ 1960 โลมาถูกฆ่าตายปีละหลายพันตัว อีกทั้งในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ชาวบ้านจับโลมาเป็นๆขายให้แก่สวนน้ำของเอกชน

ที่มา -