ข่าว:

คุณ ต้องลงทะเบียนสมัครสมาชิกก่อน ตอบกระทู้หรือตั้งคำถามใหม่ นะครับ

Main Menu

เจ้าท่าชู 4 โครงการใหญ่ ฝันเป็นศูนย์กลางมารีนาอาเซียน เร่งมือเส้นทางเฟอรี่พัทยา

เริ่มโดย mrtnews, ก.ค 14, 15, 06:54:06 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2558 ที่กรมเจ้าท่า กรุงเทพมหานคร นายจุฬา สุขมานพ อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวถึงกรณีการเปิดแผนและโครงการสำคัญ ว่า ขณะนี้ทางกรมเจ้าท่ามีการวางแผนดำเนินการตามนโยบายของกรม 4 โครงการสำคัญ ได้แก่ 1.โครงการจัดมหกรรมเรือสำราญและมารีน่า 2.พัฒนาการขนส่งผู้โดยสารและสินค้าทางน้ำโดยเรือเฟอรี่ในเส้นทางพัทยา ชะอำ หัวหิน รวมทั้งปราณบุรี 3. ดำเนินการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในเรือประมงและการทำประมงผิดกฎหมาย 4. ความคืบหน้าท่าเรือสำคัญ


นายจุฬากล่าวว่า กรณีการจัดมหกรรมเรือสำราญนั้น ทางกรมฯ ต้องการให้มีการวางแผนการพัฒนาประเทศไทยเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวจากชาวต่างชาติ ทั้งมหกรรมเรือยอร์ช Yacht เพื่อสร้างความบันเทิงแก่นักท่องเที่ยวผ่านการลงทุนของบริษัทเอกชน เพื่อให้แข่งขันกับประเทศต่างๆได้ อาทิ ทั้ง สเปน อิตาลี และสิงคโปร์ โดยเน้นการผลิตบุคคลากรเพื่อรองรับการจัดบริการดังกล่าวด้วย ซึ่งอนาคตเชื่อประเทศไทยจะสามารถพัฒนาตนเองสู่การเป็นศูนย์กลางมารีน่าของอาเซียนได้ (Marina Hub of ASEAN) นอกจากนี้ทางกรมยังได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมเพื่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ หรือเรือครุซ (Cruise)ที่รองรับผู้ใช้บริการได้มากกว่า 1,000 คน ทั้งนี้พื้นที่ที่จะดำเนินการนั้นมีจำนวน 2 แห่งได้แก่จังหวัดกระบี่ และ จังหวัดสุราษฏร์ธานี โดยจะเริ่มลงพื้นที่ชี้แจงข้อมูลโครงการแก่คนในท้องถิ่นได้ในวันที่ 21 กรกฎาคม และวันที่ 23 กรกฎาคม จากนั้นจะรวบรวมข้อมูล สรุปผลว่าจะจัดทำจุดใดของพื้นที่ทั้ง 2 แห่ง และเมื่อได้ข้อมูลครบแล้วทางกรมจะหาคณะทำงานเพื่อทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (อีเอชไอเอ) ต่อไป โดยราวปี 2547 พบว่ามีความเป็นไปได้ที่จะสร้างได้ในฝั่งอันดามัน11 แห่ง และฝั่งอ่าวไทย 22 แห่ง

"ในการดำเนินโครงการดังกล่าวทางกรม ต้องประสานฝ่ายความมั่นคงเพื่อดูแลกรณีการตรวจคนเข้าเมือง โดยเรือสำราญนั้นจะสามารถเข้ามาจอดในประเทศไทยได้ 180 วัน ส่วนผู้ใช้บริการเรือสำราญที่เป็นต่างชาติก็ต่อวีซ่าอนุญาตเข้าเมืองได้ครั้งละ 30 วัน ส่วนการพัฒนาอื่นๆ เสริมศักยภาพทางกรมฯ จะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเปิดอบรมพนักงานให้มีความพร้อม ทั้งนี้ กรมเจ้าท่าได้ว่าจ้างบริษัทปัญญาคอนซัลแตนท์ และบริษัทนิวแอสเซทเอดไวเซอรี่ ทำการศึกษาและสำรวจความเหมาะสมใน พื้นที่ดังกล่าวแล้วโดยระยะเวลาดำเนินการปี 2558-2559 งบประมาณ 44.79 ล้านบาท" นายจุฬา กล่าว

อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวต่อว่า นอกจากการพัฒนาท่าเรือสำราญแล้ว กรณีการพัฒนาท่าเรือลุ่มน้ำเจ้าพระยาก็มีความสำคัญไม่น้อยเช่นกัน โดยทางกรมเร่งรัดการดำเนินการเพื่อปรับปรุงท่าเรือสำคัญ ทั้งการสร้างใหม่ รื้อถอนและต่อเติม ท่าเรือ17 แห่ง ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดนนทบุรีและกรุงเทพฯ รวมทั้งดำเนินการทั้งการติดตั้งระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อชำระค่าบริการ และการปรับปรุงระบบความปลอดภัยของผู้โดยสาร ขณะที่แผนการพัฒนาโครงการท่าเรือเฟอรี่ในพัทยา ชะอำ หัวหินและปราณบุรี มีแผนชัดเจนแล้วตั้งแต่ปี 2555 เบื้องต้นนั้นมีการประเมินคุณภาพไว้ว่าจะย่นระยะเวลาจากชลบุรีถึงปลายทางที่อำเภอปราณบุรีได้มากถึง 260 กิโลเมตร จะช่วยเชื่อมการท่องเที่ยวระหว่างภาคให้สะดวกยิ่งขึ้น โดยการศึกษาแผนการก่อสร้างเส้นทางเดินเรือมีการว่าจ้างฝ่ายวิชาการหลายส่วน และจ้างที่ปรึกษาภาคเอกชนเข้ามาศึกษา คาดว่าจะมีการสรุปแผนแล้วเสร็จในเดือนเมษายน 2559


อธิบดีกรมเจ้าท่าได้ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกรณี การแก้ปัญหาเรือประมงผิดกฎหมาย โดกล่าวว่า ขณะนี้ยอดการรับจดทะเบียนเรือประมง และเจ้าหน้าที่บนเรือประมง ระหว่างวันที่ 6-7 กรกฎาคมที่ผ่านมา พบว่ามีเรือประมงยื่นขออนุญาตขึ้นและต่อทะเบียนรวม 145 ลำ ขอรับใบประกาศนียบัตรนายท้ายเรือ 945 ราย และขอใบประกาศนียบัตรช่างเครื่องประจำเรือ 802 ราย คาดว่าเมื่อสิ้นสุดการออกให้บริการในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ กรมฯจะออกใบอนุญาตด้านต่างๆ ได้เพิ่มขึ้นรวมเป็น 6,000-7,000 อย่างไรก็ตามขอให้เรือประมงทั้งประมงชายฝั่งและประมงพาณิชย์ปฏิบัติตามกรอบที่กรมวางไว้

ที่มา -