ข่าว:

คุณ ต้องลงทะเบียนสมัครสมาชิกก่อน ตอบกระทู้หรือตั้งคำถามใหม่ นะครับ

Main Menu

ฝรั่งเศสส่งเรือบรรทุกเครื่องบินไปซีเรีย หลังรัสเซียเสริมมิสไซล์ต้านอากาศยาน

เริ่มโดย mrtnews, พ.ย 07, 15, 06:45:50 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

ฝรั่งเศสส่งเรือบรรทุกเครื่องบินลำใหญ่ที่สุดในประเทศ เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการการต่อสู้กับกลุ่มไอซิสในอิรัก และซีเรียอีกรอบ หลังมีข่าวว่ารัสเซียติดตั้งขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานในซีเรีย...


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ฝรั่งเศสดำเนินการส่งเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ 'ชาร์ล เดอ โกล' ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไปสนับสนุนปฏิบัติการการโจมตีทางอากาศในอิรัก และซีเรีย เพื่อต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอซิส) แล้ว นับเป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ ที่ฝรั่งเศสเคลื่อนเรือรบลำนี้ออกมา หลังเคยส่งไปประจำการในอ่าวเปอร์เซีย เพื่อช่วยต่อสู้กับกลุ่มไอซิสในอิรักเมื่อเดือน ก.พ. ก่อนจะเดินทางกลับในอีก 2 เดือนต่อมา

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของฝรั่งเศส เกิดขึ้นเพียงไม่นานหลังจาก นายพลวิคเตอร์ บอนดาเรฟ ผู้บัญชาการกองทัพอากาศรัสเซีย ออกมาเปิดเผยว่า พวกเขาได้ส่งระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานไปติดตั้งในซีเรียแล้ว โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องเครื่องบินรบของพวกเขา ที่กำลังออกปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรียอยู่ตอนนี้

นายพลบอนดาเรฟ ยืนยันว่า การส่งระบบขีปนาวุธครั้งนี้ ก็เพื่อป้องกันเหตุการณ์ไม่คาดฝัน "มีโอกาสเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้นหลายอย่าง เช่น การจี้ หรือการโจมตีบนเครื่องบินในประเทศเพื่อนบ้าน เราควรเตรียมความพร้อมสำหรับเรื่องนี้"



ที่มา Data & Images -




ฝรั่งเศสส่ง'เรือบรรทุกบิน' หนุนสู้ไอเอสในอิรัก/ซีเรีย

กองทัพฝรั่งเศสเตรียมส่งเรือบรรทุกเครื่องบิน "ชาร์ลส์ เดอ โกลล์" ไปยังอ่าวเปอร์เซียอีกรอบ เพื่อสนับสนุนการต่อสู้กับ "กลุ่มไอเอส" ในอิรักและซีเรีย


สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2558 ว่า กองทัพฝรั่งเศสจะเคลื่อนย้ายเรือบรรทุกเครื่องบิน "ชาร์ลส์ เดอ โกลล์" ไปยังน่านน้ำอ่าวเปอร์เซียอีกครั้ง เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการโจมตีกลุ่มไอเอสในอิรักและซีเรีย โดยประธานาธิบดี "ฟรังซัวส์ ออลลองด์" ของฝรั่งเศส ประกาศการตัดสินใจเมื่อวันพฤหัสบดี ระหว่างพิธีเปิดอาคารกระทรวงกลาโหมแห่งใหม่ ในกรุงปารีส ที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยสุดยอด อย่างไรก็ตาม "ออลลองด์" ไม่ได้กล่าวว่า เรือชาร์ลส์ เดอ โกลล์ จะออกเดินทางจากท่าเมืองตูลง ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเมื่อใด

เรือชาร์ลส์ เดอ โกลล์ ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำเดียวที่กองทัพเรือฝรั่งเศสมีอยู่ จะช่วยเพิ่มอำนาจการโจมตีทางอากาศ ของฝูงบินรบกองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐ ต่อเป้าหมายกลุ่มไอเอสในอิรักและซีเรีย ก่อนหน้านี้ เรือชาร์ลส์ เดอ โกลล์ เคยถูกส่งไปอยู่ในอ่าวเปอร์เซีย ระหว่างเดือนก.พ.-เม.ย. ปีนี้ และเครื่องบินรบจากดาดฟ้าเรือ บินออกปฏิบัติการโจมตีวันละประมาณ 15 - 20 เที่ยว นอกจากนั้น กองทัพฝรั่งเศสยังมีเครื่องบินรบ 12 ลำ ประจำการอยู่ที่ฐานทัพในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และจอร์แดน ซึ่งเข้าร่วมในปฏิบัติการโจมตีกลุ่มไอเอสด้วย

อาคารกระทรวงกลาโหมแห่งใหม่ของฝรั่งเศส มีเป้าหมายเพื่อรวมกองบัญชาการกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้ง่ายขึ้นสำหรับการนำปฏิบัติการทางทหารของฝรั่งเศสในต่างแดน อาคารแห่งใหม่ซึ่งสร้างด้วยเงินงบประมาณ 4.2 พันล้านยูโร (ประมาณ 162,558 ล้านบาท) และมีนามฉายาว่า "เพนตากอนฝรั่งเศส" เป็นที่รวมเจ้าหน้าที่ทั้งทหารและพลเรือน ประมาณ 9,300 คน ที่เคยกระจายกันอยู่ในสำนักงานประมาณ 12 แห่ง.



ที่มา Data & Images -




สมรภูมิซีเรียชุลมุน! ฝรั่งเศสประจำการเรือบรรทุกเครื่องบิน หลังรัสเซียเสริมขีปนาวุธต้านอากาศยาน

เอเอฟพี - ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเผยเมื่อวันพฤหัสบดี (5 พ.ย.58) ว่าจะส่งเรือบรรทุกเครื่องบินชาร์ลส์ เดอ โกลล์ ไปสนับสนุนปฏิบัติการต่อต้านพวกรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในอิรักและซีเรีย หลังรัสเซียเสริมระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานเข้าไปในซีเรียสนับสนุนภารกิจทางอากาศของพวกเขา ท่ามกลางข้อสงสัยถึงความเคลื่อนไหวดังกล่าว แต่มอสโกอ้างความเป็นไปได้ที่อาจมีเหตุสุดวิสัย


การปรากฏตัวของเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ เรือธงของกองทัพฝรั่งเศส เป็นการเพิ่มเติมจำนวนเครื่องบินรบของแดนน้ำหอม จากเดิมที่มีเครื่องบินรบราฟาล 6 ลำและเครื่องบินรบ มิราจ 6 ลำ ขึ้นบินจากฐานในจอร์แดนและยูเออีตามลำดับ เพื่อเข้าไปปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในอิรักและซีเรีย

เรือบรรทุกเครื่องบินชาร์ลส์ เดอ โกลล์ เคยล่องเข้าไปในอ่าวเปอร์เซียช่วงเดือนกุมภาพันธ์และกินเวลา 2 เดือน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการต่อสู้กับกลุ่มนักรบญิฮัดรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในอิรักก่อนหวนคืนสู่ฐานทัพในเมืองตูลงของฝรั่งเศส โดยระหว่างช่วงเวลาดังกล่าวทางกองทัพเรือฝรั่งเศสเปิดเผยว่าเครื่องบินรบของพวกเขาราว 20 ลำได้ดำเนินการโจมตีทางอากาศราว 10-15 เที่ยวต่อวัน

ฝรั่งเศสซึ่งเริ่มโจมตีทางอากาศถล่มพวกญิฮัดในซีเรียเมื่อเดือนตุลาคม หนึ่งปีหลังจากทิ้งบอมบ์ในอิรัก บอกว่าความเคลื่อนไหวของพวกเขาก็เพื่อปกป้องตนเอง หลังจากดินแดนน้ำหอมถูกนักรบญิฮัดโจมตีในเดือนมกราคม มีผู้เสียชีวิต 17 ศพและสามารถทลายแผนพยายามก่อการร้ายอื่นๆ อีกหลายครั้ง

นอกจากนี้แล้วปารีสยังเกรงพลเมืองหลายร้อยคนที่ออกเดินทางไปร่วมสู้รบเคียงข้างไอเอสในอิรักและซีเรีย จะเดินทางกลับมาก่อเหตุร้ายในมาตุภูมิด้วย

นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการในอิรัก เครื่องบินรบของฝรั่งเศสดำเนินภารกิจทางอากาศ 1,285 เที่ยว ในนั้นเป็นการโจมตี 271 เที่ยวและทำลายเป้าหมายได้ทั้งหมด 459 เป้าหมาย ส่วนอื่นๆ เป็นเที่ยวบินตรวจการณ์ทางทะเลและเครื่องบินเติมเชื้อเพลิง ขณะที่ในซีเรียจากเท่าที่ทราบจนถึงตอนนี้ฝรั่งเศสเพิ่งปฏิบัติการโจมตีไปแค่ 2 เที่ยว

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของฝรั่งเศสมีขึ้นในขณะที่ วิกตอร์ บอนดาเรฟ ผู้บัญชาการกองทัพอากาศรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่ามอสโกได้ส่งระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานเข้าไปในซีเรียสนับสนุนภารกิจทางอากาศของพวกเขา

มอสโกเริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในซีเรีย ภายใต้การร่วมมือกับรัฐบาลดามัสกัส เมื่อเดือนที่แล้ว โดยบอกว่ามีเป้าหมายคือถล่มพวกรัฐอิสลามและพวกก่อการร้ายอื่นๆ อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯ ซึ่งจับมือกับพันธมิตรตะวันตก ในนั้นรวมถึงฝรั่งเศส ปฏิบติการทางอากาศในซีเรียเช่นกัน และกล่าวหารัสเซียว่าแอบแฝงเป้าหมายโจมตีพวกกบฏสายกลางที่กำลังสู้รบกับประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด

"เราไม่ได้ส่งแค่เครื่องบินรบ เครื่องบินโจมตีและเฮลิคอปเตอร์ แต่ยังรวมถึงระบบจรวดต่อต้านอากาศยานด้วย" บอนดาเรฟบอกกับสื่อท้องถิ่น พร้อมระบุว่ารัสเซียตัดสินใจส่งระบบขีปนาวุธเข้าไปในซีเรียเพราะว่า "เราตระหนักถึงทุกภัยคุกคามเท่าที่จะเป็นไปได้ มันอาจมีเหตุสุดวิสัยต่างๆ นานา ลองจินตนาการกรณีเครื่องบินทหารถูกจี้และพาไปยังประเทศเพื่อนบ้านและโจมตีทางอากาศเข้าใส่เรา เราจำเป็นต้องพร้อมสำหรับเรื่องนี้"

แหล่งข่าวบอกกับอินเตอร์แฟกซ์ว่า ระบบขีปนาวุธต่างๆ ที่รัสเซียส่งเข้าประจำการในซีเรียก็มี บุค (BUK) และแพนต์ซีร์ (Pantsir) ขณะที่ทาง บอนดาเรฟ เสริมว่าตอนนี้รัสเซียมีเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์มากกว่า 50 ลำในซีเรีย "มันเป็นจำนวนที่เราต้องการที่แท้จริง ณ ช่วงเวลานี้ เราไม่ต้องการมากกว่านี้แล้ว"



ที่มา Data & Images -



..-