ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา สินค้าที่ดูแล้วขัดต่อ ศีลธรรม ประเพณี หรือกฏหมายของไทย เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

จมแล้ว! เรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่จอดทอดสมอเอียงหน้าอ่าวแหลมฉบัง

เริ่มโดย mrtnews, มี.ค 01, 16, 06:21:30 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

 ศูนย์ข่าวศรีราชา - จมแล้ว! เรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่จอดทอดสมอเอียงหน้าอ่าวแหลมฉบัง หลังโลกโซเชียลมีการแพร่ภาพเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่จอดทอดสมอบริเวณอ่าวแหลมฉบังเอียง เก่าจนมีสนิม ซึ่งหวั่นเรือล่ม และส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม และการเดินเรือ


จากกรณีที่โลกโซเชียลมีการแพร่ภาพเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่จอดทอดสมอบริเวณอ่าวแหลมฉบัง จ.ชลบุรี โดยมีสภาพเอียง และเก่าจนมีสนิมเกิดขึ้นบริเวณตัวเรือ ซึ่งหวั่นเรือล่ม และส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม และการเดินเรือ เป็นเหตุให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แจ้งไปยังเจ้าของเรือเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยด่วน หวั่นเกรงว่าจะเปิดปัญหาได้ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งสั่งให้แก้ไขให้เรือมีสภาพตรงเหมือนปกติ เพื่อไม่ให้ผู้ที่ผ่านไปมาบริเวณดังกล่าวหวั่นวิตกว่าจะเกิดปัญหาขึ้น และให้ทางบริษัทเรือเตรียมนำเรือลำดังกล่าวเข้าอู่เพื่อซ่อมแซมเรือ

ล่าสุด วันนี้ (27 ก.พ. 59) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ขนส่งทางน้ำพาณิชยนาวี ชลบุรี ว่า เรือลำดังกล่าวได้จมลงเมื่อประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะมีน้ำทะเลไหลเข้าสู่ตัวเรือทำให้เรือลำดังกล่าวจม สำหรับบริเวณที่เรือจมนั้นจอดอยู่ห่างจากฝั่งประมาณ 2 กิโลเมตร บริเวณหน้าเขื่อนกันคลื่นของท่าเรือแหลมฉบัง น้ำลึกไม่มากทำให้เรือที่จมโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำในลักษณะเอียงฝั่งซ้าย

โดยที่ผ่านมา กรมเจ้าท่าได้ประสานเจ้าของเรือเพื่อวางแนวในการกู้เรือลำดังกล่าว เนื่องจากได้จอดทอดสมอมานานนับปีแล้ว โดยเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่าได้ไปตรวจสอบมาโดยตลอด แต่เมื่อเกิดปัญหา และมีการนำภาพไปเผยแพร่ในโลกโซเชียลฯ จึงต้องสั่งให้เร่งดำเนินการโดยด่วน แต่ยังไม่ทันได้ดำเนินการ เรือได้จมลงไปแล้ว

นายกริชเพชร ชัยช่วง ผู้อำนวยการสำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ กรมเจ้าท่า เผยว่า ไม่คิดว่าเรือจะจมเร็วขนาดนี้ ซึ่งที่ผ่านมา ได้ประสานให้เจ้าของเรือมาเร่งดำเนินการกู้เรือไปแล้วแต่ยังไม่ทันดำเนินการก็มาจมเสียก่อน ซึ่งในวันนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญได้ลงไปสำรวจเรือ และวางแผนกู้เรือโดยเร็ว ซึ่งขั้นตอนแรกต้องนำเรือไปไว้ในพื้นที่ที่ปลอดภัย และไม่กีดขวางการเดินเรือก่อน หลังจากนั้น จะเร่งกู้เรือขึ้น ซึ่งทางเจ้าท่าคงจะต้องดำเนินการเองไปก่อนเพราะหากรอเจ้าของเรือมาเกรงจะเกิดผลกระทบในหลายด้าน หลังจากนั้น จึงจะไปเรียกเก็บค่าจัดการต่อทางเจ้าของเรือต่อไป

อนึ่ง เรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ลำนี้ ชื่อ OCEAN DREAM จากประเทศจีน เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2556 โดยให้บริการเส้นทางแหลมฉบัง-เกาะกง ประเทศกัมพูชา โดยส่วนใหญ่จะเป็นนักท่องเที่ยวจีนมาใช้บริการ แต่ระยะหลังไม่มีนักท่องเที่ยวทำให้ขาดทุนจึงต้องหยุดให้บริการไป และ มาจอดทอดสมอบริเวณอ่าวแหลมฉบัง โดยมีสภาพเรือเอียงกราบซ้าย



ที่มา Data & Images -





เจ้าหน้าที่ สนธิกำลังตรวจเรือจม พร้อมวางแผนป้องกัน- กู้เรือ

ศูนย์ข่าวศรีราชา – เจ้าหน้าที่สนธิกำลัง ลงพื้นที่ตรวจเรือท่องเที่ยวจมอ่าวแหลมฉบัง พร้อม ทัพเรือภาคที่ 1 บินสำรวจคราบน้ำมัน พบมีคราบน้ำมันบางๆ แพร่กระจายในรัศมี 1.8 กิโลเมตร พร้อมนำเรือฉีดพ่นสารเคมี และบูมล้อมรอบตัวเรือที่จมเพื่อป้องกันไม่ให้มีการแพร่กระจายของคราบน้ำมันเพิ่ม จากนั้นเตรียมวางแผนกู้ซากเรือต่อไป


บ่ายวันนี้ (27 ก.พ. 2559) ที่บริเวณท่าเรือบริการ การท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี นายกริชเพชร ชัยช่วย ผู้อำนวยการสำนักความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางน้ำ กรมเจ้าท่า ,พร้อมด้วยนายวรญาณ บุญณราช นายอำเภอศรีราชา ร.ต.ต มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง นายพิสุทธิ์ อมรยุทธ์ หัวหน้าสำนักงานขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี จ.ชลบุรี ,นายเอกราช คันธโร หัวหน้าสำนักงานขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี สาขาพัทยา และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ลงเรือตรวจการณ์ เดินทางไปยังจุดที่เรือ OCEAN DREAM จม ที่ห่างจากฝั่งประมาณ 2 กิโลเมตร

นายกริชเพชร กล่าวว่า ขณะนี้ เรือปฏิบัติการ ประกอบด้วย เรือล้อมบูม 3 ลำ,เรือฉีดสเปรย์เพื่อให้คราบน้ำมันจมสู่ใต้ท้องทะเล 2 ลำ และเรือสั่งการ 1 ลำ กำลังปฏิบัติหน้าที่ เพื่อป้องกันปัญหาและผลกระทบที่อาจจะเกิดต่อสิ่งแวดล้อมจากเรือจมในครั้งนี้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบมีเพียงฟิล์มน้ำมันบางๆ แพร่กระจายในรัศมี 1.8 กิโลเมตร ซึ่งได้ทำการฉีดสกัดเพื่อไม่ให้คราบน้ำมันแพร่กระจายไปไกลกว่านี้ นอกจากนั้นแสงแดดยังช่วยให้แผ่นฟีล์มระเหยไปด้วย

สำหรับสภาพเรือที่จมในขณะนี้ โดยกราบเรือด้านซ้ายจมอยู่ใต้ท้องทะเล และโผล่กราบขวาขึ้นมาบนผิวน้ำ เนื่องจากเรือลำดังกล่าวมีความกว้าง 20 เมตร ยาว 163 เมตร มีน้ำหนัก 16,000 ตัน ส่วนน้ำทะเลบริเวณดังกล่าวมีความลึกประมาณ 12 เมตร ทำให้เรือโผล่ขึ้นสู่ผิวน้ำประมาณครึ่งลำเรือ
   
นายกริชเพชร กล่าวต่อไปว่า ในเบื้องต้นกรมเจ้าท่า ได้ประสานไปยังเจ้าของเรือลำดังกล่าวแล้ว ซึ่งเป็นชาวจีน เพื่อวางแนวทางในการกู้ซากเรือลำดังกล่าว แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้

สำหรับแนวทางการกู้ซากเรือ OCEAN DREAM โดยจะต้องประสานผู้เชี่ยวชาญและอุปกรณ์การกู้จากต่างประเทศ เนื่องจากประเทศไทย ยังไม่มีอุปกรณ์ในการกู้เรือขนาด 16,000 ตัน คาดว่าจะต้องใช้เวลาในการวางแผนและกู้เรือลำนี้ไม่น้อยกว่า 2-3 เดือน ส่วนค่าใช้จ่ายในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 40-50 ล้านบาท

โดยการดำเนินการนั้นต้องลงไปสำรวจในลักษณะของเรือที่จมใต้ทะเลและวางแผนการกู้อย่างรอบครอบ และหลังจากกู้ซากเรือแล้ว จะต้องนำไปไว้ที่อู่ต่อเรือ บริษัท ยูนิไทย ชิปยาร์ด ซึ่งค่าใช้จ่ายเจ้าของเรือจะเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด ส่วนความผิดนั้น ในเบื้องต้นเจ้าของเรือจะต้องถูกดำเนินคดี ในข้อหากระทำการใดๆ ทำให้น้ำมันปิโตรเลียมไหลลงสู่ทะเล ในมาตรา 204 และมาตรา 119

ด้าน ร.ต.ต.มนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง เผยว่า หลัวจากทราบเรื่องว่าเกิดเหตุการณ์เรือท่องเที่ยวจม ทางท่าเรือแหลมฉบังได้ จัดส่งกำลังเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์ที่ทันสมัยในการจัดเก็บครามน้ำมัน โดยได้ทำงานร่วมกับกรมเจ้าท่า ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานนี้พร้อมทั้งมี ทาง ปตท.ได้ร่วมเข้ามาช่วยเหลือในการดำเนินแก้ไขปัญหาในครั้งนี้ด้วย

การวางบูมล้อมรอบเรือ OCEAN DREAM เพื่อป้องกันการแพร่กระจาย พร้อมทั้ง ฉีดสเปรย์สลายคราบน้ำมัน ซึ่งมีเพียงคราบฟิล์มน้ำมีนบางๆ สามารถทำลายได้ง่าและบางส่วนก่อระเหยไปกับอากาศ พร้อมทั้งวางทุนบอกอาณาเขตป้องการเกิดอุบัติทางการเดินเรือเรืออีกด้วย

ทั้งนี้ อยากให้พี่น้องประชาชน และชาวประมงมั่นใจว่า ทุกหน่วยงานได้ลงมาร่วมกันแก้ไขปัญหา เนื่องจากเราได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องหลัก

นายรังสรรค์ สมบูรณ์ ชาวประมง บ้านบางละมุง เผยเกี่ยวกับกรณีเรือจมในครั้งนี้ ว่า มีน่าสงสัยหลายประการ และพวกเราชาวประมงซึ่งออกเรืออยู่เป็นประจำได้ตั้งข้อเกตุว่า พวกเราเป็นเรือลำนี้จอดอยู่ประมาณ 1 ปี แล้วและเมื่อก็สงสัยว่ามาจอดทำไม และเมื่อไม่กี่วันนี้ เห็นว่าลำดังกล่าวเอียงลงแต่ไม่มากเท่าไหร่ ซึ่งคิดว่าเจ้าหน้าที่เขาดูแลเรือลำนี้อยู่ รวมทั้งเจ้าท่า ซึ่งเป็นหน่วยที่รับผิดชอบโดยตรงต้องทราบเรื่องแล้ว แต่ทำไม่เข้ามาตรวจสอบหรือ เร่งดำเนินการแก้ไข และเมื่อเวลาประมาณ 01.30 วันนี้

ขณะที่ตนเอาเรือออกทะเล ก็เห็นยังเอียงอยู่ และเวลาประมาณประมาณ 05.30 เรือค่อยจมลงแล้ว ตนจึงมองว่าเหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมาก และคิดว่า น่าจะมีอะไรที่ผิดสังเกต หรือว่าเจ้าของเรือต้องการเอาประกัน ทัพเรือภาคที่ 1 บินสำรวจคราบน้ำมัน จากเรือท่องเที่ยวจีนจมหวั่นกระทบสิ่งแวดล้อม

พล.ร.ท.รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 และ ผอ.ศรชล.เขต 1 พร้อมคณะทำงาน ได้เดินทางโดยเครื่องบินตรวจการณ์ ดอร์เนีย หมายเลข 1113 จากหมวดบินเฉพาะกิจทัพเรือภาคที่ 1 ฝูงบิน 101 สนามบินอู่ตะเภา กองการบินทหารเรือ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เพื่อติดตามสถานการณ์คราบน้ำมัน จากเหตุการณ์เรือท่องเที่ยวจีนขนาดใหญ่ ชื่อ Ocean Dream ของบริษัท JC Marine อับปางห่างชายฝั่งประมาณ 2 กม. อับปางอยู่ในสภาพตะแครงข้างจมไปในทะเลครึ่งลำ เมื่อช่วงเวลา 01.30 น.ของวันนี้

พล.ร.ท.รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล เปิดเผยว่า จากการบินสำรวจพบว่า มีคราบน้ำมันไหลทะลักออกมาจากตัวเรือ ลักษณะเป็นสีดำและมันวาว เป็นแนวยาวจากท้ายเรือประมาณ 500 เมตร และแนวกว้างประมาณ 10 เมตร ซึ่งจากการประมาณการคราบน้ำมันคาดว่า มีการรั่วไหลออกมาแล้ว ไม่มากนัก ถือเข้ากรณีระดับที่ 1 ตามแผนชาติฯ ทางกองทัพเรือ โดยทัพเรือภาคที่ 1 ได้มีการเตรียมความพร้อมเข้าช่วยเหลือ และควบคุมพื้นที่ เพื่อไม่ให้คราบน้ำมันกระจายตัว อันจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทะเล และชายฝั่ง



ที่มา Data & Images -





เร่งสำรวจคราบน้ำมัน เรือท่องเที่ยวจมทะเลชลบุรี หวั่นกระทบสิ่งแวดล้อม

ทร.ส่งอากาศยานจากหมวดบินเฉพาะกิจ ขึ้นบินลาดตระเวนเพื่อสำรวจคราบน้ำมันจากเรือ Ocean Dream จม หวั่นกระทบสิ่งแวดล้อมเพราะพบคราบเป็นแนวยาว คาดรั่วกว่า 20 ตัน ด้านกรมเจ้าท่าและผู้ประกอบการเรือเตรียมวางแผนเก็บคราบน้ำมันและกู้เรือแล้ว...


จากกรณีที่มีเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ ชื่อ Ocean Dream จมบริเวณเกาะนก อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ของบริษัท JC Marine จอดถอดสมอมานานทำให้ตัวเรือใต้แนวน้ำเกิดการผุกร่อนมีน้ำทะเลไหลเข้าเรือจำนวนมาก เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 59 จนในวันที่ 27 ก.พ. 59 เวลา 01.00 น. จมลง ด้านกองทัพเรือส่งอากาศยานบินสำรวจ กรมเจ้าท่าและผู้ประกอบการเรือเตรียมวางแผนกู้เรือแล้ว และเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (27 ก.พ. 59) กองทัพเรือ โดยทัพเรือภาคที่ 1 พล.ร.ท.รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 1 และ ผอ.ศรชล.เขต 1 ได้สั่งการให้นำอากาศยาน จากหมวดบินเฉพาะกิจทัพเรือภาคที่ 1 แบบลาดตระเวนระยะปานกลางแบบที่ 1 (DO-228) พร้อมร่วมขึ้นบินสำรวจ เพื่อติดตามสภาพเรือ และสำรวจคราบน้ำมัน ก่อนตรวจพบคราบน้ำมันบางๆ เป็นแนวยาวจากท้ายเรือกว้าง 20 เมตร ยาว 550 เมตร เป็นแนวยาวไม่ถึง 1 กิโลเมตร มีสีดำใกล้ตัวเรือ และมันวาวบริเวณรอบๆ คราบสีดำ คาดว่าปริมาณการรั่วไหลน้อยกว่า 20 ตัน

เบื้องต้นสำหรับแนวทางในการเก็บคราบน้ำมัน กรมเจ้าท่าได้ร่วมกับบริษัทของเรือ ได้นำบูมมาล้อมเพื่อป้องกันการกระจายตัวของน้ำมัน ซึ่งในเบื้องนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมในทะเล สำหรับการกู้เรือเจ้าท่าพัทยาได้เชิญเอเย่นต์เจ้าของเรือเข้ามารับทราบเกี่ยวกับแนวทางการกู้เรือตามที่กฎหมายกำหนด โดยสถานการณ์ในปัจุบันกรมเจ้าท่าเป็นหน่วยงานหลักในการควบคุมสถานการณ์ที่เกิดเหตุ ซึ่งสามารถควบคุมคราบน้ำมันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสภาพสิ่งแวดล้อมแล้ว และกำลังดำเนินการวางแผนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเอเย่นต์ของเรือที่จม ดำเนินการกู้เรือจมต่อไป.



ที่มา Data & Images -




เร่งกู้เรือท่องเที่ยวจมที่แหลมฉบัง

ชลบุรี - เจ้าหน้าที่เร่งกู้เรือท่องเที่ยวจมนอกชายฝั่งศรีราชา พร้อมขจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหล ยืนยันไม่กระทบชายฝั่ง


จากกรณีเรือท่องเที่ยวชื่อ Ocean dream จมขณะจอดทอดสมอ บริเวณหน้าเขื่อนกันคลื่น ท่าเรือแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 59 ที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เร่งมือกู้เรือและขจัดคราบน้ำมันที่ไหลลงในทะเล โดยมีการวางแนวป้องคราบน้ำมันไม่ให้ขยายวงกว้างรวมทั้งได้ใช้สารเคมีขจัดคราบน้ำมัน โดยยืนยันว่า ไม่มีผลกระทบต่อชายฝั่งศรีราชาและพัทยา

ขณะที่ การกู้เรืออยู่ระหว่างวางแผนการดำเนินการกู้เรือ เบื้องต้นต้องนำเรือไปไว้ในพื้นที่ที่ปลอดภัยและไม่กีดขวางการเดินเรือ  หลังจากนั้น จะเร่งกู้เรือขึ้น

สำหรับเรือลำดังกล่าวได้มาจอดทิ้งสมอตั้งแต่ช่วงเดือนมี.ค. 2557 และไม่มีผู้ดูแล โดยเรือลำนี้มีขนาดยาว 163.3 เมตร กว้าง 26 เมตร ซึ่งก่อนหน้านี้ท่าเรือแหลมฉบังและกรมเจ้าท่าได้เคยมาดำเนินการตรวจสอบแล้ว  และมีกำหนดการที่จะลากไปเกยตื้นเนื่องจากเรือเอียงในวันที่ 2 มี.ค. 59 ที่จะถึงนี้ แต่ได้มาจมลงเสียก่อน



ที่มา Data & Images -





ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- หวาดเสียว..เรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่จอดทอดสมอเอียงหน้าอ่าวแหลมฉบัง

..-