ข่าว:

รับสมัครเฉพาะชาวเรือและผู้ที่สนใจที่เป็นคนไทยเท่านั้น สมัครแล้วรออนุมัติประมาณ 2-3 วัน หากต้องการด่วนโปรดแจ้ง webmaster@marinerthai.net

Main Menu

กรมเจ้าท่าขานรับนโยบาย สั่งแท่นขุดเจาะน้ำมันพ้นเขตท่าเรือศรีราชา

เริ่มโดย mrtnews, มี.ค 09, 16, 06:33:06 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

ศูนย์ข่าวศรีราชา - กรมเจ้าท่า สั่งแท่นขุดเจาะน้ำมันบริเวณเกาะสีชัง ออกจากเขตท่าเรือศรีราชา หลังกระทรวงคมนาคมมีนโยบาย และหวั่นเกิดปัญหาเหมือนเรือ OCEAN DREAM จม


จากกรณีที่เรือท่องเที่ยวชื่อ OCEAN DREAM ประเทศจีน จอดทอดสมอบริเวณอ่าวแหลมฉบัง มานานเกือบ 2 ปี และเกิดจมลงเมื่อวันที่ 27 ก.พ. 59 ที่ผ่านมา ทำให้คราบน้ำมันในเรือไหลลงสู่ท้องทะเล ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความหวั่นวิตกต่อกระทรวงคมนาคมเป็นอย่างมาก

พร้อมกับได้สั่งการให้กรมเจ้าท่าในพื้นที่ศรีราชา จ.ชลบุรี ย้ายแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มาจอดทอดสมอในพื้นที่ศรีราชา นานหลายเดือนแล้วออกนอกพื้นที่ เพราะหวั่นจะสร้างปัญหา และผลกระทบในพื้นที่เหมือนเรือท่องเที่ยวลำดังกล่าว

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ วันนี้ (7 มี.ค. 59) นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเล (ชลบุรี) กรมเจ้าท่า ได้เดินทางพร้อมเรือตรวจการณ์ 804 และกำลังเจ้าหน้าที่ ไปตรวจสอบบริเวณแท่นขุดเจาะ (Jack UP RIG) ชื่อ "EMERALD DRILLER" ที่มาจอดบริเวณเขตจอดเรือเพื่อขนถ่ายสินค้ากลางน้ำ ด้านตะวันตกเขต 1 บริเวณเกาะสีชัง ภายในเขตท่าเรือศรีราชา

แท่นขุดเจาะดังกล่าว บริษัท เอ็ม เอ็ม ลอจิสติคส์ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนเจ้าของเรือมีความประสงค์ขออนุญาตนำเรือ "EMERALD DRILLER" ซึ่งเป็นแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีเครื่องยนต์ลากมาโดยเรือ TUG "PACIFIC WARLOK" และ TUG "PACIFIC VULCAN" เข้ามาจอดบริเวณดังกล่าวนานหลายเดือนแล้ว

นายภูริพัฒน์ กล่าวว่า จากคำสั่งจากกระทรวงคมนาคม ทางกรมเจ้าท่า พิจารณาแล้วเห็นว่า เขตท่าเรือศรีราชา เป็นเขตท่าเรือที่ใช้สำหรับในการจอดเรือ เพื่อทำการขนถ่ายสินค้ากลางน้ำเท่านั้น ประกอบกับในบริเวณดังกล่าวมีเรือสินค้าเข้ามาจอดเพื่อทำการขนถ่ายสินค้าเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะไม่ปลอดภัยต่อการเดินเรือ


จึงไม่อนุญาตให้จอดแท่นขุดเจาะดังกล่าวได้ และให้เคลื่อนย้ายแท่นขุดเจาะออกจากเขตท่าเรือศรีราชาทันที พร้อมทั้งให้ชำระค่าธรรมเนียมตามกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมการใช้เขตท่าเรือ ศรีราชา พ.ศ.2545

ขณะนี้ทางเอเยนต์แท่นขุดเจาะน้ำมัน รับปากจะรีบนำแท่นขุดเจาะออกนอกพื้นที่โดยด่วน แต่เนื่องจากเป็นแท่นขนาดใหญ่กว่า 10,000 ตัน ดังนั้น ทางเอเยนต์ขอเวลาไปสำรวจพื้นที่ที่เหมาะสมก่อนที่จะลากแท่นขุดเจาะดังกล่าวไป แต่อย่างไรก็ตาม ทางกรมเจ้าท่าได้กำชับให้รีบดำเนินการโดยด่วน เนื่องจากเป็นนโยบาย และคำสั่งจากหน่วยเหนือสั่งการมา

นายภูริพัฒน์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับรูปแบบการนำเรือมาจอดทอดสมอในเขตท่าเรือศรีราชา ขณะนี้รูปแบบ และระเบียบในข้อกฎหมายไม่ชัดเจน และมีความคลุมเครือ ดังนั้น จะต้องนำเสนอหน่วยเหนือเพื่อให้มีการแก้ไขในรูปแบบที่ยั่งยืนขึ้น และเกิดความชัดเจน โดยสามารถชี้แจ้ง และทำความเข้าใจต่อผู้ประกอบการเรือได้

นอกจากนั้น จะต้องกำหนดโซนนิ่งการจอดเรือให้ชัดเจนด้วย เพราะเรือที่เข้ามาแล้วสามารถทำรายได้ให้แก่ประเทศได้ แต่เนื่องจากที่ผ่านมา ค่าธรรมเนียมการใช้เขตท่าเรือศรีราชา ที่เก็บค่าธรรมเนียมเพียง 10 สตางค์/ตันกรอส/วัน ทำให้ไม่มีผลกระทบอะไรต่อเรือประเภทนี้ ดังนั้น จะเสนอเรื่องต่อหน่วยเหนือเพื่อเพิ่มอัตราการจัดเก็บเป็น 1 บาท หรือ 2 บาท/ตันกรอส/วัน ซึ่งจะเป็นเท่าไรนั้นจะต้องมาพิจารณากันอีกครั้ง เพื่อสร้างประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติให้มากที่สุด



ที่มา Data & Images -




แท่นขุดเจาะทอดสมอเกาะสีชัง เจ้าท่าสั่งย้ายออกหวั่นล้ม

แท่นขุดเจาะน้ำมัน ทอดสมอเกาะสีชัง เจ้าท่าสั่งย้ายออกหวั่นล้ม แต่เนื่องจากเป็นแท่นขนาดใหญ่กว่าหมื่นตัน ตัวแทนบริษัทที่รับผิดชอบขอสำรวจพื้นที่เหมาะสม ก่อนเคลื่อนย้าย ...


เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 7 มี.ค. 59 นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเล (ชลบุรี) กรมเจ้าท่า ได้กล่าวว่า กรณีเรือจากประเทศจีน จอดทอดสมอบริเวณนี้แล้วจม เมื่อปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้คราบน้ำมันในเรือไหลลงสู่ทะเล ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เหตุการณ์สร้างความหวั่นวิตกต่อประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง

ขณะเดียวกันได้มีแท่นขุดเจาะน้ำมัน ชื่อ "EMERALD DRILLER" มาจอดบริเวณเขตจอดเรือเพื่อขนถ่ายสินค้ากลางน้ำ ด้านตะวันตกเขต 1 เกาะสีชัง และทอดสมอมานานหลายเดือนแล้ว จึงเดินทางมาตรวจสอบด้วยเรือตรวจการณ์ 804

เบื้องต้น ทราบว่าทางบริษัท เอ็ม เอ็ม ลอจิสติคส์ จำกัด ซึ่งเป็นตัวแทนเจ้าของเรือ มีความประสงค์ขออนุญาตนำแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีเครื่องยนต์ โดยมีเรือ TUG "PACIFIC WARLOK" และ TUG "PACIFIC VULCAN" ลากจูงมา รับปากจะรีบนำออกนอกพื้นที่โดยด่วน แต่เนื่องจากเป็นแท่นขนาดใหญ่ กว่า 10,000 ตัน ดังนั้น ทางตัวแทนขอเวลาไปสำรวจพื้นที่ที่เหมาะสม ก่อนที่จะลากแท่นขุดเจาะดังกล่าวไป



ที่มา Data & Images -