ข่าว:

รับสมัครเฉพาะชาวเรือและผู้ที่สนใจที่เป็นคนไทยเท่านั้น สมัครแล้วรออนุมัติประมาณ 2-3 วัน หากต้องการด่วนโปรดแจ้ง webmaster@marinerthai.net

Main Menu

ช่างภาพอิสระดอดเข้าพื้นที่หวงห้ามเมืองฟุกุชิมะเผยรูปถ่ายชวนใจหาย

เริ่มโดย mrtnews, ก.ค 14, 16, 06:31:25 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

ช่างภาพมาเลเซียเสี่ยงเข้าไปเก็บบรรยากาศในพื้นที่หวงห้ามเมืองฟุกุชิมะ เพื่อสะท้อนอันตรายพลังงานนิวเคลียร์ที่ยังคงอยู่หลัง 5 ปีผ่าน

   
หนังสือพิมพ์เดอะ สตาร์  ในมาเลเซีย รายงานว่า  Keow Wee Loong ช่างภาพอิสระชาวมาเลเซีย แอบเดินทางเข้าไปในเมืองฟุกุชิมะประเทศญี่ปุ่นเมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อบันทึกภาพความเป็นไปภายในเมืองร้าง หลังวิกฤติกัมมันตรังสีรั่วไหลครั้งร้ายแรง จากแผ่นดินไหวใหญ่ระดับ 9 ตามด้วยสึนามิเมื่อ 11 มีนาคม 2554 และเผยแพร่ภาพถ่ายเหล่านั้นบนเฟซบุ๊ค

ตำรวจที่คอยลาดตระเวนจะไม่อนุญาตให้คนเข้าไปภายในพื้นที่หวงห้าม เพราะเกรงอันตรายจากรังสี ผู้ที่ต้องการจะเข้าไป จะต้องได้รับอนุญาตก่อนและใช้เวลาอยู่ภายในไม่เกิน 5 ชั่วโมง   

แต่ Keow Wee Loong บอกกับเดอะสตาร์  ว่า การยื่นคำร้องและกว่าจะได้รับอนุญาต  ใช้เวลานานเกือบหนึ่งเดือน ส่วนถนนหนทาง ก็จะมีตำรวจประจำอยู่และคอยลาดตระเวนอยู่โดยตลอด  ด้วยเหตุนี้  จึงใช้วิธีแอบเล็ดลอดผ่านป่าละเมาะจากเมืองทามิโอกะเข้าไป เมื่อเวลาประมาณ 2.00 น.ของวันที่ 4 มิถุนายน  2559


ช่างภาพรายนี้กล่าวว่า ทำกระเป๋าเงินหล่นหาย บัตรเครดิตและเงินสดหายเกือบหมด จึงไม่สามารถซื้อชุดป้องกันมาใช้เพื่อภารกิจนี้ แต่ก็สามารถหาหน้ากากกันแก๊สพิษและคลุมศีรษะเพื่อป้องกันตัว  เขาเดินทางเข้าไปพร้อมกับเพื่อนอีกคน เดินไปเรื่อยๆทั่วฟูกุชิมะ 26 กิโลเมตร โดยใช้เวลาเพียง 13 ชั่วโมงอยู่ในพื้นที่สีแดงเพื่อลดการรับรังสีให้น้อยที่สุด

แม้แผ่นดินไหวและสึนามิก่อความเสียหายอย่างหนัก แต่ยังมีไฟฟ้าและสัญญาณโทรศัพท์เมื่อตอนที่ทั้งสองเข้าไป จึงสามารถใช้เครื่องจีพีเอสนำทางฝ่าป่าดงและหมู่บ้านเล็กๆ

มีเสียงวิจารณ์ในโลกออนไลน์ว่าการฝ่าข้อห้ามเข้าไปในฟุกุชิมะเพื่อหวังเป็นข่าวหรืออยากดัง แต่เจ้าตัวกล่าวว่า เขาทำเพราะอยากฉายภาพอันตรายของพลังงานนิวเคลียร์ "ผมไม่ได้ไปปล้นบ้านหรือทำร้ายใคร สิ่งที่ผมขโมยออกมาคือรูปถ่าย"


(ชมภาพถ่าย Fukushima exclusion zone (No man's land) ทั้งหมดได้ที่  Facebook Keow Wee Loong)

ที่มาข่าว The Star



ที่มา Data & Images -


..