"เอสโซ่" ลั่นไม่ขายกิจการในไทย ยกเครื่องโรงกลั่นสู่เวิลด์คลาส

[mrtnews]

เอสโซ่ฯ สยบข่าวลือ ประกาศลั่นไม่ขายโรงกลั่นน้ำมัน-ไม่ปลดพนักงาน เตรียมพัฒนาโรงกลั่นเข้าสู่มาตรฐานระดับเวิลด์คลาสเร็ว ๆ นี้ ด้านผู้บริหารแจงบริษัทแม่ยังให้ความสำคัญกับธุรกิจพลังงานในไทย

ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีแนวโน้มที่จะขายโรงกลั่นน้ำมันในไทย หลังจากมีภาระขาดทุนสะสมในช่วง 2555-2557 และยังมาเจอขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน (Stock loss) ตั้งแต่ในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ในปี 2558 เพราะราคาน้ำมันที่ปรับลดลงจากระดับ 100 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกล่าสุดยังยืนราคาที่ 40-45 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในช่วงที่ผ่านมาส่งผลให้เอสโซ่ฯ ดำเนินการปรับลดการทำงานล่วงเวลา (OT) ของพนักงานลง โดยมีเป้าหมายที่จะลดโอทีให้ได้ถึง 100% ในอนาคต จากกระแสดังกล่าวได้กระทบความเชื่อมั่นของพนักงานโรงกลั่น ฉะนั้นในงานสื่อสารประจำปีระหว่างผู้บริหารและพนักงานโรงกลั่นเอสโซ่ฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้จึงเป็นที่จับตามองว่าเอสโซ่ฯ จะชี้แจงอย่างไร

แหล่งข่าวจากบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่โรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้มีการจัดสื่อสารประจำปีระหว่างผู้บริหารกับพนักงานโรงกลั่น โดย ดร.อดิศักดิ์ แจ้งกมลกุลชัย ผู้จัดการโรงกลั่นและกรรมการบริหาร ได้ชี้แจงกับพนักงานว่า แม้ว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันจะมีความผันผวน แต่ยังสามารถบริหารจัดการได้ ฉะนั้นจึงยังไม่มีความจำเป็นในการเลิกจ้างพนักงาน และไม่มีแผนขายโรงกลั่นน้ำมันด้วย นอกจากนี้ยังเตรียมดำเนินการที่จะปรับโรงกลั่นน้ำมันของเอสโซ่ฯ ให้ก้าวสู่มาตรฐานสากลที่มีระบบที่ดีที่สุดในกลุ่มบริษัท เอ็กซอนโมบิลด้วย

นอกจากนี้ผู้บริหารยังให้ข้อมูลว่า ในช่วงที่ผ่านมาโรงกลั่นน้ำมันเอสโซ่ฯ ได้รับรางวัลในฐานะที่ดำเนินการภายใต้มาตรฐานที่เอ็กซอนโมบิลมาแล้วเกือบทุกรางวัลที่มี ขณะนี้เหลือเพียงการปรับปรุงการใช้พลังงานภายในโรงกลั่นให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดตามเป้าหมายที่วางไว้ต่อไป

"บริษัทแม่ต้องการให้โรงกลั่นเอสโซ่ก้าวไปสู่โรงกลั่นระดับWorldClass นั่นหมายถึงว่า กำลังอยู่ในระหว่างพิจารณาว่าจะปรับปรุงโรงกลั่นหรือขยายโรงกลั่น เพื่อรองรับความต้องการใช้ในอนาคตได้ เพราะโรงกลั่นดังกล่าวมีอายุใช้งานมาค่อนข้างนานแล้ว"

ด้านนายมงคลนิมิตร เอื้อเชิดกุล กรรมการและผู้จัดการ ฝ่ายกิจกรรมองค์กรและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท เอสโซ่ฯ กล่าวว่า ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ในขณะนี้ สำหรับนโยบายของบริษัทแม่ ยังคงให้ความสำคัญกับการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องแน่นอน เพราะเอสโซ่ฯ ทำธุรกิจในไทยมากว่า 100 ปี มีทั้งโรงกลั่นน้ำมัน และสถานีบริการน้ำมันมากกว่า 500 แห่งครอบคลุมทั่วประเทศ

รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันโรงกลั่นน้ำมันของเอสโซ่ฯ ศรีราชา จ.ชลบุรี นั้น มีกำลังการกลั่น 177,000 บาร์เรล/วัน มีโรงงานอะโรเมติกส์ กำลังการผลิตสารพาราไซลีน 500,000 ตัน/ปี มีหน่วยผลิตสารทำละลาย กำลังการผลิต 50,000 ตัน/ปี และมีสถานีบริการน้ำมันครอบคลุมทั่วประเทศมากกว่า 570 แห่ง สำหรับผลประกอบการในช่วงที่ผ่านมาในปี 2555 ขาดทุนอยู่ราว 1,698 ล้านบาท ในปี 2556 ขาดทุนที่ 378 ล้านบาท ในปี 2557 ขาดทุน 10,306 ล้านบาท โดยเริ่มกลับมามีกำไรในปี 2558 ที่ 1,701 ล้านบาท และในช่วงไตรมาส 1 ของปี 2559 ที่ผ่านมามีกำไรอยู่ที่ระดับ 1,894 ล้านบาท

ปัจจุบันบริษัท เอสโซ่ฯ ถือหุ้นโดย
1) บริษัท เอ็กซอนโมบิล เอเชีย โฮลดิ้งส์ (สิงคโปร์) 65%
2) บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 4.8%
3) กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง โดย บลจ.กรุงไทย 3.67%
4) กองทุนรวมวายุภักษ์หนึ่ง โดย บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) 3.67%



ที่มา Data & Images -