ข่าว:

ห้ามโพส ปั่นลิงก์ SEO ในส่วนของ ลายเซ็นสมาชิกเพื่อจะแสดงที่ด้านล่าง ของแต่ละข้อความที่ตอบกระทู้ เช่น คาสิโน บาคาร่า แทงบอล ฯลฯ เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

แผนสำรองกรณี"กระบี่-เทพา"ล่ม EGCO เสนอตัวขยายโรง BLCP ถ่านหิน 1,000 MW

เริ่มโดย mrtnews, ส.ค 09, 16, 06:25:18 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

เอ็กโก้ลุ้น EHIA พื้นที่ขยายโรงไฟฟ้าถ่านหิน BLCP ผ่าน ส.ค. 59 นี้ พร้อมเสนอ ก.พลังงานขอขยายกำลังเพิ่ม 1,000 เมกะวัตต์ รวมไปจนถึงโรงไฟฟ้าขนอมก็ขยายได้อีกเพราะเตรียมรื้อทิ้งยูนิต 1-2 หากโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่-เทพาล่ม โดดร่วมประมูลโครงการชีวมวลพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ วางอนาคต 10 ปีของเอ็กโก้เติบโตด้วยพลังงานทดแทนและถ่านหินในต่างประเทศ


นาย ชนินทร์ เชาวน์นิรัติศัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า แบบประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ หรือ EHIA (Environmental Health Im-pact Assessment) ในพื้นที่ส่วนขยายของถ่านหิน ของบริษัท บีแอลซีพี เพาเวอร์ จำกัด (BLCP) จังหวัดระยอง จะผ่านการพิจารณาจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ในเดือน ส.ค.นี้ เอ็กโก้วางแผนที่จะนำเสนอต่อกระทรวงพลังงานเพื่อพิจารณาให้มีการขยายโรง ไฟฟ้าถ่านหินเพิ่มเติมอีก 1,000 เมกะวัตต์ เนื่องจากเห็นว่า 1) โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินของบริษัท เนชั่นแนล เพาเวอร์ ซัพพลาย จำกัด 540 เมกะวัตต์ พื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา อาจเข้าระบบไม่ทันในปี"60 นี้ รวมถึงโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ และเทพา จังหวัดสงขลา ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีแนวโน้มชะลอออกไปมากกว่า 1 ปี 2) ความเหมาะสมของพื้นที่โรงไฟฟ้า BLCP ที่มีท่าเรือรองรับการนำเข้าถ่านหิน 3) สามารถสนองนโยบายภาครัฐที่ต้องการปรับลดการผลิตไฟฟ้าโดยใช้ก๊าซธรรมชาติเป็น เชื้อเพลิงลง และเพิ่มสัดส่วนของถ่านหินตามที่ระบุไว้ในแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าใหม่ของ ประเทศ หรือ PDP (Power Development Plan 2558-2579) และ 4) อัตราค่าไฟฟ้าสามารถแข่งขันด้านราคากับ กฟผ.ได้

นอกจากนี้ เอ็กโก้ยังได้เตรียมความพร้อมที่จะขยายโรงไฟฟ้าขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช หลังจากที่โรงไฟฟ้าขนอม ยูนิตที่ 4 กำลังผลิต 930 เมกะวัตต์ ได้เริ่มผลิตไฟฟ้าเข้าระบบไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ และในอนาคตจะต้องรื้อทิ้งโรงไฟฟ้าขนอม ยูนิตที่ 2 และ 3 ฉะนั้น เท่ากับว่ายังเหลือพื้นที่ขยายโรงไฟฟ้าใหม่เพิ่มเติมได้ ในกรณีนี้เอ็กโก้มองในแง่ผลประโยชน์ภาพรวมของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความจำเป็นที่ภาคใต้จะต้องมีโรงไฟฟ้าใหม่เพื่อรองรับความ ต้องการใช้ อย่างไรก็ตาม สำหรับโรงไฟฟ้าขนอมส่วนขยายในอนาคต เอ็กโก้เตรียมที่จะจัดทำแบบประเมิน EHIA เสนอต่อ สผ.ให้แล้วเสร็จ แล้วจึงเสนอโครงการไปยัง ก.พลังงานต่อไป

"มีโรงไฟฟ้าตามแผน PDP ที่อาจไม่สามารถเข้าระบบทันกำหนด และอาจมีความเป็นไปได้ที่ ก.พลังงานอาจต้องปรับแผน PDP ใหม่ เอ็กโก้จึงต้องเตรียมความพร้อมเพื่อโอกาสอย่างที่ขนอมมีท่อส่งก๊าซ มีระบบต่าง ๆ รองรับ แข่งขันด้านราคาได้ ส่วนโรงไฟฟ้าบีแอลซีพีเดินเครื่องมาเป็น 10 ปี โดยที่ไม่มีผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม การพัฒนาโครงการใหม่น่าจะมีโอกาสมากกว่า"

นายชนินทร์กล่าวเพิ่มเติม ว่า เมื่อพิจารณาจากแผน PDP ฉบับปัจจุบันจะพบว่าในช่วง 10 ปีต่อจากนี้จะไม่มีการเปิดประมูลโรงไฟฟ้าใหม่แน่นอน โดยเฉพาะตั้งแต่ปี"64-67 โรงไฟฟ้าของกลุ่มบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด รวม 5,000 เมกะวัตต์ เริ่มทยอยเข้าระบบ แต่หลังจากนั้นแผน PDP ระบุชัดว่าจะมีกำลังผลิตใหม่เข้ามา และคาดว่าจะเปิดการประมูลแน่นอน ฉะนั้น ในช่วง 10 ปีนี้ เพื่อให้เอ็กโก้มีการขยายกำลังผลิตเพิ่มเติม จึงตั้งเป้าการลงทุนไว้ที่ 1) พลังงานทดแทนในประเทศ ที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะทยอยเปิดประมูลในรูปแบบค่าไฟฟ้า Feed in Tariff เช่น โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เอ็กโก้ได้ยื่นเสนอไป 1 โครงการร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ พื้นที่ตั้งโรงไฟฟ้าอยู่ในจังหวัดนราธิวาส


รวมถึงยังพิจารณาความ เป็นไปได้ที่จะเข้าไปซื้อกิจการโรงไฟฟ้าชีวมวลในรายที่ต้องการขาย อย่างไรก็ตาม การเข้าซื้อกิจการช่วงนี้อาจต้องจ่ายเพิ่มในส่วนที่เรียกว่าค่าพรีเมี่ยม (Premium) ฉะนั้น ต้องพิจารณาเฉพาะโครงการที่คุ้มค่าลงทุนเท่านั้น

นอกจากจะลงทุนในโครงการใหม่แล้ว เอ็กโก้ยังใช้วิธีเข้าไปเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในโครงการพลังงานทดแทนใน ประเทศที่ยังถือหุ้นไม่ครบ 100% เช่นในโครงการร้อยเอ็ดกรีน ที่ปัจจุบันถือหุ้นอยู่ร้อยละ 70 โรงไฟฟ้าเอ็นอีดี จังหวัดลพบุรี ถือหุ้นร้อยละ 66 โรงไฟฟ้าจีพีเอส หน่วยงาน 1-4 ถือหุ้นร้อยละ 60 เป็นต้น ด้านการลงทุนในต่างประเทศนั้น ขณะนี้อยู่ในระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาโรงไฟฟ้าถ่านหินในประเทศ ฟิลิปปินส์ เนื่องจากปัจจุบันเอ็กโก้มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวม 700 เมกะวัตต์ และวางเป้าหมายไว้ว่าภายในปี 2562 นี้จะมีกำลังผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 1,000 เมกะวัตต์

"เอ็กโก้มีแนวโน้ม ที่จะซื้อหุ้นเพิ่มในโครงการที่ถือไม่เต็ม 100% ถือเป็นกลยุทธ์ของเอ็กโก้ เหตุผลส่วนหนึ่งคือ ในเมื่อสร้างโรงไฟฟ้าใหญ่ที่ใช้ก๊าซไม่ได้ ก็ต้องหาอย่างอื่นมาทดแทน สิ่งที่สำคัญคือต้องพยายามรักษพอร์ตของพลังงานทดแทนเอาไว้ จากล่าสุดที่มี 16% อีกเหตุผลคือต้องการลดสัดส่วนการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ด้วย เพราะกังวลว่าโครงการถ่านหินอาจได้รับผลกระทบ



ที่มา Data & Images -