ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา สินค้าที่ดูแล้วขัดต่อ ศีลธรรม ประเพณี หรือกฏหมายของไทย เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

ความยั่งยืน "ไทยออยล์" ธุรกิจ-สังคม เติบโตอย่างมั่นคง

เริ่มโดย mrtnews, พ.ย 29, 16, 06:37:18 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ - 28 พ.ย. 2559 - เพราะความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน จึงทำให้การดำเนินธุรกิจของ "บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)" ให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการดำเนินธุรกิจที่เป็นเลิศ ควบคู่ไปกับการสร้างความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอน ทุกกระบวนการ ทั้งนั้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและการยอมรับให้กับชุมชน รวมถึงการได้รับความไว้วางใจในการดำเนินธุรกิจจากสังคมโดยรวม


"อธิคม เติบศิริ" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจของเครือไทยออยล์จะเกี่ยวข้องกับธุรกิจการกลั่นเป็นหลัก และในปัจจุบันถือเป็นโรงกลั่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ ทั้งยังสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายและครบวงจร โดยแบ่งเป็นธุรกิจน้ำมันสำเร็จรูป, ธุรกิจผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี, ธุรกิจนํ้ามันหล่อลื่นพื้นฐาน และธุรกิจสารทำละลายเคมีภัณฑ์

"ทั้งนี้ ยังมีธุรกิจโรงไฟฟ้า, ธุรกิจการขนส่ง, ธุรกิจผลิตเอทานอล ธุรกิจ LABIX ซึ่งเกี่ยวข้องกับการผลิตสาร LAB (Linear Alkyl Benzene) ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ของไทยออยล์ ที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังมีกิจการบริหารจัดการด้านทรัพยากรบุคคล เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของไทยออยล์"

ไม่เพียงเท่านี้ ไทยออยล์ยังให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้งในกระบวนการผลิตและกิจกรรมเพื่อสังคม รวมถึงชุมชนในพื้นที่ที่เข้าไปดำเนินธุรกิจ โดยมุ่งเน้นการสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเพื่อสร้างการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมีการกำหนดนโยบายทางด้านซีเอสอาร์ประกอบด้วย

หนึ่ง การมุ่งมั่นพัฒนาให้ธุรกิจเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการดูแลเอาใจใส่สิ่งแวดล้อม และคำนึงถึงผลกระทบต่อชุมชนและสังคมโดยรวม

สอง การนำความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญของธุรกิจในด้านวิศวกรรมและด้านพลังงานมาช่วยเหลือ และพัฒนาสังคม โดยมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด ภายใต้แนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน

สาม การดำเนินกิจกรรมด้านซีเอสอาร์ที่มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนในพื้นที่และประสานความร่วมมือกับองค์กรภาครัฐส่วนท้องถิ่น

สี่การสนับสนุนการมีส่วนร่วมของบุคลากรไทยออยล์ และการปลูกฝังค่านิยม จิตสำนึกด้านความรับผิดชอบต่อสังคมให้เกิดเป็นวัฒนธรรมองค์กร

"อธิคม" กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินความรับผิดชอบต่อสังคมถือเป็นพันธกิจหลักขององค์กรที่ไทยออยล์ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะเราต้องการสร้างความเชื่อมั่นและการยอมรับจากชุมชน รวมถึงการสร้างความไว้วางใจในการดำเนินธุรกิจจากสังคม

โดยการดำเนินงานซีเอสอาร์จะแบ่งเป็น 2 พื้นที่ คือพื้นที่โดยรอบชุมชนที่ไทยออยล์เข้าไปดำเนินธุรกิจ (Sustainability Community) และพื้นที่สังคมในระดับประเทศ (Sustainability Society)

"สำหรับพื้นที่โดยรอบชุมชนที่ไทยออยล์เข้าไปดำเนินธุรกิจจะเน้นการพัฒนาเพื่อสร้างชุมชนและสังคมให้มีความยั่งยืนโดยใช้โมเดลหลัก 3 ประสาน (ไทยออยล์-ชุมชน-ส่วนราชการท้องถิ่น) 5 ร่วม (ร่วมคิด-ร่วมทำ-ร่วมแก้ไข-ร่วมเรียนรู้-ร่วมพัฒนา) ในการดำเนินงาน โดยแบ่งเป็นโครงการด้านสิ่งแวดล้อม โครงการด้านการศึกษา โครงการด้านศาสนาและวัฒนธรรม และโดยเฉพาะโครงการด้านสุขภาพในพื้นที่รอบโรงกลั่น"

"อธิคม" อธิบายเพิ่มเติมว่า สำหรับโครงการด้านสุขภาพบริเวณพื้นที่รอบโรงกลั่นนั้น ไทยออยล์มีการจัดตั้งศูนย์สุขภาพและการเรียนรู้เครือไทยออยล์เพื่อชุมชน เพื่อสร้างสุขภาพที่ดีของชาวชุมชนบริเวณรอบโรงกลั่น และยังเป็นหน่วยปฏิบัติงานด้านเวชศาสตร์ชุมชนรอบโรงกลั่นในการดูแลสุขภาพประชาชน

นอกจากนี้ยังมีโครงการทันตสุขภาพที่เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2553 เพื่อลดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพฟัน ทั้งยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาฟันในระยะยาว ซึ่งที่ผ่านมาทางศูนย์สุขภาพฯให้บริการทำฟันไปแล้วกว่า 18,000 ครั้ง และยังมีโครงการต่อเนื่องเพื่อส่งเสริมสุขภาพฟัน ด้วยการสร้างถังเก็บน้ำประปา ขนาด 13,000 ลิตร ให้กับโรงเรียนที่ขาดแคลนน้ำ

"ล่าสุดเรามีโครงการสร้างอาคารไทยออยล์ โดยสนับสนุนงบประมาณกว่า 100 ล้านบาท ในระยะที่ 1 เพื่อก่อสร้างตึกอุบัติเหตุและฉุกเฉิน โรงพยาบาลแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ไม่เพียงเท่านี้ ไทยออยล์ยังนำเอาความรู้ด้านวิศวกรรมที่มีอยู่มาช่วยในการดูแลกระบวนการก่อสร้างในส่วนต่าง ๆ ด้วย"

โดยที่ผ่านมาไทยออยล์มีการเก็บข้อมูลจากชุมชนโดยรอบบริเวณโรงกลั่น เพื่อวัดระดับความพึงพอใจของชุมชนต่อการบริหารและการดูแลชุมชน ซึ่งพบว่ามากกว่าร้อยละ 98.2 พึงพอใจต่อการทำงานของเราเป็นอย่างมาก ตรงนี้สะท้อนว่าเราได้รับความไว้วางใจและการยอมรับจากชุมชน

"ในส่วนของการดำเนินงานสร้างความยั่งยืนในพื้นที่สังคมโดยรวมในระดับประเทศไทยออยล์เน้นการนำความรู้ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมและพลังงานมาช่วยเหลือและพัฒนาสังคม โดยเฉพาะการพัฒนาพลังงานทดแทน และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการสร้างชุมชนต้นแบบพึ่งตนเองด้านพลังงาน เพื่อมุ่งไปสู่การเป็นชุมชนที่ยั่งยืน"


ที่ผ่านมาเราจัดโครงการในหลายพื้นที่ทั่วภูมิภาคของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโครงการบริหารจัดการเพื่อเศรษฐกิจพอเพียง สร้างคลอง สร้างคน จ.บุรีรัมย์, โครงการความร่วมมือการเพาะเลี้ยงปะการังเกาะสีชัง จ.ชลบุรี, โครงการผลิตก๊าซชีวภาพจากน้ำเสียจากการผลิตยางแผ่น และของเสียจากครัวเรือน เกาะหมากน้อย จ.พังงา, โครงการด้านการพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนบนพื้นที่สูง จ.แม่ฮ่องสอน, โครงการอุ้มผาง เมืองพลังงานพอเพียงถวายพ่อ จ.ตาก และล่าสุดโครงการพลังงานน้ำบ้านแม่โจ้ จ.เชียงใหม่

ถึงตรงนี้ "อธิคม" บอกว่า จากความมุ่งมั่นและตั้งใจของไทยออยล์ที่ดำเนินธุรกิจตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืนตลอดทั้งกระบวนการนี่เอง จึงทำให้ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกของดัชนีแห่งความยั่งยืน Dow Jones Sustainability In-dices (DJSI) ในกลุ่มดัชนี Emerging Markets ติดต่อกัน 4 ปีซ้อน (ปี 2013-2016) ประเภทกลุ่มอุตสาหกรรมผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซ (Oil & Gas)

ทั้งยังเป็นผู้นำกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ (Oil and Gas Industry Group Leader) ติดต่อกันเป็นที่ 4 (ปี 2013-2016) ไม่เพียงเท่านั้น ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้นำในระดับกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน (Energy Industry Group Leader) ที่ประกอบด้วยผู้ผลิตถ่านหินและเชื้อเพลิงพลังงาน (Coal & Consumable Fuels), ผู้ผลิตอุปกรณ์และให้บริการสำรวจและผลิตพลังงาน (Energy Equipment & Services), ผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซ (Oil & Gas) และผู้ให้บริการคลังและขนส่งน้ำมันและก๊าซ (Oil & Gas Storage & Transportation) ติดต่อกันเป็นที่ 3(2014-2016) อีกด้วย

"จากการที่เราได้รับคัดเลือกให้ติด DJSI และยังเป็นผู้นำในระดับกลุ่มอุตสาหกรรมพลังงาน ทำให้สิ่งต่าง ๆ ที่เราดำเนินการผ่านมา ทั้งในเรื่องของธุรกิจและความรับผิดชอบต่อสังคมจึงต้องมีการพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยด้านธุรกิจเรามีแผนจะปรับปรุงหน่วยการกลั่นน้ำมันดิบ ภายใต้โครงการ (Clean Fuel Project-CFP) เพื่อทดแทนหน่วยกลั่นเดิมที่ใช้มากว่า 50 ปี ซึ่งหน่วยการกลั่นใหม่นี้ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัย สามารถเพิ่มกำลังการผลิตมากขึ้น ในขณะที่มาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมยังอยู่ในระดับ World Class ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในต้นปี 2560 และใช้ระยะเวลาก่อสร้างราว 4 ปี ถึงจะแล้วเสร็จ"

ในส่วนของโครงการเพื่อสังคมต่าง ๆ ที่ไทยออยล์ทำไปแล้ว ยังจะมีการติดตามผลอยู่อย่างต่อเนื่อง และจะมีการขยายโครงการให้กระจายครอบคลุมไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ที่มีความต้องการ ภายใต้กรอบการทำงานด้านซีเอสอาร์ ที่มุ่งยกระดับและสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นกับชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม ขณะเดียวกันยังมองประเด็นเรื่องความยั่งยืนมิติใหม่ ๆ อยู่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นที่สร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับสังคมในระยะยาวต่อไป

ซึ่งถือเป็นแนวทางการสร้างความยั่งยืนให้เกิดขึ้นกับสังคมและธุรกิจและนับเป็นกุญแจสำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่าเหตุใดไทยออยล์จึงก้าวไปสู่การเป็นผู้นำในด้านความยั่งยืน จนเป็นที่ยอมรับทั้งในระดับประเทศและระดับโลก



ที่มา Data & Images -