ญี่ปุ่นกระอัก ค่าใช้จ่ายในการแก้ไขวิกฤตโรงงานฟูกุชิมะ กว่า 6.3 ล้านล้านบาท

[mrtnews]

ค่าใช้จ่ายในการแก้ไขวิกฤตโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ฟูกุชิมะของญี่ปุ่น เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าเป็นกว่า 6.3 ล้านล้านบาท เน้นย้ำความท้าทายที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญ เพื่อเอาชนะความหายนะจากนิวเคลียร์ครั้งเลวร้ายที่สุดในโลก นับตั้งแต่โรงงานเชอร์โนบิลในยูเครนเมื่อ 30 ปีก่อน

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ว่า ล่าสุดรัฐบาลญี่ปุ่นประเมินค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมถึงเงินชดเชยแก่ผู้ได้รับผลกระทบ การเลิกดำเนินการ และขจัดการปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี อาจสูงถึง 20 ล้านล้านเยน (6,337,510 ล้านบาท) หรือมากกว่า จากการรายงานของสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค เมื่อวันพฤหัสบดี

ตัวเลขค่าใช้จ่าย ซึ่งได้รับจากแหล่งข่าวในรัฐบาลที่ไม่เปิดเผย สูงขึ้นเกือบ 2 เท่า จากการประเมินเมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 11 ล้านล้านเยน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตาสหกรรม ซึ่งควบคุมดูแลภาคพลังงานนิวเคลียร์ ไม่สามารถยืนยันรายงานข่าวได้ เพียงแต่กล่าวว่า รัฐบาลกำลังทำงานเพื่อสรุปตัวเลขประเมินค่าใช้จ่ายทั้งหมด ขณะที่คณะผู้เชี่ยวชาญกำลังหารือถึงวิธีแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย กับบริษัทโตเกียว อีเล็กทริค พสวเวอร์ หรือ เทปโก ผู้ดำเนินกิจการโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ฟูกุชิมะ และหน่วยงานอื่นๆ โดยการหารือจะสานต่อในปีหน้า

แผ่นดินไหวความรุนแรงมหาศาลใต้ทะเล ขนาด 9.1 แมกนิจูด เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2554 ทำให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิสูงถึง 40.5 เมตรในบางจุด พัดถล่มชายฝั่งทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น มีผู้เสียชีวิตและสูญหายกว่า 18,500 คน และทำให้เตาปฏิกรณ์ 3 เตาเสียหาย ในโรงงานนิวเคลียร์ฟูกุชิมะ

ถือเป็นหายนะภัยครั้งเลวร้ายที่สุดของญี่ปุ่น นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นเหตุการณ์นิวเคลียร์ครั้งร้ายแรงที่สุดในโลก หลังจากการระเบิดและแพร่กระจายกัมมันตรังสี ของโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในเมืองเชอร์โนบิล ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 26 เม.ย. 2529.



ที่มา Data & Images -

[youtube=640,390]http://www.youtube.com/watch?v=u9cms8fCfJc[/youtube]