ข่าว:

ห้ามโพสโฆษณา อาหาร ยา และเครื่องสำอางค์ รวมถึงสมุนไพรทุกชนิด ไม่ว่าจะมี อย. หรือไม่  เด็ดขาด หากพบจะแบนสมาชิกนั้นออกจากบอร์ดทันที

Main Menu

'สตาร์ครูซส์' บุกแหลมฉบังปลุกเที่ยวเรือสำราญหรู SuperStar Gemini

เริ่มโดย mrtnews, เม.ย 01, 17, 05:54:05 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

สตาร์ครูซส์เล็งเทียบท่าแหลมฉบังปลายปี ชงรัฐเร่งอำนวยความสะดวกวีซ่าเข้าหลายประเทศเอื้อต่างชาติบินมาลงเรือเที่ยว


นายอัง มู ลิม ประธานกรรมการ บริษัท สตาร์ครูซส์ บริษัทเดินเรือสำราญในเครือเกนติ้ง ฮ่องกง เปิดเผยว่า สตาร์ครูซส์จะนำเรือสำราญหรูซูเปอร์สตาร์ เจมิไน เทียบท่าที่ท่าเรือแหลมฉบังของไทยวันที่ 17 ธ.ค. 2560-27 เม.ย. 2561 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เทียบท่านี้

ทั้งนี้ จะเสนอโปรแกรมระยะสั้นทดลองตลาด คือ 4 วัน 3 คืน เดินทางวันอาทิตย์ไปเมืองสีหนุวิลล์และเกาะสมุย 1.29 หมื่นบาท 3 วัน 2 คืน เดินทางวันพุธ ไปสีหนุวิลล์ 8,900 บาท และ 3 วัน 2 คืน เดินทางวันศุกร์ ไปเกาะกง 9,900 บาท หากการตอบรับดี อนาคตจะนำโปรแกรมระยะยาวขึ้นและเส้นทางไกลขึ้นมาเสนอ และอาจนำเรือลำอื่นมาเทียบท่าแหลมฉบังเพิ่ม สาเหตุที่เทียบท่านี้เพราะเห็นโอกาสทำตลาดกลุ่มที่โดยสารเครื่องบินมาเพื่อลงเรือ และไทยเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมามากสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

"โปรแกรมเดินทางศุกร์-อาทิตย์น่าจะมีคนไทยเดินทางมาก ส่วนที่เริ่มเดินทางวันพุธจะจับตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวไทยอยู่แล้วได้ ด้านตลาดท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล องค์กรจัดกิจกรรมเป็นอีกตลาดที่น่าจะดึงมาได้ ส่วนภาพรวมตลาดเที่ยวเรือสำราญเอเชียตะวันออกเฉียงใต้โตเร็วได้ถ้าประเทศในภูมิภาคพัฒนาท่าเรือให้รองรับการจอดรับส่งได้มากขึ้น จะเอื้อต่อการพัฒนาเส้นทางใหม่ได้มากขึ้น" นายลิม กล่าว

นายศุภฤกษ์ ศูรางกูร นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) กล่าวว่า ต้องการให้ภาครัฐหาแนวทางอำนวยความสะดวกเรื่องวีซ่าแบบเข้าได้หลายประเทศ รองรับตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติขึ้นเครื่องบินมาไทย เพื่อขึ้นเรือสำราญไปแวะเที่ยวตามประเทศอื่นๆ หากทำได้จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวทางเรือสำราญ (ครูซส์ ทัวริซึ่ม) ได้ โดยเฉพาะการให้เรือสำราญมาใช้ท่าเทียบเรือในไทยเป็นท่าจอดรับส่งนักท่องเที่ยว (โฮมพอร์ต) ซึ่งแหลมฉบังอยู่ใกล้จุดหมายที่คนจีน รัสเซีย และอินเดียไปมาก มีโอกาสรองรับตลาดเหล่านี้ล่องเรือเที่ยวได้ ที่ผ่านมารัฐบาลตื่นตัวมากขึ้นส่งเสริมการท่องเที่ยวทางเรือสำราญถือเป็นสัญญาณที่ดี แม้จะเริ่มให้ความสำคัญช้ากว่าสิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม แต่ก็ดีกว่าไม่เริ่มต้นเลย

สำหรับกรณีของสตาร์ครูซส์ที่จะเทียบท่าเรือแหลมฉบังปลายปีนี้จะทำให้ตลาดคนไทยเที่ยวเรือสำราญโตได้มากขึ้น เพราะการท่องเที่ยวลักษณะนี้กำลังเป็น กระแสมาแรงในกลุ่มคนรุ่นใหม่ เมื่อมีเส้นทางเริ่มจากไทย ราคาจูงใจจะได้รับความสนใจมากกว่าเมื่อ ก่อนที่คนล่องเรือส่วนมากเป็นผู้สูงอายุและกลุ่มกำลังซื้อสูงมากที่นิยมไปล่องเรือเส้นทางอลาสกา



ที่มา Data & Images -




'สตาร์ครูซส์' บุกตลาดเรือสำราญไทยชูเที่ยวระยะสั้น

สตาร์ครูซส์ บุกตลาดเรือสำราญไทย ส่งเรือซูเปอร์สตาร์ เจมิไน (SuperStar Gemini) เทียบท่าแหลมฉบัง งัดโปรแกรมเส้นทางระยะสั้นเที่ยวสมุย-กัมพูชา เจาะตลาดนักท่องเที่ยวไทย-ต่างชาติ


นายอัง มู ลิม ประธานกรรมการบริษัทเรือสำราญสตาร์ครูซส์ กล่าวว่า เตรียมขยายตลาดมาสู่ประเทศได้ด้วยการนำเรือสำราญซูเปอร์สตาร์ เจมิไน เข้าเทียบเท่า ณ ท่าเรือแหลมฉบับ จ.ชลบุรี ระหว่างวันที่ 17 ธ.ค.2560-27 เม.ย.2561 โดยวางเส้นทางไว้ 3 โปรแกรม ประกอบด้วย การเดินทาง 4 วัน 3 ไปยังเมืองสีหนุวิลล์ และเกาะสมุย, โปรแกรม 3 วัน 2 คืน ไปยังสีหนุวิลล์ และโปรแกรม 3 วัน 2 คืน ไปยังเกาะกง ซึ่งหลังเปิดตัวครั้งนี้ จะพิจารณากระแสการตอบรับก่อน ซึ่งหากเป็นไปด้วยดีก็พร้อมจะนำเรือลำอื่นเข้ามาให้บริการเพิ่มเติม

บริษัทวางกลุ่มเป้าหมายตลาดคนไทยเป็นหลัก เนื่องจากโปรแกรมระยะสั้น สามารถเดินทางในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ได้ ขณะเดียวกันการมาใช้ท่าเรือแหลงฉบังจอดเรือรับนักท่องเที่ยวในช่วงดังกล่าว ยังมองเป้าหมายไปที่ชาวต่างชาติที่มาเที่ยวไทย ให้ร่วมซื้อแพ็คเกจล่องเรือสำราญด้วย หลังจากนี้จะทำแผนส่งเสริมการตลาดกระตุ้นให้บริษัทนำเที่ยว ร่วมผลิตแพ็คเกจทัวร์ผนวกรวมเอาการเดินเรือนำเสนอต่อลูกค้า เพื่อให้การท่องเที่ยวตลาดเรือสำราญ (ครุยส์ ทัวริสซึ่ม) ขยายตัวได้รวดเร็ว

นายลิม กล่าวว่า เชื่อว่าระดับราคาซึ่งอยู่ที่ 8,900 บาท – 1.29 หมื่นบาท ในช่วงแนะนำการขาย จะจูงใจผู้บริโภคชาวไทยเข้ามาทดลองใช้บริการ นอกจากนั้น มองศักยภาพตลาดไทยว่า สามารถสร้างฐานลูกค้าหลากหลาย เพราะสามารถนำเสนอให้กับตลาดไมซ์ ในกลุ่มจัดประชุมสัมมนาหรือท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัลได้ด้วย นอกจากนั้น หากการตอบรับในครั้งนี้ดี ก็พร้อมจะขยายเส้นทางระยะไกลมากขึ้น เนื่องจากบริษัทอยู่ในเครือของบริษัทเกนติ้ง ฮ่องกง ซึ่งมีโฮมพอร์ต หรือ ท่าเทียบเรือประจำ อยู่หลายแห่งในน่านน้ำทวีปเอเชียที่พร้อมรองรับอยู่แล้ว

"ตลาดท่องเที่ยวเรือสำราญในอาเซียน มีศักยภาพและการเติบโตที่น่าสนใจ ซึ่งหากแต่ละประเทศพัฒนาท่าเรือให้รองรับเรือสำราญได้สะดวกขึ้น จะเสริมให้มีเส้นทางแวะจอดหลากหลาย และส่งผลดีต่อภูมิภาคทั้งหมด"

สำหรับบริษัทสตาร์ครูซส์  เข้ามาทำตลาดในไทยครั้งแรกในปี 2538 โดยนำเรือเทียบท่า จ.ภูเก็ต ปัจจุบันดำเนินธุรกิจการล่องเรือในน่านน้ำเอเชียแปซิฟิก และฝูงเรือขนาดใหญ่ 6 ลำ

ด้านนายศุภฤกษ์ ศูรางกูร นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) กล่าวว่า ในการพัฒนาตลาดเรือสำราญในไทย ต้องการให้รัฐบาลเร่งผลักดันความร่วมมือกับเพื่อนบ้านในการผลักดันวีซ่าที่ใช้เข้า-ออกได้หลายประเทศในครั้งเดียว เนื่องจากพฤติกรรมของนักล่องเรือ อาจจะเดินทางมาไทยโดยเครื่องบิน ท่องเที่ยวภายในประเทศ แล้วขึ้นเรือล่องไปยังเส้นทางต่างๆ ในภูมิภาค จากนั้นขึ้นเครื่องบินกลับจากจุดหมายปลายทางที่ขึ้นเรือโดยไม่ย้อนกลับขึ้นมาอีก ดังนั้นการมีวีซ่าที่สะดวก จะยิ่งกระตุ้นให้ตลาดนี้เติบโตได้เร็ว
นอกจากนั้น ควรพัฒนาท่าเรือในไทยให้เป็นโฮมพอร์ตรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ได้มากขึ้น เพื่อสร้างให้ไทยเป็นจุดหมายที่เรือต่างๆ ต้องเยี่ยมเยียน ทำให้เกิดการกระจายรายได้ลงสู่ท้องถิ่นที่มีท่าเรือรับตลาดนี้โดยตรง ที่ผ่านมาแม้ว่าสิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม จะพัฒนาตลาดเรือสำราญจนมีความคืบหน้าไปมาก แต่สำหรับไทยที่เริ่มช้ากว่าคนอื่น ก็ยังมีโอกาสสร้างฐานตลาด โดยอาศัยศักยภาพด้านท่องเที่ยวอื่นๆ ที่มีช่วยผลักดัน

ส่วนการเดินทางมาเทียบท่าของเรือจากสตาร์ครูซส์ครั้งนี้ จะช่วยผลักดันการเติบโตในตลาดเฉพาะนี้มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีกระแสความนิยมล่องเรือเพิ่มมากขึ้น เมื่อผนวกรวมกับการมีราคาที่จูงใจ ก็สร้างความน่าสนใจมากขึ้น แทนที่จะเจาะตลาดผู้สูงอายุเป็นหลักเหมือนที่ผ่านมา



ที่มา Data & Images -





..