เร่งสัมปทานท่าเทียบเรือ B1 B2 และ B4 แหลมฉบัง ก่อนหมดอายุ

[mrtnews]

นายพิชิต อัคราทิตย์  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมร่วมกับหอการค้าไทย กรมเจ้าท่า(จท.) การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) และสมาคมเจ้าของเรือไทย โดยในการประชุมร่วมกันได้หารือถึงประเด็นที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับกิจการพาณิชย์นาวี โดยมีข้อสรุปรวมกันที่จะต้องรีบดำเนินการประมูลเพื่อหาผู้รับสัมปทานบริหารในส่วนของท่าเทียบ B1 B2 และB4 ที่ท่าเรือแหลมฉบัง  อ.ศรีราชา  จ.ชลบุรี ที่ใกล้จะหมดอายุสัญญาสัมปทานในปี 2563

ทั้งนี้ จะต้องหาผู้รับสัมปทานให้แล้วเสร็จภายใน 1 ปี ก่อนที่จะหมดอายุสัมปทานของเอกชนในปี 2563 โดยการเปิดหาบริษัทผู้รับสัมปทานใหม่นั้น จะต้องเป็นลักษณะการเปิดประมูลเพื่อหาเอกชน อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อการบริหารจัดการท่าเรือ โดยการท่าเรือแห่งประเทศไทย จะเป็นผู้ดำเนินการเรื่องของรายละเอียดเพื่อหาเอกชนรับสัมปทานดังกล่าว คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสัปดาห์หน้า
               
สำหรับเอกชนที่ได้รับสัมปทานบริหารท่าเทียบเรือในปัจจุบัน มีทั้งหมด 3 บริษัท ประกอบด้วย ท่าเทียบเรือ B1 ดำเนินการโดย บริษัท แอลซีบี คอนเทนเนอร์ เทอรฺมินัล 1 จำกัด / ท่าเทียบเรือ B2 ดำเนินการโดย บริษัท เอเวอร์กรีน คอนเทนเนอร์ เทอรฺมินัล (ประเทศไทย) จำกัด  /และ ท่าเทียบเรือ B4 ดำเนินงานโดย บริษัท ที ไอ พี เอส จำกัด ทั้งนี้ ในการประมูลสัมปทานใหม่จะลดเหลือ 2 สัญญาสัมปทาน เนื่องจากหน้าท่าเทียบเรือแคบจึงลดสัมปทานลงเพื่อความเหมาะสม

อย่างไรก็ตาม ส่วนความคืบหน้าโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือชายฝั่งนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จตามแผนในเดือน พฤศจิกายน 2560  ซึ่งภาคเอกชนก็ได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องของการรองรับปริมาณเรือขนส่งสินค้าที่ในอนาคตจะเพิ่มมากขึ้น เกรงว่าท่าเทียบเรือชายฝั่งอาจจะรองรับไม่พอต่อความต้องการ ทั้งนี้ การท่าเรือก็ได้ระบุเพิ่มเติมหากไม่เพียงพอในการรองรับก็จะมีท่าเทียบเรือ A0 ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือเอนกประสงค์ก็สามารถรองรับได้ โดยจะมีหน้าท่าเทียบเรือที่ยาว ประมาณ 400 เมตร คาดว่าจะไม่กระทบต่อการให้บริการอย่างแน่นอน



ที่มา Data & Images -

..