พระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ
พระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494
- - - - - - - - - - - - - - - - - -
- -- - - - - -
ในพระปรมาภิไธย
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ธานีนิวัต กรมหมื่นพิทยลาภพฤฒิยากร
ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ให้ไว้ ณ วันที่ ๔
พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๔
เป็นปีที่ ๖ ในรัชกาลปัจจุบัน
โดยที่เป็นการสมควรจัดตั้งการท่าเรือแห่งประเทศไทยขึ้นเป็นเอกเทศ
พระมหากษัตริย์โดยคำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา จึงมีพระบรมราชโองการ
ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้ ดังต่อไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย
พ.ศ. ๒๔๙๔"
มาตรา ๒*
พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจา นุเบกษาเป็นต้นไป
*[รก.๒๔๙๔/๓๐/๑พ./๑๕ พฤษภาคม ๒๔๙๔]
มาตรา ๓ ให้ยกเลิกบรรดากฎหมาย
กฎและข้อบังคับอื่นซึ่งขัดหรือแย้งกับบท แห่งพระราชบัญญัตินี้
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้
"การท่าเรือแห่งประเทศไทย"
หมายความว่า การท่าเรือซึ่งจัดตั้งขึ้นตามพระราช บัญญัตินี้ *
"กิจการท่าเรือ" หมายความว่า
ธุรกิจเกี่ยวกับท่าเรือ และให้หมายความรวมถึง
อู่เรือและกิจการอื่นที่เกี่ยวเนื่องหรือเป็นส่วนประกอบกับท่าเรือ *[นิยามคำว่า
"กิจการท่าเรือ" เพิ่มความโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๓]
"คณะกรรมการ" หมายความว่า
คณะกรรมการของการท่าเรือแห่งประเทศไทย
"ผู้อำนวยการ" หมายความว่า
ผู้อำนวยการของการท่าเรือแห่งประเทศไทย
"รัฐมนตรี" หมายความว่า
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม *
"อาณาบริเวณ" หมายความว่า
เขตซึ่งอยู่ในความควบคุม และการบำรุงรักษา
ของการท่าเรือแห่งประเทศไทยทั้งทางบกและทางน้ำ *[นิยามคำว่า "อาณาบริเวณ"
เพิ่มความโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๙]
มาตรา ๕* ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การคลังรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวงว่าด้วยการควบคุม ปรับปรุง และให้ความสะดวก
และความปลอดภัยแก่กิจการท่าเรือ และการเดินเรือภายในอาณา บริเวณ และการอื่น
เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้
*[มาตรา ๕ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๙]
หมวด ๑ การจัดตั้ง ทุน
และเงินสำรอง ________
มาตรา ๖ ให้จัดตั้งการท่าเรือขึ้นเรียกว่า
"การท่าเรือแห่งประเทศไทย" มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ (๑)
รับโอนกิจการท่าเรือจากสำนักงานท่าเรือกรุงเทพฯ ในกรมการขนส่ง กระทรวงคมนาคม *(๒)
ประกอบและส่งเสริมกิจการท่าเรือเพื่อประโยชน์แห่งรัฐและประชาชน *(๓)
ดำเนินกิจการอื่นที่เกี่ยวกับหรือต่อเนื่องกับการประกอบกิจการท่าเรือ *[มาตรา ๖ (๒)
และ (๓) แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๓]
"การท่าเรือแห่งประเทศไทย" เรียกโดยย่อว่า "กทท." และให้ใช้ชื่อเป็น ภาษาอังกฤษว่า
"PORT AUTHORITY OF THAILAND" เรียกโดยย่อว่า "PAT" *[มาตรา ๖ วรรคสอง
เพิ่มความโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๓]
มาตรา ๗
ให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยเป็นนิติบุคคล
มาตรา ๘
ให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยตั้งสำนักงานใหญ่ในจังหวัดพระนคร
และจะตั้งสาขาหรือตัวแทนขึ้น ณ ที่อื่นใดในราชอาณาจักรก็ได้
และจะตั้งสาขาหรือตัวแทนขึ้น ณ ต่างประเทศในเมื่อได้รับอนุมัติจากรัฐมนตรีก็ได้
มาตรา ๘ ทวิ*
อาณาบริเวณให้กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา และให้มีแผนที่
แสดงอาณาบริเวณท้ายพระราชกฤษฎีกานั้นด้วย
แผนที่นั้นให้ถือว่าเป็นส่วนแห่งพระราชกฤษฎีกา *[มาตรา ๘ ทวิ
เพิ่มความโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๙]
มาตรา ๙
ให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยมีอำนาจที่จะกระทำการต่าง ๆ ภายใน
ขอบแห่งวัตถุประสงค์ตามที่ระบุไว้ในมาตรา ๖ และอำนาจเช่นว่านี้ให้รวมถึง
(๑) สร้าง ซื้อ จัดหา จำหน่าย
เช่า ให้เช่า และดำเนินงานเกี่ยวกับเครื่องใช้ บริการและความสะดวกต่าง ๆ
ของกิจการท่าเรือ
(๒) ซื้อ จัดหา เช่า ให้เช่า
ถือกรรมสิทธิ์ ครอบครอง จำหน่าย หรือดำเนินงาน
เกี่ยวกับสังหาริมทรัพย์หรืออสังหาริมทรัพย์
(๓)
กำหนดอัตราค่าภาระการใช้ท่าเรือ บริการและความสะดวกต่าง ๆ ของ กิจการท่าเรือ
และออกระเบียบเกี่ยวกับวิธีชำระค่าภาระดังกล่าว
(๔)
จัดระเบียบว่าด้วยความปลอดภัย การใช้ท่าเรือ บริการและความสะดวก ต่าง ๆ
ของกิจการท่าเรือ
(๕) กู้ยืมเงิน
*(๖)
ขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำภายในอาณาบริเวณ
*(๗) ควบคุม ปรับปรุง
และให้ความสะดวกและความปลอดภัยแก่กิจการท่าเรือ และการเดินเรือภายในอาณาบริเวณ
*(๘) กำหนดอัตราค่าภาระต่าง ๆ
ภายในอาณาบริเวณ
*(๙)
ออกพันธบัตรหรือตราสารอื่นใดเพื่อการลงทุน
*(๑๐)
จัดตั้งบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดเพื่อประกอบกิจการท่าเรือและ
กิจการอื่นภายในขอบแห่งวัตถุประสงค์ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ทั้งนี้
บริษัทจำกัดหรือ บริษัทมหาชนจำกัดดังกล่าว
จะมีคนต่างด้าวตามกฎหมายว่าด้วยการประกอบธุรกิจของ
คนต่างด้าวถือหุ้นเกินกว่าร้อยละสี่สิบเก้าของทุนจดทะเบียนของบริษัทนั้นไม่ได้
*(๑๑)
เข้าร่วมกิจการกับบุคคลอื่น หรือถือหุ้นในบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชน จำกัด
เพื่อประโยชน์แก่กิจการของการท่าเรือแห่งประเทศไทย
*[มาตรา ๙ (๖) (๗) และ (๘)
เพิ่มความโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๙ มาตรา ๙ (๙)
เพิ่มความโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๑๖ และ มาตรา ๙ (๑๐) และ (๑๑)
เพิ่มความโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๓]
มาตรา ๑๐
ให้โอนสินทรัพย์และหนี้สินทั้งสิ้นของสำนักงานท่าเรือกรุงเทพฯ ในกรมการขนส่ง
ตลอดจนบรรดาที่ดินซึ่งได้เวนคืนไว้แล้วเพื่อการท่าเรือให้แก่การท่าเรือแห่ง
ประเทศไทย
มาตรา ๑๑
ที่ดินซึ่งการท่าเรือแห่งประเทศไทยได้มาด้วยอำนาจแห่งพระราช
บัญญัตินี้หรือบทกฎหมายอื่นจะโอนต่อไปมิได้ เว้นแต่อาศัยอำนาจแห่งบทกฎหมายเฉพาะ
มาตรา ๑๒
ให้จ่ายเงินในงบประมาณรายจ่ายวิสามัญลงทุนประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๔๙๔
ประเภทการบำรุงการขนส่งเป็นจำนวน ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท กับงบประมาณส่วนที่
เกี่ยวกับการขุดสันดอน การก่อสร้างและค่าซื้อสิ่งของให้แก่การท่าเรือแห่งประเทศไทย
งบประมาณรายจ่ายในส่วนที่เกี่ยวกับการขุดสันดอน การก่อสร้าง และค่าซื้อ สิ่งของนั้น
ให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยใช้จ่ายตามรายการที่ปรากฏในงบประมาณ
มาตรา ๑๓
ทุนประเดิมของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ให้ประกอบด้วย
(๑)
สินทรัพย์ที่รับโอนมาเมื่อได้หักหนี้สินตามมาตรา ๑๐ ออกแล้ว
(๒)
เงินที่การท่าเรือแห่งประเทศไทยได้รับตามมาตรา ๑๒
มาตรา ๑๔
ทรัพย์สินของการท่าเรือแห่งประเทศไทยย่อมไม่อยู่ในความรับผิด แห่งการบังคับคดี
มาตรา ๑๕
ให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยได้รับสิทธิและหน้าที่ต่าง ๆ บรรดา
ที่กฎหมายให้ไว้แก่สำนักงานท่าเรือกรุงเทพ ฯ ในกรมการขนส่ง
มาตรา ๑๖ ให้ประธานกรรมการ กรรมการ
ผู้อำนวยการ และพนักงานของ การท่าเรือแห่งประเทศไทย
เป็นเจ้าพนักงานตามความหมายแห่งกฎหมายลักษณะอาญา
มาตรา ๑๗*
ให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยได้รับการยกเว้นจากการเสียภาษี อากรตามประมวลรัษฎากร
และให้ได้รับการยกเว้นจากการเสียภาษีอากรหรือค่าธรรมเนียมใด ๆ
ตามกฎหมายอื่นบรรดาที่เรียกเก็บสำหรับอาคารและที่ดินของการท่าเรือแห่งประเทศไทยนอกจาก
อาคารและที่ดินที่ให้เช่า *[มาตรา ๑๗ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๔๙๙]
มาตรา ๑๗ ทวิ*
ให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยได้รับการยกเว้นจากการเสีย ค่าธรรมเนียม
ตามกฎหมายว่าด้วยการศุลกากร *[มาตรา ๑๗ ทวิ เพิ่มความโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ ๒)
พ.ศ. ๒๔๙๙]
มาตรา ๑๗ ตรี*
อสังหาริมทรัพย์ของการท่าเรือแห่งประเทศไทยไม่ว่าจะได้
ให้เช่าก่อนหรือหลังวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
เมื่อจะต้องการใช้ในกิจการของการท่าเรือแห่ง ประเทศไทย
ให้ได้รับการยกเว้นไม่อยู่ในบังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยการควบคุมค่าเช่าในภาวะ คับขัน
*[มาตรา ๑๗ ตรี เพิ่มความโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๙]
มาตรา ๑๘
เงินสำรองของการท่าเรือแห่งประเทศไทยให้ประกอบด้วยเงินสำรอง
เผื่อขาดและเงินสำรองอื่น ๆ เพื่อความประสงค์แต่ละอย่างโดยเฉพาะ เช่น
ค่าเสื่อมราคาและ ค่าทำให้ดีขึ้น เป็นต้น ตามแต่คณะกรรมการจะเห็นสมควร
มาตรา ๑๙
ให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยเปิดบัญชีเงินฝากไว้กับธนาคารตาม
ระเบียบของคณะกรรมการซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี
หมวด ๒ การกำกับ ควบคุมและจัดการ
มาตรา ๒๐*
ให้รัฐมนตรีมีอำนาจหน้าที่กำกับโดยทั่วไปซึ่งกิจการของการท่าเรือ แห่งประเทศไทย
เพื่อประโยชน์ในการนี้จะสั่งให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยชี้แจงข้อเท็จจริง แสดง
ความคิดเห็นหรือทำรายงานหรือยับยั้งการกระทำใด ๆ
ซึ่งขัดต่อนโยบายของรัฐบาลหรือมติของ คณะรัฐมนตรี
ตลอดจนมีอำนาจที่จะสั่งสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับการดำเนินงานได้ *[มาตรา ๒๐
แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๐๒]
มาตรา ๒๑
ในกรณีที่การท่าเรือแห่งประเทศไทยหรือคณะกรรมการจะต้องเสนอ
เรื่องไปยังคณะรัฐมนตรีตามความในพระราชบัญญัตินี้
ให้นำเรื่องเสนอรัฐมนตรีเพื่อเสนอต่อไปยัง คณะรัฐมนตรี
มาตรา ๒๒*
ให้มีคณะกรรมการของการท่าเรือแห่งประเทศไทยขึ้นคณะหนึ่ง
ประกอบด้วยประธานกรรมการหนึ่งคน กรรมการอื่นไม่น้อยกว่าหกคน แต่ไม่เกินสิบคน
ซึ่งอย่างน้อยจะต้องเป็นผู้มีความรู้และจัดเจนเกี่ยวกับการท่าเรือหนึ่งคน
และเกี่ยวกับ การเศรษฐกิจหรือการคลังหนึ่งคน
ให้คณะรัฐมนตรีเป็นผู้แต่งตั้งประธานกรรมการ และกรรมการ
คณะรัฐมนตรีจะแต่งตั้งผู้อำนวยการเป็นกรรมการด้วยก็ได้
ให้คณะกรรมการนี้มีอำนาจหน้าที่วางนโยบาย และควบคุมดูแลโดยทั่วไป
ซึ่งกิจการของการท่าเรือแห่งประเทศไทย *[มาตรา ๒๒ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติฯ
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๙]
มาตรา ๒๓ ผู้ที่จะดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ
กรรมการและผู้อำนวยการ จะต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย
และมีความรู้และจัดเจนเกี่ยวกับการท่าเรือ การขนส่ง การเดินเรือ พาณิชยกรรม
การเศรษฐกิจ หรือการเงิน
มาตรา ๒๔
ให้คณะกรรมการเป็นผู้แทนการท่าเรือแห่งประเทศไทยในส่วนที่ เกี่ยวกับบุคคลภายนอก
แต่คณะกรรมการจะมอบหมายให้ผู้อำนวยการหรือพนักงานอื่นใดเป็น ผู้แทนแทนก็ได้
มาตรา ๒๕
ผู้มีลักษณะดังต่อไปนี้ต้องห้ามมิให้เป็นประธานกรรมการและ กรรมการ คือ
(๑)
มีส่วนได้เสียในสัญญากับการท่าเรือแห่งประเทศไทย หรือในกิจการที่กระทำ
ให้แก่การท่าเรือแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยทางอ้อม
เว้นแต่จะเป็นเพียงผู้ถือหุ้น ของบริษัทที่กระทำการอันมีส่วนได้เสียเช่นว่านั้น
(๒)
เป็นพนักงานของการท่าเรือแห่งประเทศไทย
(๓) เป็นข้าราชการการเมือง
มาตรา ๒๖
ให้ประธานกรรมการและกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งดำรงตำแหน่งสี่ปี
แต่สำหรับกรรมการนั้นในวาระเริ่มแรกเมื่อครบกำหนดสองปี
ให้ออกจากตำแหน่งกึ่งหนึ่งโดยวิธี จับสลาก
ถ้าจำนวนกรรมการจะแบ่งออกให้ตรงเป็นกึ่งหนึ่งไม่ได้ก็ให้ออกโดยจำนวนใกล้ที่สุดกับ
กึ่งหนึ่ง กรรมการที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระ จะแต่งตั้งให้เป็นกรรมการอีกก็ได้
มาตรา ๒๗
ประธานกรรมการและกรรมการย่อมพ้นจากตำแหน่งก่อนถึงวาระ พ้นจากตำแหน่งตามความในมาตรา
๒๖ เมื่อ
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) คณะรัฐมนตรีให้ออก
(๔)
มีลักษณะต้องตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๕ ในกรณีที่มีการพ้นจากตำแหน่งก่อนถึงวาระ
ให้มีการแต่งตั้งกรรมการเข้าแทน
กรรมการที่ได้รับแต่งตั้งเข้าแทนนี้
ย่อมอยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่ากำหนดเวลาของผู้ซึ่งตนแทน
มาตรา ๒๘
ประธานกรรมการและกรรมการย่อมได้รับประโยชน์ตอบแทนตามที่ คณะรัฐมนตรีกำหนด
มาตรา ๒๙ ภายใต้บังคับแห่งมาตรา ๒๒ วรรคท้าย
คณะกรรมการมีอำนาจ หน้าที่ดังต่อไปนี้
(๑)
กระทำกิจการและวางข้อบังคับและระเบียบการตามที่ระบุไว้ในมาตรา ๙
(๒) แต่งตั้ง ถอดถอน กำหนด
เลื่อนขั้นหรือลดขั้นอัตราเงินเดือนที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญ และหัวหน้าฝ่ายต่าง ๆ
ซึ่งกระทำหน้าที่ช่วยผู้อำนวยการ และกำหนดอัตราเงินเดือน
ของพนักงานอื่นของการท่าเรือแห่งประเทศไทย
(๓)
วางข้อบังคับการประชุมและการดำเนินกิจการของคณะกรรมการ
(๔)
วางข้อบังคับกำหนดระเบียบปฏิบัติงานและระเบียบวินัยและการลงโทษ
พนักงานการท่าเรือแห่งประเทศไทย และกรณีอื่นทำนองเดียวกัน
*(๕) กำหนดอัตราค่าภาระต่าง ๆ
ภายในอาณาบริเวณ อัตราค่าภาระการใช้ ท่าเรือ บริการและความสะดวกต่าง ๆ
ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย แต่ต้องอยู่ภายในอัตรา
ขั้นสูงและขั้นต่ำที่คณะรัฐมนตรีกำหนด อำนาจหน้าที่ตามที่บัญญัติไว้ใน (๑) นั้น
ถ้าคณะกรรมการเห็นสมควรจะ มอบหมายให้ผู้อำนวยการดำเนินการก็ได้ การเปลี่ยนแปลงอัตราค่าภาระดังที่ระบุไว้ใน
(๕) จะต้องประกาศให้ประชาชน ทราบล่วงหน้าเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบห้าวัน *[มาตรา ๒๙
(๕) แก้ไขโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๙]
มาตรา ๓๐
ให้คณะกรรมการแต่งตั้งผู้อำนวยการด้วยความเห็นชอบของ คณะรัฐมนตรี
ในการนี้จะแต่งตั้งกรรมการเป็นผู้อำนวยการก็ได้
ให้ผู้อำนวยการได้รับเงินเดือนตามที่คณะกรรมการกำหนดด้วยความเห็นชอบ ของคณะรัฐมนตรี
และให้อยู่ในตำแหน่งได้โดยไม่มีกำหนดเวลา แต่ในกรณีที่บกพร่องต่อหน้าที่
หรือหย่อนสมรรถภาพ คณะกรรมการจะให้ออกจากตำแหน่งด้วยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
ก็ได้
มาตรา ๓๑
ผู้อำนวยการเป็นผู้บริหารการท่าเรือแห่งประเทศไทยให้เป็นไปตาม
นโยบายที่คณะกรรมการกำหนด และให้มีอำนาจบังคับบัญชาพนักงานของการท่าเรือแห่ง
ประเทศไทยทุกตำแหน่ง
ผู้อำนวยการต้องรับผิดชอบต่อคณะกรรมการในการจัดการและดำเนินงานของ
การท่าเรือแห่งประเทศไทย
มาตรา ๓๑ ทวิ* ผู้อำนวยการ
หรือพนักงานของการท่าเรือแห่งประเทศไทยซึ่งมี อายุครบหกสิบปีบริบูรณ์แล้ว
เป็นอันพ้นจากตำแหน่งเมื่อสิ้นปีที่อายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ เว้นแต่
จะได้มีการต่ออายุการทำงานอีกคราวละหนึ่งปีจนอายุครบหกสิบห้าปีบริบูรณ์
วิธีการต่ออายุการทำงานให้เป็นไปตามข้อบังคับของคณะกรรมการ การต่ออายุ
การทำงานของผู้อำนวยการจะต้องได้รับความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีด้วย *[มาตรา ๓๑ ทวิ
เพิ่มความโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๐๒]
มาตรา ๓๒ ผู้อำนวยการมีอำนาจ
(๑) แต่งตั้ง ถอดถอน
เลื่อนขั้นหรือลดขั้นอัตราเงินเดือนพนักงานของการท่าเรือ
แห่งประเทศไทยนอกจากที่อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการตามความในมาตรา ๒๙
(๒) ทั้งนี้
ต้องเป็นไปตามข้อบังคับที่คณะกรรมการกำหนด (๒)
ออกระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของการท่าเรือแห่ง ประเทศไทย
มาตรา ๓๓ ประธานกรรมการ กรรมการ
ผู้อำนวยการและพนักงานของ
การท่าเรือแห่งประเทศไทยอาจได้รับเงินรางวัลตามระเบียบที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
หมวด ๓ ความสัมพันธ์กับรัฐบาล
มาตรา ๓๔
ในการดำเนินกิจการของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ให้คำนึงถึง ประโยชน์ของรัฐและประชาชน
มาตรา ๓๕
การท่าเรือแห่งประเทศไทยจะต้องได้รับความเห็นชอบจาก
คณะรัฐมนตรีก่อนจึงจะดำเนินกิจการดังต่อไปนี้ได้ คือ
(๑) สร้างท่าเรือขึ้นใหม่
(๒)
เลิกกิจการในท่าเรือซึ่งเปิดดำเนินการแล้ว
(๓) เพิ่มหรือลดทุน
(๔) กู้ยืมเงิน
(๕) จำหน่ายอสังหาริมทรัพย์
*(๖)
จัดตั้งบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัดเพื่อประกอบกิจการท่าเรือ
และกิจการอื่นภายในขอบแห่งวัตถุประสงค์ของการท่าเรือแห่งประเทศไทย
*(๗)
เข้าร่วมกิจการกับบุคคลอื่น หรือถือหุ้นในบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชน จำกัด
เพื่อประโยชน์แก่กิจการของการท่าเรือแห่งประเทศไทย
*[มาตรา ๓๕ (๖) และ (๗)
เพิ่มความโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๓]
มาตรา ๓๖
การท่าเรือแห่งประเทศไทยจะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรี ก่อน จึงจะวางข้อบังคับ
กำหนดระเบียบปฏิบัติงานและระเบียบวินัยและการลงโทษพนักงาน การท่าเรือแห่งประเทศไทย
และกรณีอื่นทำนองเดียวกันได้
มาตรา ๓๗
การท่าเรือแห่งประเทศไทยจะต้องไม่วางระเบียบว่าด้วยการใช้
ประโยชน์แห่งบริการและความสะดวกต่าง ๆ ตลอดจนการกำหนดค่าภาระในการใช้ประโยชน์และ
ความสะดวกเช่นว่านั้น
ซึ่งจะเป็นการขัดกับนโยบายทั่วไปของรัฐบาลในการเศรษฐกิจและการคลัง
ตามที่รัฐมนตรีแจ้งให้คณะกรรมการทราบ
มาตรา ๓๘
ให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยจัดทำงบประมาณประจำปีแยกเป็น งบลงทุนและงบทำการ
สำหรับงบลงทุนนั้นให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาและให้
ความเห็นชอบส่วนงบทำการนั้นให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ
มาตรา ๓๙
รายได้ที่การท่าเรือแห่งประเทศไทยได้รับจากการดำเนินงานให้ตก
เป็นของการท่าเรือแห่งประเทศไทยสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ รายได้ที่ได้รับนั้น
ในปีหนึ่ง ๆ เมื่อได้หักค่าใช้จ่ายสำหรับดำเนินงาน ค่าภาระ ต่าง ๆ ที่เหมาะสม เช่น
ค่าบำรุงรักษา ค่าเสื่อมราคา เงินรางวัล และเงินสมทบกองทุนสำหรับ
จ่ายสงเคราะห์พนักงาน เงินสำรองธรรมดา เงินสำรองขยายงานและเงินลงทุนตามที่ได้รับ
ความเห็นชอบตามความในมาตรา ๓๘ แล้วเหลือเท่าใดให้นำส่งเป็นรายได้ของรัฐ
แต่ถ้ารายได้มีจำนวนไม่เพียงพอสำหรับรายจ่ายดังกล่าวนอกจากเงินสำรอง
ธรรมดาและเงินสำรองขยายงานแล้ว
และการท่าเรือแห่งประเทศไทยไม่สามารถหาเงินจากทางอื่น
ให้รัฐจ่ายเงินให้แก่การท่าเรือแห่งประเทศไทยเท่าจำนวนที่ขาด
มาตรา ๔๐
ให้คณะกรรมการทำรายงานปีละครั้งเสนอรัฐมนตรี รายงานนี้ให้
กล่าวถึงผลงานในปีที่ล่วงแล้วของการท่าเรือแห่งประเทศไทย
และให้มีคำชี้แจงเกี่ยวกับนโยบาย ของคณะกรรมการ
โครงการและแผนงานที่จะจัดทำในภายหน้า
หมวด ๔ การร้องทุกข์และการสงเคราะห์
มาตรา ๔๑
ให้พนักงานของการท่าเรือแห่งประเทศไทยมีสิทธิร้องทุกข์เกี่ยวแก่
การลงโทษได้ตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด
มาตรา ๔๒
ให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยจัดให้มีกองทุนสำหรับจ่ายสงเคราะห์
พนักงานในเวลาพ้นจากตำแหน่ง ประสบอุบัติเหตุ เจ็บป่วย หรืออื่น ๆ
อัตราเงินสมทบกองทุนซึ่งการท่าเรือแห่งประเทศไทยและพนักงานจะพึงจ่าย
ประเภทของพนักงานที่จะพึงได้รับสงเคราะห์จากกองทุนตลอดจนการจัดการเกี่ยวกับกองทุนนั้น
ให้เป็นไปตามข้อบังคับซึ่งคณะกรรมการกำหนด ข้อบังคับดังกล่าวในวรรคก่อน
ให้นำเสนอคณะรัฐมนตรี เมื่อคณะรัฐมนตรี ให้ความเห็นชอบแล้ว ให้ใช้บังคับได้
หมวด ๕ การบัญชี การสอบ และการตรวจ
มาตรา ๔๓
ให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยวางและถือไว้ซึ่งระบบการบัญชี
อันถูกต้องแยกตามประเภทงานส่วนที่สำคัญ มีการสอบบัญชีภายในเป็นประจำ และมีสมุดบัญชี
ลงรายการ
(๑) การรับและจ่ายเงิน
(๒) สินทรัพย์และหนี้สิน
ซึ่งแสดงการงานที่เป็นอยู่ตามจริง และตามที่ควรตามประเภทงาน
พร้อมด้วยข้อความอันเป็นเหตุ ที่มาของรายการนั้น ๆ
มาตรา ๔๔
ให้คณะกรรมการตั้งผู้สอบบัญชีคนหนึ่งหรือหลายคน เพื่อสอบและ
รับรองบัญชีของการท่าเรือแห่งประเทศไทยทุกปี ห้ามมิให้ตั้งประธานกรรมการ กรรมการ
ผู้อำนวยการ ผู้อื่นซึ่งเป็นตัวแทนของ การท่าเรือแห่งประเทศไทย
พนักงานของการท่าเรือแห่งประเทศไทย หรือบุคคลผู้มีส่วนได้เสีย
ในการงานที่การท่าเรือแห่งประเทศไทยจัดทำเป็นผู้สอบบัญชี
มาตรา ๔๕ ให้ผู้สอบบัญชีเข้าตรวจสอบสรรพสมุด
บัญชีและเอกสารหลักฐาน ของการท่าเรือแห่งประเทศไทยในเวลาอันสมควรได้ทุกเมื่อ
และเพื่อการสอบบัญชี ให้มีอำนาจ ไต่ถามสอบสวนประธานกรรมการ กรรมการ ผู้อำนวยการ
ผู้อื่นซึ่งเป็นตัวแทนของการท่าเรือ แห่งประเทศไทย
หรือพนักงานของการท่าเรือแห่งประเทศไทยได้
มาตรา ๔๖ ผู้สอบบัญชีต้องทำรายงานว่าด้วย
(๑)
ข้อความคำชี้แจงอันควรแก่การสอบบัญชีที่ได้รับ
(๒)
ความสมบูรณ์ของสมุดบัญชีที่การท่าเรือแห่งประเทศไทยรักษาอยู่ และต้อง แถลงด้วยว่า
๑. งบดุลและบัญชีซึ่งตรวจสอบนั้นถูกต้องตรงกับสมุดบัญชีเพียงไรหรือไม่ ๒.
งบดุลและบัญชีซึ่งตรวจสอบนั้นแสดงการงานของการท่าเรือแห่ง
ประเทศไทยที่เป็นอยู่ตามจริงและตามที่ควร
ตามข้อความคำชี้แจงและความรู้ของผู้สอบบัญชี เพียงไรหรือไม่
มาตรา ๔๗
ให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้ตรวจบัญชีของการท่าเรือ
แห่งประเทศไทยในเมื่อรัฐมนตรีร้องขอ
มาตรา ๔๘
ภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวันหลังจากวันสิ้นปีบัญชี การท่าเรือแห่ง
ประเทศไทยจะต้องโฆษณารายงานประจำปี แสดงบัญชีงบดุล บัญชีทำการ และบัญชีกำไรขาดทุน
เพียงสิ้นปีพร้อมกับรายงานของผู้สอบบัญชีที่คณะกรรมการตั้งขึ้นตามความในมาตรา ๔๔ *
หมวด ๖ บทกำหนดโทษ
มาตรา ๔๙*
ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวงว่าด้วยการควบคุม ปรับปรุง
และให้ความสะดวกและความปลอดภัยแก่กิจการท่าเรือและการเดินเรือภายใน อาณาบริเวณ
มีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองพันบาท
มาตรา ๕๐* ความผิดตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๔๙
ให้พนักงานสอบสวน มีอำนาจเปรียบเทียบได้ *[หมวด ๖ มาตรา ๔๙ และมาตรา ๕๐
เพิ่มความโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๙๙]
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
จอมพล ป.พิบูลสงคราม
นายกรัฐมนตรี
พระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๔๙๙
หมายเหตุ:-
เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากพระราชบัญญัติ
การท่าเรือแห่งประเทศไทยที่ใช้อยู่ในปัจจุบันนี้
ยังไม่เหมาะสมในการที่จะบริหารกิจการของ การท่าเรือให้เจริญก้าวหน้า
เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการท่าเรือในหลัก สำคัญ ๆ อาทิ
กำหนดเขตอาณาบริเวณเพื่อความสะดวกและความปลอดภัยแก่การเดินเรือและ การสินค้า
อำนาจหน้าที่ในการขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำให้เรือขนาดใหญ่เดินได้โดยสะดวก
และเรียกเก็บค่าภาระต่าง ๆ ภายในอาณาบริเวณเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายได้
ให้การท่าเรือได้รับ
ยกเว้นจากการเสียภาษีอากรเพราะทรัพย์สินของการท่าเรือเป็นทรัพย์สินของรัฐอยู่แล้ว
ให้การ
ท่าเรือได้ใช้ที่ดินเพื่อขยายกิจการตามโครงการโดยไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายว่าด้วยการควบคุม
ค่าเช่าในภาวะคับขัน ให้คณะรัฐมนตรีมีอำนาจตั้งกรรมการเพิ่มขึ้น
และนอกจากนี้ให้มีบทลงโทษ ผู้ที่ฝ่าฝืนและไม่ปฏิบัติตามกฎกระทรวง
เพื่อให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยได้ดำเนินกิจการ
ให้สำเร็จลุล่วงไปตามนโยบายของรัฐบาลและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกิจการท่าเรือสากล
[รก.๒๔๙๙/๗๒/๙๘๗/๑๑ กันยายน ๒๔๙๙]
พระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย
(ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๐๐
มาตรา ๕ ผู้อำนวยการ
หรือพนักงานของการท่าเรือแห่งประเทศไทยผู้ใดมีอายุ
ครบหกสิบปีบริบูรณ์แล้วในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
หรือจะมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์
ภายในระยะเวลาเก้าสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
ให้ผู้นั้นคงอยู่ในตำแหน่งต่อไป
ได้เก้าสิบวันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
และถ้าไม่ได้รับการต่ออายุการทำงานตามความ ในมาตรา ๓๑ ทวิ
ก็ให้พ้นจากตำแหน่งในวันถัดจากวันครบกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันที่พระราช
บัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา ๖
ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
การคลังรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
หมายเหตุ:-
เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่พระราชบัญญัติการท่าเรือ
แห่งประเทศไทยฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบันมีบทบัญญัติบางประการที่ไม่เหมาะสมแก่การบริหาร
กิจการของการท่าเรือแห่งประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้าไปได้เท่าที่ควร
จึงจำต้องแก้ไขเพิ่มเติม กฎหมายว่าด้วยการท่าเรือแห่งประเทศไทย
[รก.๒๕๐๒/๖๒/๑พ./๑๒ มิถุนายน
๒๕๐๒]
พระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย
(ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๑๖
หมายเหตุ:-
เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากกฎหมายว่าด้วย
การท่าเรือแห่งประเทศไทย
ไม่มีบทบัญญัติให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยมีอำนาจออกพันธบัตร
หรือตราสารอื่นใดเพื่อการลงทุนเป็นเหตุให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยไม่อาจออกพันธบัตรหรือ
ตราสารอื่นใดเพื่อการลงทุนได้ จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
[รก.๒๕๑๖/๑๕๔/๑พ./๒๙
พฤศจิกายน ๒๕๑๖]
พระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย
(ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๓
หมายเหตุ:-
เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากพระราชบัญญัติ
การท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๔๙๔
ที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันมีบทบัญญัติบางประการที่ทำให้
การบริหารงานของการท่าเรือแห่งประเทศไทยไม่คล่องตัวเท่าที่ควร สมควรแก้ไขเพิ่มเติม
วัตถุประสงค์ให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้นและแก้ไขเพิ่มเติมให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยมีอำนาจ
จัดตั้งบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด
หรือเข้าร่วมกิจการกับบุคคลอื่นหรือถือหุ้นใน บริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด
เพื่อประโยชน์แก่กิจการของการท่าเรือแห่งประเทศไทยได้ ทั้งนี้
โดยจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
[รก.๒๕๔๓/๑๑๑ก/๑/๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๔๓]
มารีนเนอร์ไทย | MarinerThai.Net |
MarinerThai.Com