Menuleft - MarinerThai.Net

หน้าแรก

เว็บบอร์ดชาวเรือ

สารบัญเว็บไซด์ชาวเรือ

เอกสารน่าอ่านไทย

เอกสารน่าอ่านอังกฤษ

สาระไอทีชาวเรือ

แหล่งคนหางานเรือไทย

บทความจากสมาชิก

นิทานชาวเรือ

คนเรือหัวหมอ

คู่มือปฏิบัติงานเรือ

ระบบสื่อสาร-เดินเรือ

พจนานุกรมศัพท์ทางเรือ

ความหมายคำย่อทางเรือ

ข่าวอัพเดทรายวัน

ข่าวสดราคาน้ำมันโลก

รวมข่าวโจรสลัด

รวมข่าวอุบัติเหตุทางเรือ

สนับสนุนเว็บเรา

สถิติผู้เข้าชมเว็บนี้

ติดต่อเรา

เปิดเว็บ 1 ตุลาคม 2545

 

ขณะนี้เวลา | Your Time
10:46:33

Nathalin Group

MarinerThai 2004

TOP Enginerring Group

 

 
 
 

 

 

Nathalin Group

Nathalin Group FB MarinerThai News

การกักเรือ ศาสตราจารย์ ดร. ไผทชิต เอกจริยกร

 

การกักเรือ
ศาสตราจารย์ ดร.ไผทชิต เอกจริยกร


1. เงื่อนไขการกักเรือ

การที่ศาลจะสั่งกักเรือตามพระราชบัญญัติการกักเรือ พ.ศ. 2534 นั้น จะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่ปรากฏอยู่ในมาตรา 3, 4, 5, 6, 7 และ 8 ซึ่งพอสรุปได้ดังนี้คือ

 

1.1 หากผู้ร้องขอกักเรือร้องเอง บุคคลดังกล่าวจะต้องเป็นเจ้าหนี้ กล่าวคือ มีสิทธิอย่างใด อย่างหนึ่ง และต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าตนเองมีสิทธิเรียกร้องดังกล่าวด้วย

 

1.2 สิทธิเรียกร้องที่เจ้าหนี้มี จะต้องเป็นสิทธิเรียกร้องประเภทใดประเภทหนึ่งดังที่กำหนด ไว้ในมาตรา 3 ก-1 หากไม่ใช่สิทธิเรียกร้องประเภทใดประเภทหนึ่งดังกล่าว เจ้าหนี้ก็จะมากักเรือตามพระราชบัญญัติฉบับนี้ไม่ได้ (หากเจ้าหนี้มีความประสงค์ก็ต้องดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเรื่องวิธีคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา)

 

สิทธิเรียกร้องดังกล่าว ได้แก่ สิทธิเรียกร้องอันเกิดจาก
1) ความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของบุคคลใดๆ ที่มีเหตุมาจากเรือหรือการดำเนินงานของเรือ เช่น เรือชนกันมีคนบาดเจ็บ หรือ ได้รับความเสียหาย

2) การช่วยเหลือกู้ภัย

3) สัญญาเกี่ยวกับการใช้ เช่า เช่าซื้อ หรือยืมเรือ การให้บริการ บรรทุกหรือสัญญาอื่นทำนองเดียวกัน

4) สัญญาเกี่ยวกับการรับขนของทางทะเลที่มีการออกใบตราส่ง

5) การเฉลี่ยความเสียหายทั่วไป ในกรณีที่เจ้าของเรือผู้ขนส่งและเจ้าของของที่บรรทุกมาในเรือนั้น มีหน้าที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่เจ้าของทรัพย์สินที่สูญหายหรือเสียหายจากการกระทำโดยเจตนาด้วยความจำเป็นตามสมควรเพื่อความปลอดภัยร่วมกันของเรือและของที่บรรทุกมาในเรือนั้นหรือต้องชดใช้ค่าใช้จ่ายที่ได้เสียไปด้วยความจำเป็นเป็นกรณีพิเศษเพื่อประโยชน์ร่วมกันของทุกฝ่ายหรือเพื่อความปลอดภัยร่วมกันของเรือ และของที่บรรทุกมาในเรือนั้น ทั้งนี้ เมื่อมีบทบัญญัติแห่งกฎหมาย หรือสัญญาระหว่างคู่กรณีกำหนดความรับผิดในเรื่องนี้ไว้

6) การสูญหายหรือเสียหายอันเกิดแก่ทรัพย์สินที่บรรทุกมาในเรือ

7) การให้บริการลากจูงเรือไม่ว่าโดยวิธีใด

8) การให้บริการนำร่อง

9) การจัดหาของหรือวัสดุใดๆ เพื่อใช้ในการดำเนินงานลงเรือหรือการซ่อม บำรุงเรือ

10) การต่อ ซ่อมหรือจัดเครื่องบริภัณฑ์ให้แก่เรือหรือค่าธรรมเนียมการใช้อู่เรือ

11) การให้บริการทางท่าเรือ หรือค่าภาระ หรือค่าบริการในการใช้ท่าเรือ

12) ค่าจ้างขนของลงเรือหรือขึ้นจากเรือ

13) ค่าจ้างนายเรือหรือคนประจำเรือ

14) ค่าใช้จ่ายของเรือที่นายเรือ ผู้เช่าเรือ ตัวแทนหรือผู้ส่งของได้ทดรองจ่ายไปแทนเจ้าของเรือ หรือผู้ครอบครองเรือ

15) ข้อพิพาทเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในตัวเรือ

16) ข้อพิพาทระหว่างเจ้าของรวมเกี่ยวกับการครอบครองการใช้เรือ หรือรายได้จากเรือ

17) การจำนองเรือ

 

1.3 พนักงานอัยการสามารถยื่นคำร้องขอให้กักเรือ แทนเจ้าหนี้ได้ (ทางปฏิบัติไม่ค่อยจะปรากฏ) แต่เฉพาะสิทธิเรียกร้องเกี่ยวกับเรือเกิดจากความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สินทางบุคคลใดๆ ที่มีสาเหตุมาจากเรือหรือ การดำเนินงานของเรือ เมื่อพนักงานอัยการเห็นสมควรจะรับดำเนินคดีตามสิทธิเรียกร้องเกี่ยวกับเรือดังกล่าวแทนเจ้าหนี้ก็ได้ ซึ่งหากพนักงานอัยการเป็นผู้ยื่นก็จะได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมกักเรือ ดังนั้นโดยหลักแล้วพนักงานอัยการจะยื่นคำร้องขอกักเรือเพื่อสิทธิเรียกร้องอื่นไม่ได้ (เว้นแต่เป็นกรณีที่เป็นสิทธิเรียกร้องของส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ)


1.4 เจ้าหนี้ผู้ยื่นคำร้องขอให้กักเรือต้องมีภูมิลำเนาในราชอาณาจักร

 

1.5 เรือที่ถูกกักจะเป็นเรือลำใดลำหนึ่งของลูกหนี้ก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นเรือที่ก่อให้เกิดสิทธิเรียกร้อง แต่ถ้าเป็นสิทธิเรียกร้องเกี่ยวกับข้อพิพาทเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในตัวเรือข้อพิพาทระหว่างเจ้าของรวมเกี่ยวกับครอบครองเรือ การใช้เรือ หรือรายได้จากเรือ หรือข้อพิพาทเกี่ยวกับการจำนองเรือ เจ้าหนี้จะขอให้ศาลศาลสั่งเรือลำอื่นที่เป็นของลูกหนี้หรือลูกหนี้เป็นผู้ครองครอง นอกจากเรือลำที่เกี่ยวกับข้อพิพาทนั้นมิได้

 

1.6 การกักเรือที่ไม่ได้เป็นของลูกหนี้ แต่ลูกหนี้เป็นผู้ครอบครอง มีเงื่อนไข 3 ประการ

1. เหตุแห่งสิทธิเรียกร้องเกี่ยวกับเรือเกิดจากเรือหรือธุรกิจของเรือนั้น

2. ลูกหนี้เป็นผู้ครอบครองเรือในเวลาที่เกิดสิทธิเรียกร้องเกี่ยวกับเรือ

3. ลูกหนี้เป็นผู้ครอบครองเรือในเวลาที่ขอให้ศาลสั่งกักเรือ

 

1.7 เรือที่ถูกกักได้ต้องเป็นเรือเดินทะเลที่ใช้ในการขนส่งสิ่นค้าหรือคนโดยสารระหว่างประเทศเท่านั้น

 

2. วิธีการในการดำเนินการกักเรือ

 

1.เตรียมร่างคำขอกักเรือ โดยคำขอต้องแสดงโดยแจ้งชัดซึ่ง

ก. สภาพแห่งสิทธิเรียกร้องเกี่ยวกับเรือ

ข. หนี้ที่จะใช้สิทธิเรียกร้องเกี่ยวกับเรือ

ค. รายละเอียดเกี่ยวกับชื่อเจ้าหนี้ ชื่อลูกหนี้ ชื่อเรือ หมายเลขทะเบียนเรือ ขนาดเรือ สัญชาติและเมืองท่าขึ้นทะเบียนเรือ ชื่อนายเรือ หรือผู้ควบคุมเรือ (หากทราบ) และทำเลหรือถิ่นที่ทอดจอดเรือ

 

2.ยื่นคำร้องต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง

 

3.เตรียมพยานหลักฐานมาสืบในเบื้องต้นเพื่อทำให้ศาลเห็นว่าสิทธิเรียกร้องที่เจ้าหนี้ยื่นคำร้องขอให้กักเรือมีมูล และหากเรือที่จะถูกกักยังมิได้เข้ามาในราชอาณาจักร เจ้าหนี้จะต้องนำสืบให้เห็นว่าเรือจะเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักร

 

4.เจ้าหนี้ต้องวางหลักประกันเพื่อความเสียหายอันเกิดจากการกักเรือ ในกรณีที่ศาลสั่ง

 

5.ติดต่อเจ้าพนักงานบังคับคดี ชำระค่าธรรมเนียมการกักเรือในอัตราร้อยละหนึ่งของหนี้ที่เจ้าหนี้จะให้สิทธิเรียกร้อง

 

6.นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไปปิดหมายกักเรือและช่วยเหลือเจ้าพนักงานบังคับคดีในการปฏิบัติตามหมายกักเรือ

 

7.นำคดีเกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องที่ขอให้กักเรือฟ้องศาลทรัพย์สินทางปัญยาและการค้าระหว่างประเทศกลางภายใน 30 วัน นับแต่ปิดหมายกักเรือ

 

จากประสบการณ์ผ่านมา ผมเคยเกี่ยวข้องกับการทำคดีกักเรือที่สำคัญ 2 คดี คือ

คดีแดงที่ กค.65/2541 บริษัทไทยยูเนี่ยน โฟรเช่น โปรดัคส์ จำกัด กับพวก ร้องขอกักเรือ "ไบร์ท โอเชี่ยน" และ

คดีแดง กค.345/2542 บริษัทซีเวย์ เอ็กซ์เพลส จำกัด ร้องขอกักเรือ " โอลิมเปีย"

 

แต่ถ้าจะสรุปปัญหาเกี่ยวกับการกักเรือตาม พ.ร.บ. การกักเรือ พ.ศ. 2534 นั้นก็จะกล่าวได้ว่ามีดังนี้ คือ

1. นอกจากการกักเรือตาม พ.ร.บ. การกักเรือ พ.ศ. 2534 แล้ว การกักเรือจะกระทำตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เรื่องวิธีการคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาได้หรือไม่

2. ศาลจะกำหนดถึงจำนวนหลักประกันที่เจ้าหนี้จะต้องมาวางศาลเท่าใด

3. ศาลจะกำหนดถึงจำนวนหลักประกันที่ลูกหนี้จะต้องมาวางศาลเท่าใด

4. การขอกักเรือซ้ำจะทำได้หรือไม่

5. การขอกักเรือจะทำที่ศาลอื่นนอกจากศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางได้หรือไม่

6. คดีที่ไม่ใช่คดีเกี่ยวกับการยื่นคำขอให้กักเรือและการฟ้องคดีตามสิทธิเรียกร้องที่เจ้าหนี้ยื่นคำร้องขอกักให้กักเรือ แต่เป็นคดีที่ฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายอันเนื่องมาจากการกักเรือโดยไม่ชอบจะฟ้องที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางได้หรือไม่

7. เมื่อเรือได้ถูกกักแล้ว การเคลื่อนย้ายเรือที่มิใช่เพื่อความสะดวกในการขนถ่ายสินค้า หรือความปลอดภัยของเรือและการเดินเรือ แต่เพื่อความสะดวกของเจ้าของท่าเรือที่เรือจอดอยู่จะทำได้หรือไม่ และจะนำเรือไปจอดที่ใด ที่ไม่กีดขวางทางเดินเรือ และไม่ทำให้เรือหนี ไป

 

3. ผลของการกักเรือ

1.คำสั่งกักเรือเป็นที่สุด

2.เรือที่ถูกกักห้ามเคลื่อนย้าย และถือว่าเป็นทรัพย์สินที่เจ้าพนักงานยึกไว้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง

3.การก่อให้เกิดการโอนกรรมสิทธิ หรือการเปลี่ยนแปลงใดๆ เกี่ยวกับกรรมสิทธิในตัวเรือ หรือ สิทธิครอบครองจะใช้ยันแก่เจ้าหนี้ หรือเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ได้

4.ความเสียหายจากการกักเรือ อยู่ในความรับผิดชอบของเจ้าหนี้ เว้นแต่เจ้าพนักงานบังคับคดีหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ได้กระทำการฝ่าฝืนต่อพระราชบัญญัติกักเรือ พ.ศ. 2534 หรือ กฎหมายอื่น

5.ลูกหนี้ หรือบุคคลที่ได้รับความเสียหายสามารถยื่นคำร้องขอปล่อยเรือได้โดยนำหลักประกันมาวางศาล

 

4. เปรียบเทียบกับกฎหมายต่างประเทศ

การกักเรือของไทย เหมือนกับของประเทศส่วนใหญ่ คือ ใช้คำสั่งศาลไม่ให้เรือออกเดินทางไป สิทธิเรียกร้องที่เจ้าหนี้จะยื่นคำร้องขอไห้กักเรือ ก็เป็นไปในทำนองเดียวกันกับที่มีอยู่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะที่ปรากฏอยู่ในในอนุสัญญากรุงบรัสเซลว่าด้วย การกักเรือ ลงวันที่ 10 พฤษภาคม ค.ศ. 1952 แม้จะมีข้อแตกต่างกันในรายละเอียดบ้างแล้วแต่ ระบบกฎหมายของแต่ละประเทศ

 

5. แหล่งข้อมูลทางวิชาการและการจัดหาวิทยานิพนธ์เกี่ยวกับการกักเรือ

1. สถาบันกฎหมายขนส่งและพาณิชยนาวี คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

2. สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการพาณิชยนาวี

3. สถาบันพาณิชยนาวี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

4. ห้องสมุดศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง

5. ห้องสมุดคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

6. ห้องสมุดคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

7. ห้องสมุดสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา

 

มารีนเนอร์ไทย | MarinerThai.Net | MarinerThai.Com

 

 

 

จำนวนผู้เข้าชมหน้านี้   8985

 Disclaimed: มารีนเนอร์ไทยดอทคอม ขอสงวนสิทธิ์ในการรับรองความถูกต้องในบทความ ข้อมูล เนื้อหา ภายในเว็บไซด์ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล ภาพ เสียง ซอฟแวร์ การเชื่อมโยง(ลิงค์) และ/หรือ บริการอื่นๆ และจะไม่รับผิดชอบในความผิดพลาดในการใช้เนื้อหาดังกล่าวข้างต้นเพื่อวัตถุประสงค์ทางด้าน การค้า การกระทำ การคาดการณ์ พยากรณ์ การวิจัย และอื่นๆ ซึ่งเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลเฉพาะของท่านผู้เขียนแต่ละรายไป ตลอดจนข้อกำหนดทางด้านลิขสิทธิ์ กรณีที่ท่านส่งบทความที่มิได้ขออนุญาตต่อผู้ครองสิทธิ์แท้จริงนำมาลงไว้ภายในเว็บไซด์นี้

 

 
 

 

 

Mariner English Articles MarinerThai 2004 Co., Ltd.

หน้าแรกก | เว็บบอร์ดชาวเรือ | สารบัญเว็บไซด์ชาวเรือ | สมุดภาพเรือเดินทะเล | สนับสนุนเว็บเรา | ติดต่อเรา

© 2002 Mariner Thai Dot Com Mariner Thai Dot Net. All rights reserved - Web designed by .<nv>.

 MarinerThai.Com | MarinerThai.Net | MarinerThai.Org

Contact webmaster: | Organizer : CKN - Cyber Ket Network