พระราชบัญญัติ การเดินเรือในน่านน้ำไทย
พระราชบัญญัติ การเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2522
- - - - - - - - - - - - - - - - - -
- -- - - - - -
ภูมิพลอดุลยเดช ป.ร.
ให้ไว้ ณ วันที่ 24
กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2522
เป็นปีที่ 34
ในรัชกาลปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการเดินเรือในน่านน้ำไทย
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้ โดยคำแนะนำและยินยอมของ
สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทำหน้าที่รัฐสภา ดังต่อไปนี้
มาตรา 1
พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า "พระราชบัญญัติ การเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 12)
พ.ศ. 2522"
มาตรา 2
พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา 3
ให้ยกเลิกความใน มาตรา 121 แห่งพระราชบัญญัติ การเดินเรือในน่านน้ำไทย
พระพุทธศักราช 2456 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
" มาตรา 121 เมื่อมีเรือไทย
เรือต่างประเทศหรือสิ่งอื่นใดจมลงหรืออยู่ในสภาพที่อาจเป็น
อันตรายแก่การเดินเรือในน่านน้ำไทย
ให้เจ้าของหรือตัวแทนเจ้าของเรือหรือสิ่งอื่นใดนั้นจัดทำ
เครื่องหมายแสดงอันตรายโดยพลัน
ด้วยเครื่องหมายตามที่เจ้าท่าหรือเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่เห็น สมควร
สำหรับเป็นที่สังเกตในการเดินเรือทั้งเวลากลางวันและเวลากลางคืน จนกว่าเจ้าของ
หรือตัวแทนเจ้าของเรือหรือสิ่งอื่นใดนั้นจะได้กู้ รื้อ ขน
ทำลายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใด
แก่เรือหรือสิ่งอื่นใดซึ่งได้จมลงหรืออยู่ในสภาพที่อาจเป็นอันตรายแก่การเดินเรือออกจากที่นั้น
เรียบร้อยแล้ว ซึ่งต้องกระทำให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่เจ้าท่ากำหนด
ถ้ามิได้จัดทำเครื่องหมายแสดงอันตรายหรือกู้
รื้อ ขน ทำลายหรือกระทำการอย่างหนึ่ง
อย่างใดให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่เจ้าท่ากำหนดตามวรรคหนึ่ง
ให้เจ้าท่าหรือเจ้าพนักงาน ผู้มีหน้าที่มีอำนาจจัดทำเครื่องหมายแสดงอันตรายหรือกู้
รื้อ ขน ทำลายหรือกระทำการอย่างหนึ่ง อย่างใดแก่เรือหรือสิ่งอื่นใด
และทรัพย์สินที่อยู่ในเรือหรือสิ่งอื่นใดให้พ้นจากสภาพที่อาจเป็น
อันตรายแก่การเดินเรือ
โดยเรียกค่าใช้จ่ายจากเจ้าของหรือตัวแทนเจ้าของเรือหรือสิ่งอื่นใดนั้น
ถ้าเรือไทย
เรือต่างประเทศหรือสิ่งอื่นใดตามวรรคหนึ่ง มีสิ่งซึ่งก่อหรืออาจก่อให้เกิด
มลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
ให้เจ้าของหรือตัวแทนเจ้าของเรือหรือสิ่งอื่นใดนั้นขจัดหรือป้องกันมลพิษให้แล้ว
เสร็จภายในระยะเวลาที่เจ้าท่ากำหนด หากไม่แล้วเสร็จภายในระยะเวลาดังกล่าว
ให้เจ้าท่า
หรือเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่มีอำนาจกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อขจัดหรือป้องกันมลพิษนั้นได้
โดยเรียกค่าใช้จ่ายจากเจ้าของหรือตัวแทนเจ้าของเรือหรือสิ่งอื่นใดนั้น
ในกรณีที่เจ้าของหรือตัวแทนเจ้าของเรือสิ่งอื่นใดนั้นไม่ยอมชดใช้ค่า
ใช้จ่ายตามวรรคสอง หรือวรรคสามภายในระยะเวลาที่เจ้าท่ากำหนดตามควรแก่กรณี
หรือไม่ปรากฏตัวเจ้าของหรือ ตัวแทนเจ้าของเรือหรือสิ่งอื่นใดนั้น
ให้เจ้าท่าด้วยความเห็นชอบของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
นำเรือหรือสิ่งอื่นใดและทรัพย์สินที่อยู่ในเรือหรือสิ่งอื่นใดนั้นออกขายทอดตลาดหรือขาย
โดยวิธีอื่น
ถ้าเงินที่ได้จากการขายทอดตลาดหรือขายโดยวิธีอื่นยังไม่เพียงพอชดใช้ค่าใช้จ่าย
เจ้าของ หรือตัวแทนเจ้าของเรือหรือสิ่งอื่นใดนั้นต้องชดใช้ส่วนที่ยังขาด
แต่ถ้าเงินที่ได้จากการขายทอดตลาด
หรือขายโดยวิธีอื่นนั้นเมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้วเหลือเท่าใดให้คืนเจ้าของหรือตัวแทนเจ้าของเรือ
หรือสิ่งอื่นใดนั้นหรือเจ้าของทรัพย์สิน
เว้นแต่ไม่ปรากฏตัวเจ้าของหรือตัวแทนเจ้าของเรือ
หรือสิ่งอื่นใดนั้นหรือเจ้าของทรัพย์สิน ให้เงินที่เหลือนั้นตกเป็นของแผ่นดิน"
มาตรา 4
ให้นำ มาตรา 212 แห่งพระราชบัญญัติ การเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช 2456
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัตินี้มาใช้บังคับแก่เรือไทย เรือต่างประเทศ
หรือสิ่งอื่น
ใดที่จมลงหรืออยู่ในสภาพที่อาจเป็นอันตรายแก่การเดินเรือในน่านน้ำไทยอยู่ก่อนวันที่
พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา 5
ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
ส. โหตระกิตย์
รองนายกรัฐมนตรี
หมายเหตุ
:- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่ปัจจุบันกฎหมายให้อำนาจ
เจ้าท่าหรือเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ทำการขจัดสิ่งกีดขวางได้เฉพาะการเดินเรือในเขตท่า
หรือใน แม่น้ำที่เรือเดินได้ตำบลใด ๆ เท่านั้น ดังนั้น
เมื่อมีเรือหรือสิ่งอื่นใดจมลงหรืออาจเป็นอันตราย
แก่การเดินเรือนอกเขตท่าและไม่ใช่ในแม่น้ำที่เรือเดินได้
เจ้าท่าหรือเจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่จึงไม่มี
อำนาจโดยชอบด้วยกฎหมายที่จะทำการขจัดสิ่งกีดขวางนั้นได้ทันท่วงที
อันจะเป็นการก่อให้เกิด ความเสียหายต่อเศรษฐกิจและการค้าทางทะเลของประเทศ
จำเป็นต้องให้อำนาจแก่เจ้าท่าและ
เจ้าพนักงานผู้มีหน้าที่ทำการขจัดสิ่งกีดขวางดังกล่าวได้ตามควรแก่กรณีและให้มีอำนาจขายทอดตลาด
เรือหรือสิ่งอื่นใดและทรัพย์สินที่อยู่ในเรือหรือสิ่งอื่นใดที่จมลงหรืออาจเป็นอันตรายได้
รวมทั้งให้มี
การขจัดหรือป้องกันสิ่งซึ่งก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมที่มีอยู่ในเรือหรือสิ่งอื่นใดนั้นได้ด้วย
จึงจำเป็น ต้องตราพระราชบัญญัตินี้ขึ้น (ร.จ. เล่ม 96 ตอนที่ 28 หน้า 21 วันที่ 1
มีนาคม 2522)
มารีนเนอร์ไทย | MarinerThai.Net |
MarinerThai.Com