ฝรั่งเศสเปิดเว็บเผยข้อมูลลับ UFO ที่เก็บมากว่า 50 ปี
ฝรั่งเศสเปิดเว็บเผยข้อมูลลับ UFO ที่เก็บมากว่า 50 ปี
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 24 มีนาคม 2550 00:00 น.
หุ่นเอเลี่ยนตัวนี้ยืนต้อนรับแขกอยู่ที่การประชุมยูเอฟโอในเมือง Châlons-en-Champagne
ประเทศฝรั่งเศส
ซึ่งองค์การอวกาศเมืองน้ำหอมกลายเป็นประเทศแรกที่เปิดเผยข้อมูลการพบวัตถุประหลาดและร่องรอยของมนุษย์ต่างดาว
เอเอฟพี - ฝรั่งเศสกลายเป็นประเทศแรกที่เปิดแฟ้มลับของตนในเรื่องเกี่ยวกับ"ยูเอฟโอ"
ซึ่งรวบรวมข้อมูลรายงานการพบเห็นวัตถุประหลาดบนฟากฟ้ากว่า 1,600 กรณี
ตลอดช่วงเวลากว่า 50 ปีที่ผ่านมา
องค์การอวกาศแห่งชาติฝรั่งเศส (CNES
: Centre National d’Etudes Spatiales) ได้จัดแถลงข่าวเปิดตัวเว็บไซต์
www.cnes-geipan.fr
ซึ่งรวบรวมข้อมูลรายงานการพบเห็นวัตถุประหลาดบนฟากฟ้า
ฐานข้อมูลออนไลน์แห่งนี้ ยังคงอัพเดตเมื่อมีรายงานกรณีใหม่ๆ เข้ามาด้วยนั้น
ได้จัดทำรายการกรณีที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดยิบ
โดยมีตั้งแต่เหตุการณ์ซึ่งสามารถโยนทิ้งไปได้อย่างง่ายดาย
ไปจนถึงเหตุการณ์จำนวนหนึ่งซึ่งแม้กระทั่งนักวิทยาศาสตร์ผู้ไม่ยอมเชื่ออะไรง่ายๆ
ก็ยังต้องนิ่งอึ้ง
ฌาคส์ ปาเตอเนต์ (Jacques Patenet) วิศวกรการบินอวกาศ
ผู้อำนวยการสำนักงานทำหน้าที่ศึกษา "ปรากฏการณ์ในบรรยากาศและอวกาศที่ไม่สามารถระบุชี้ชัดได้"
(non-identified aerospatial phenomena) ขององค์การอวกาศฝรั่งเศส
อวดว่าการเปิดแฟ้มผ่านทางออนไลน์ของแดนน้ำหอมเช่นนี้ ถือเป็นครั้งแรกของโลก
หลายประเทศโดยเฉพาะอังกฤษและสหรัฐฯ มีการเก็บรวบรวมข้อมูล "วัตถุบินได้ที่ไม่สามารถระบุชี้ชัด"
หรือ "ยูเอฟโอ" อย่างเป็นระบบเช่นกัน
ทว่าผู้สนใจศึกษาต้องอาศัยกฎหมายเสรีภาพด้านข้อมูลข่าวสาร
มาบังคับให้หน่วยงานที่จัดเก็บ ยอมเปิดแฟ้มให้ดู และก็ขอดูได้เป็นกรณีๆ ไปเท่านั้น
ปาเตอเนต์บอกว่า กรณีอย่างเช่นสตรีผู้หนึ่งรายงานว่า
พบเห็นวัตถุที่ดูเหมือนม้วนกระดาษชำระกำลังบินอยู่
ย่อมเห็นได้ชัดเจนว่าไม่มีคุณค่าพอที่จะดำเนินการสอบสวน
แต่ก็มีกรณีจำนวนมากที่มีผู้พบเห็นกันหลายคน อีกทั้งมีหลักฐานอย่างเช่น รอยไหม้
หรือเรดาร์สามารถตรวจจับรูปแบบการบินของวัตถุนั้นๆ
ตลอดจนมีการเร่งความเร็วชนิดที่ท้าทายกฎทางฟิสิกส์
เหล่านี้ย่อมควรที่จะต้องพิจารณากันอย่างจริงจัง
ยานทดสอบการดิ่งลงสู่พื้นโลก บันทึกเมื่อปี 1972 จากกองทัพอากาศสหรัฐฯ
เพื่อเปรียบเทียบให้ดูการตกของวัตถุประหลาด
วัตถุประหลาดแสงสว่างที่บันทึกได้จากเครื่องบินคองคอร์ด
ขณะบินไต่ระดับสูงเพื่อบันทึกภาพสุริยคราสในปี 1974
จากกรณีกว่า 1,600 กรณีที่เก็บรวมไว้ตั้งแต่ปี 1954 มีเกือบ 25% ถูกจัดให้อยู่ใน "ประเภท
ดี" (type D) ซึ่งหมายความว่า "แม้จะมีข้อมูลที่ดีหรือกระทั่งดีมาก
และมีพยานที่น่าเชื่อถือ แต่เราก็เผชิญกับอะไรบางอย่างที่เรายังไม่สามารถอธิบายได้"
ปาเตอเนต์กล่าว
Diagram: The UFO landing at Trans-en-Provence with insert
of craft seen by farmer Nicolai.
หนึ่งตัวอย่างของกรณีเช่นนี้เกิดขึ้นในวันที่ 8 มกราคม 1981 บริเวณนอกเมืองตรองส์-ออง-โปรวองซ์
(Trans-en-Provence) เมืองเล็กๆ ทางภาคใต้ของฝรั่งเศส
ชายผู้หนึ่งที่กำลังทำงานในทุ่งนารายงานว่า ได้ยินเสียงหวูดหวีดแปลกๆ
และพบวัตถุรูปร่างเหมือนชามกลมๆ ตื้นๆ รัศมีประมาณ 2.5 เมตร ลงจอดในทุ่งนาของเขา
ห่างจากตัวเขาไปราว 50 เมตร
เขาแจ้งความกับตำรวจว่า วัตถุรูปชามซึ่งมีสีเทาสังกะสีตุ่นๆ นี้
ได้ทะยานขึ้นฟ้าแทบจะทันทีทันใด และทิ้งรอยไหม้ไว้หลายรอย
คณะเจ้าหน้าที่สอบสวนได้ถ่ายภาพ และเก็บตัวอย่างหลายอย่างมาวิเคราะห์
ทว่าจนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีคำอธิบายที่น่าพอใจ
แต่ก็มีกรณีอย่างเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 1990 ซึ่งมีพยานเกือบ 1,000
คนบอกว่าพบเห็นแสงสว่างวาบบนท้องฟ้า แล้วการสอบสวนระบุว่า
เป็นเพียงเศษของจรวดที่ตกกลับเข้าสู่บรรยากาศของโลก
เมื่อถูกถามเรื่องมีมนุษย์จากนอกโลกจริงหรือไม่ ปาเตอเนต์ตอบว่า "เราไม่มีหลักฐานแม้แต่น้อยนิดที่พิสูจน์ว่า
มนุษย์ต่างดาวเป็นผู้อยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์อันไม่อาจอธิบายได้เหล่านี้"
ทว่าเขาก็กล่าวต่อไปว่า "แต่เราก็ไม่มีหลักฐานแม้แต่น้อยนิดเช่นกันที่พิสูจน์ว่า
พวกเขาไม่ได้อยู่เบื้องหลัง"
ทั้งนี้ CNES ได้รับรายงานการเห็น UFO ปีละ 50-100 กรณี
และส่วนใหญ่เป็นการรายงานผ่านตำรวจ มีเพียงแค่ 10%
ในจำนวนนี้ที่วัตถุประหลาดนั้นได้รับการสืบสวนต่อไป
เว็บไซต์ดังกล่าว นับเป็นแหล่งข้อมูลชั้นดี
ซึ่งมีทั้งรูปภาพและรายงานของตำรวจอย่างละเอียด
ซึ่งการเปิดให้นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเข้าถึงข้อมูลดังกล่าว
จะช่วยให้ง่ายต่อการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการมีอยู่ของสิ่งมีชีวิตนอกโลกต่อไป
อย่างไรก็ดี ภายหลังเปิดตัวเว็บไซต์
www.cnes-geipan.fr
ดูเหมือนว่าจะมีผู้ให้ความสนใจมากมายล้นหลาม จนเซิรฟเวอร์ไม่สามารถรองรับได้
ผู้เข้าชมจากทั่วโลกจึงอาจจะไม่สามารถรับชมเว็บไซต์ดังกล่าวได้อย่างสะดวกนัก