Menuleft - MarinerThai.Net

หน้าแรก

เว็บบอร์ดชาวเรือ

สารบัญเว็บไซด์ชาวเรือ

เอกสารน่าอ่านไทย

เอกสารน่าอ่านอังกฤษ

สาระไอทีชาวเรือ

แหล่งคนหางานเรือไทย

บทความจากสมาชิก

นิทานชาวเรือ

คนเรือหัวหมอ

คู่มือปฏิบัติงานเรือ

ระบบสื่อสาร-เดินเรือ

พจนานุกรมศัพท์ทางเรือ

ความหมายคำย่อทางเรือ

ข่าวอัพเดทรายวัน

ข่าวสดราคาน้ำมันโลก

รวมข่าวโจรสลัด

รวมข่าวอุบัติเหตุทางเรือ

สนับสนุนเว็บเรา

สถิติผู้เข้าชมเว็บนี้

ติดต่อเรา

เปิดเว็บ 1 ตุลาคม 2545

 

ขณะนี้เวลา | Your Time
10:46:33

Nathalin Group

MarinerThai 2004

TOP Enginerring Group

 

 
 
 

 

 

Cho.Charoen Maritime Instruments

Cho.Charoen Maritime Instruments TOP Engineering Group - UAV Thailand

“เรือหลวงนาคา” สมุทรานุภาพก้อง สู่พิพิธภัณฑ์ในสหรัฐ

“เรือหลวงนาคา” สมุทรานุภาพก้อง สู่พิพิธภัณฑ์ในสหรัฐ 


โดย หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2550

เหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อ 60 กว่าปีก่อน เกิดการสู้รบกันระหว่างสองฝ่ายคือ ฝ่ายอักษะที่มีแกนนำสำคัญคือเยอรมันอิตาลี ญี่ปุ่น และฝ่ายพันธมิตร ประกอบไปด้วยแกนนำหลัก คือ สหราชอาณาจักร, สหภาพโซเวียต และ สหรัฐอเมริกา

สงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่มหาสมุทรแอตแลนติก ยุโรปตะวันตกและตะวันออก ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน แอฟริกา ตะวันออกกลาง มหาสมุทรแปซิฟิก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจีน

เหตุการณ์สงครามในยุโรปสิ้นสุดเมื่อเยอรมนียอมจำนนในวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2488 แต่ในเอเชียยังดำเนินต่อไปจนกระทั่งญี่ปุ่นยอมจำนนในวันที่ 15 สิงหาคม ปีเดียวกัน คาดว่ามีผู้เสียชีวิตในสงครามครั้งนี้ราว 57 ล้านคน

ตอนหนึ่งของสงครามโลกระหว่างมีการสู้รบในน่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิค กองทัพฝ่ายพันธมิตรต้องการยกพลขึ้นเกาะที่ทหารญี่ปุ่นยึดครอง สหรัฐอเมริกาได้หาทางต่อเรือสนับสนุนการยกพลขึ้นบกแก่เหล่านาวิกโยธิน

เรือที่ประกอบขึ้นในระหว่างสงครามต้องทำหน้าที่คุ้มกันเหล่านาวิกโยธินได้อย่างดี และเข้าใกล้ฝั่งให้ได้มากที่สุด กองทัพสหรัฐได้ออกแบบให้เรือติดอาวุธครบครัน เพิ่มอำนาจในการยิงระยะประชิดเพื่อปกป้องกองกำลังให้ได้มากที่สุด จำนวนถึง 130 ลำ

เรือลำดังกล่าวมีชื่อว่า แอลซีเอส (Landing Craft Supp0rt) เรือสนับสนุนการยกพลขึ้นบก อานุภาพของเรือที่ล้ำหน้า คือติดอาวุธปืนมากถึง 38 กระบอก และเป็นอาวุธปืนที่ผลิตครั้งแรกในปีพ.ศ.2487 จากโรงงงานผลิตอาวุธปืนถึง 3 โรงงาน ความยาวเรือตลอดลำ 47.40 เมตร ความกว้างสูงสุด 7 เมตร ระวางขับน้ำ 387 ตัน ความเร็วสูงสุด 13 น๊อต เครื่องจักรใหญ่ดีเซล 2 เครื่อง

เรือจำนวน 130 ลำได้ส่งเข้าประจำการและเข้าร่วมรบในสมรภูมิต่างๆ เช่น ฟิลิปินส์ ฮิโรจิม่า โอกินาว่า โบนีโอ จวบจนปัจจุบันเรือแอลซีเอสเหลือดังกล่าวได้เสื่อมสูญไปตามกาลเวลา

แต่ไม่น่าเชื่อว่า แอลซีเอสลำสุดท้าย มีอยู่ในประเทศไทย จากการค้นหาของพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์สหรัฐอมริกา และ National Association of USS LCS พบว่ายังคงมีเรือประเภทนี้ใช้งานได้เพียงลำเดียวในโลก และอยู่ในความครอบครองของกองทัพเรือไทย

นอกจากนี้ยังมีอีกลำอยู่ในฟิลลิปปินส์ ปัจจุบันถูกดัดแปลงเป็นเรือประมงจนไม่เหลือเค้าโครงของเรือรบที่มีแสนยานุภาพอีกต่อไป

ย้อนถึงเส้นทางเดินของเรือแอลซีเอส ในความครอบครองของกองทัพเรือไทย เรือลำนี้เป็นเรือลำที่ 102 ของจำนวน 130 ลำ สร้างในเดือนมีนาคม พ.ศ.2488 ณ อู่ต่อเรือ คอมเมอร์เชี่ยล ไอรอน เวิร์ก (Commercial Iron Work ) เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน

หลังจากร่วมรบอย่างสมเกรียติในสงครามโลกครั้งที่ 2 เรือ แอลซีเอสได้ถูกโอนให้แก่กองกำลังป้องกันตัวเองของญี่ปุ่น ใช้ชื่อเรือว่า “อิมาวาริ”จนกระทั่งในปี พ.ศ.2509 กองทัพเรือสหรัฐได้มอบเรือลำนี้ให้แก่กองทัพเรือไทยในโครงการช่วยเหลือทางทหาร

โดยทำพิธีมอบเรือเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2509 ณ ท่าเทียบเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี สมัยนั้นมีพลเรือเอกจรูญ เฉลิมเตียรณ ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพเรือ หลังจากนั้นจึงได้ขึ้นระวางเรือประจำการในสังกัดกองเรือยกพลขึ้นบก กองเรือยุทธการ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2509

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า พระราชทานชื่อเรือว่า “เรือหลวงนาคา” ซึ่งเป็นชื่อเกาะในอำเภอถลาง จ.ภูเก็ต ตรงกับชือถาษาอังกฤษว่า "H.T.M.S NAKHA

ตลอดระยะเวลากว่า 60 ปี ที่แอลซีเอส รับใช้ภารกิจต่างๆในกองทัพเรือสหรัฐ ญี่ปุ่น และไทยมายาวนาน จนมาถึงพ.ศ.นี้ “เรือหลวงนาคา” ต้องเกษียณตัวเองอย่างถาวรแล้ว เพื่อรับภาระกิจใหม่ตามคำร้องขอของสหรัฐ ที่ทำหนังสือผ่านผ่านกระทรวงกลาโหม ขอคืนเรือเพื่อนำไปไว้ในพิพิธภัณฑ์ทางประวัติศาสตร์ที่ Mare Island Naval Shipyard เมือง Vallejo มลรัฐ แคลิฟอร์เนีย ประเทสสหรัฐอมริกา

พลเรือเอก สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวว่า เรือหลวงนาคา เป็นเรือประวัติศาสตร์ของอเมริกา ปัจจุบันเหลือเป็นเพียงลำเดียวในโลกที่คงสภาพสมบูรณ์ก็คือเรือหลวงนาคา เพราะกองทัพเรือดูแลรักษาเป็นอย่างดี ตามมารยาทและระเบียบปฎิบัติตามข้อตกลงระหว่างมิตรประเทศ เมื่อมีการปลดระวางเรือรบ ประกอบกับ Mr.Jeff Jeffers นักรบอเมริกาในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งได้มีการรวมตัวสมาชิกนักรบในยุคนั้นได้ประมาณ 150 คน ก่อตั้งสมาคมขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2529 ได้ทราบเรื่อง กองทัพเรือปลดระวางเรือหลวงนาคา จึงได้ทำหนังสือร้องขอมา

“ทางสมาคมได้ให้สัญญาว่า จะยังคงชื่อ H.T.M.S. NAKHA หรือ เรือหลวงนาคา ไว้ตลอดกาล เพื่อเป็นเกียรติแก่ประเทศไทยและกองทัพเรือไทย อีกทั้งยังเป็นชื่อซึ่งได้รับพระราชทานจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระมหากษัตริย์ไทย เรือหลวงนาคา จึงเป็นสื่อสัญญาลักษณ์แห่งความสัมพันธ์ทางทหารที่ดีระหว่างประเทศไทยกับประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างมั่นคง และรู้สึกดีใจอย่างมากที่เรือหลวงนาคาได้ยุติบทบาททางการยุทธ์ของกองทัพเรืออย่างสง่างาม” ผู้บัญชาการกองทัพเรือกล่าวด้วยความภูมิใจ

นาวาเอก นภดล สุภากร ผู้บังคับการกองสนับสนุน กองเรือยุทธการ อดีตผู้บังคับการเรือหลวงนาคาลำดับที่ 22 ในฐานะกำลังพลในการดูแล รักษาเรือลำนี้พร้อมกับประจำเรือทุกนาย กล่าวถึงความรู้สึกที่ต่อเรือหลวงนาคาว่า งข้าราชการ พลทหาร ที่เคยรับราชการในเรือหลวงนาคา ทุกคนต้องตอบเป็นประโยคกันอย่างแน่นอน ก็คือเรือลำนี้เป็นขวัญและกำลังใจอย่างมาก

เมื่อนำเรือออกปฏิบัติภารกิจหมู่เรือเฉพาะกิจลาดตระเวนชายแดนทั้งภาคใต้ และภาคตะวันออก รู้สึกอุ่นใจมากเพราะเรือลำนี้มีเขี้ยวเล็บที่น่าเกรงขามและน่ากลัว มี "สมุทรานุภาพ" หรืออำนาจทางทะเล ก็คือติดตั้งอาวุธปืนขนาดต่าง ๆ จำนวน 15 กระบอก มากที่สุดในกองทัพเรือ มีสมรรถนะ ความคล่องตัว ความพร้อมมาก

จนได้รับฉายาว่า เรือบรรทุกปืน มีศักยภาพ มีแสนยานุภาพอยู่ในตัวเอง ซึ่งเรือลำนี้ ได้อออกปฏิบัติตามคำสั่งลับของกองเรือยุทธการ และกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ตลอดจนออกปฏิบัติภารกิจตามคำสั่งลับในเขตติดต่อทะเลอันดามันมาแล้วจำนวนมาก

วันสุดท้ายของการปฏิบัติงาน เรือหลวงนาคายุติลงวันที่ 4 ตุลาคม 2549 และได้มีการส่งมอบเรือเมื่อวันที่ 22 พฤษาคม พ.ศ.2550 ณ ท่าเรือจุกเสม็ด ฐานทัพเรือสัตหีบ เพื่อบรรทุกเรือใหญ่ส่งขึ้นเกะมาร์ เมืองซานฟรานซิสโก ซึ่งมีกำหนดถึงวันที่ 25 มิถุนายน ท่ามกลางพิธีต้อนรับอย่างสมเกียรติอีกครั้ง

นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย และกองทัพเรือไทย ...จากนี้ไปเรือหลวงนาคาจะเริ่มต้นภาระกิจใหม่ในฐาะเรือพิพิธภัณฑ์ทางประวัติสาสตร์ในประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้ชื่อ “H.T.M.S.NAKHA” พร้อมประดับธงราชนาวีไทย ในดินแดนสหรัฐอเมริกา

พัชรพล ปานรักษ์, กองทัพเรือ : ข้อมูล

วาไรตี้ : เรียบเรียง

 


มารีนเนอร์ไทยดอทคอม | MarinerThai.Com

 

จำนวนผู้เข้าชมหน้านี้   10006

 Disclaimed: มารีนเนอร์ไทยดอทคอม ขอสงวนสิทธิ์ในการรับรองความถูกต้องในบทความ ข้อมูล เนื้อหา ภายในเว็บไซด์ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล ภาพ เสียง ซอฟแวร์ การเชื่อมโยง(ลิงค์) และ/หรือ บริการอื่นๆ และจะไม่รับผิดชอบในความผิดพลาดในการใช้เนื้อหาดังกล่าวข้างต้นเพื่อวัตถุประสงค์ทางด้าน การค้า การกระทำ การคาดการณ์ พยากรณ์ การวิจัย และอื่นๆ ซึ่งเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลเฉพาะของท่านผู้เขียนแต่ละรายไป ตลอดจนข้อกำหนดทางด้านลิขสิทธิ์ กรณีที่ท่านส่งบทความที่มิได้ขออนุญาตต่อผู้ครองสิทธิ์แท้จริงนำมาลงไว้ภายในเว็บไซด์นี้

 

 
 

 

 

Mariner English Articles นิทานชาวเรือ

หน้าแรกก | เว็บบอร์ดชาวเรือ | สารบัญเว็บไซด์ชาวเรือ | สมุดภาพเรือเดินทะเล | สนับสนุนเว็บเรา | ติดต่อเรา

© 2002 Mariner Thai Dot Com Mariner Thai Dot Net. All rights reserved - Web designed by .<nv>.

 MarinerThai.Com | MarinerThai.Net | MarinerThai.Org

Contact webmaster: | Organizer : CKN - Cyber Ket Network