รถหรือเรือ ?
รถหรือเรือ?
โดย
ผู้จัดการออนไลน์ 24 กันยายน 2550 15:43 น.
สิ่งที่คุณเห็นอยู่ข้างบนนี้ ไม่ว่ามันจะถูกเรียกว่าเป็นอะไรก็ตาม “รถหรือเรือ
? ” มันคือผลงานชิ้นโบว์แดงของกิ๊บบส์ เทคโนโลยีส์ (Gibbs Technologies)
ผู้พัฒนา เทคโนโลยีสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกสำหรับยานยนต์ ซึ่งถูกก่อตั้งโดย “อลัน
กิ๊บบส์” นักธุรกิจชาวนิวซีแลนด์
โปรเจ็คต์ดังกล่าวเริ่มต้นหลังจากที่เขาสามารถสร้างยานยนต์สะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกแบบใช้ความเร็วสูงคันแรกเป็นผลสำเร็จเมื่อปี
1995 ต่อมาปี 1996
มีการจดทะเบียนตั้งบริษัทอย่างเป็นทางการเพื่อทำสิ่งที่เขาคิดค้นขึ้นให้เป็นจริงในเชิงการค้า
และปี1998 เขาจึงหอบหิ้วเอาคอนเซ็ปต์นี้ข้ามน้ำข้ามทะเลมายังเมืองดีทรอยต์
ประเทศสหรัฐอเมริกา เมืองที่ถือว่าเป็นแหล่งรวมสุดยอดยนตรกรรมของโลก
แต่ยังไม่ทันที่โปรเจ็คต์จะเป็นรูปเป็นร่าง
โชคชะตาพลิกผลันให้เขาต้องย้ายถิ่นอีกครั้ง เมื่อมาพบกับ “นีล เจนกิ้นส์”
เขาทั้งคู่ตัดสินใจรวมธุรกิจด้วยกันและย้ายโปรเจ็คต์ดังกล่าวไปดำเนินการต่อ ณ
ประเทศอังกฤษ พร้อมกับก่อตั้งบริษัท กิ๊บบส์ เทคโนโลยี ยูเค จำกัดในปี 1999
และเมื่อทุกอย่างพร้อม “อะควอดา ”
ก็ถูกเผยโฉมออกมาเป็นครั้งแรก ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่มีชื่อว่า HSA (High Speed
Amphibian)
HSA เทคโนโลยี คือการผสมผสานการทำงานของ 3 สิ่งหลักอันได้แก่ ระบบใบพัดแรงดันสูง
(Water Jet) ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเมื่ออยู่ในน้ำ, ระบบช่วงล่างยกตัวได้ (Retracting
Suspension) ให้ความสบายเมื่อวิ่งบนถนนและลดแรงเสียดทานเมื่ออยู่ในน้ำ และ
โครงสร้างตัวถัง (Hull)
ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสามารถลอยน้ำและใบพัดทำงานได้อย่างเต็มกำลัง
ที่สำคัญ “อะควอดาและกิ๊บบส์ เทคโนโลยี”สามารถคว้ารางวัลมากมาย อาทิ Best
Innovations of 2003 จากหนังสือ Time และChurchill Medal 2004 for Outstanding
Engineering Achievement เป็นต้น
ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาทำความรู้จักกับยานยนต์ทั้ง 3
แบบที่ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวกันดีกว่า
อะควอดา(Aquada)
“อะควอดา” คือการปฏิวัติทางด้านความเร็วของยานยนต์ประเภทครึ่งบกครึ่งน้ำ
ด้วยวิศวกรรมล้ำหน้าของเทคโนโลยี HSA (High Speed Amphibian)
ที่สามารถทำให้อะควอดาวิ่งความเร็วสูงสุดบนบกได้ถึง 160 กม./ชม. และบนผิวน้ำมากกว่า
48 กม./ชม.
อีกทั้งยังผ่านการทดสอบด้านมาตรฐานความปลอดภัยที่เข้มข้นไม่ว่าจะทางบกหรือทางน้ำ
อะควอดาแล่นลงน้ำโดยไม่ต้องกังวลเนื่องจาก ตัวถังได้รับการออกแบบจากพื้นฐานของเรือ
เพื่อความสามารถในการลอยน้ำ ขณะที่รูปทรงภายนอกเป็นแบบ “รถสปอร์ตเปิดประทุน”
คล้ายคลึงกับมาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5 สร้างความโดดเด่นเฉกเช่นรถสปอร์ตทั่วไป
ด้านหัวใจบรรจุเครื่องยนต์ วี6 24 วาล์ว กำลังสูงสุด 175 แรงม้า
ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด พร้อมเกียร์ถอยหลัง ใช้น้ำมันชนิดเบนซิน 95
ความจุถังน้ำมัน 67 ลิตร น้ำหนักตัวถัง 1,466 กิโลกรัม
ระบบช่วงล่าง ควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์แบบไฮดรอลิก อากาศกึ่งน้ำมัน
พร้อมปรับระดับอัตโนมัติ ส่วนอุปกรณ์มีครบครันทั้ง ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว,
ดิสก์เบรก 4 ล้อ, , พวงมาลัยพาวเวอร์ทั้งบนบกและในน้ำ, เบาะ 3
ที่นั่งพร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด และวิทยุ/ซีดีแบบกันน้ำได้
สำหรับการใช้งาน อะควอดา
สามารถแล่นจากบนบกลงน้ำหรือขึ้นจากน้ำมาวิ่งบนบกได้ทันทีทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นชายหาดหรือท่าเทียบเรือ
เพียงกดปุ่ม เหยียบคันเร่ง ระบบต่างๆ จะทำงานโดยอัตโนมัต (พับล้อและเพิ่มแรงอัดเพื่อลอยตัวในน้ำ)
ภายในเวลาเพียง 12 วินาที และด้วยพละกำลังที่เหลือเฟือ อะควอดา
สามารถใช้งานสำหรับการเล่นสกีน้ำเทียบเท่ากับเรือเร็ว(Speedboat)
หรือจะขับเล่นกินลมชมวิวบนถนนเลียบชายหาดก็ทำได้อย่างไม่ขัดเขิน
สนนราคาขายเฉพาะยุโรปช่วงแรกตั้งไว้ 150,000 ปอนด์ หรือประมาณ 10.5 ล้านบาท
แต่ปัจจุบันมีรายงานว่าอยู่ที่ 75,000 ปอนด์ และในปี 2009
อะควอดาจะบุกเข้าไปทำตลาดอเมริกาด้วยราคาคาดว่าต่ำกว่า 100,000 เหรียญดอลล่าร์ (ประมาณ
3.4 ล้านบาท)
ฮัมดิงกา(Humdinga)
“ฮัมดิงกา” เป็นรถในรูปทรงสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกเหมือนที่ทุกท่านเคยเห็นในอดีต
แต่ความสามารถจะแตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ด้วย HSA เทคโนโลยี แพลตฟอร์ม
เช่นเดียวกับอะควอดา ฮัมดิงกา
ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อการเข้าถึงพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดานทุกรูปแบบ
โดดเด่นด้วยการบรรทุกผู้โดยสารมากถึง 5
คนพร้อมขนสัมภาระมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน
ฮัมดิงกา คือตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่น ของ HAS เทคโนโลยี
ซึ่งสามารถปรับใช้กับยานยนต์ทุกรูปแบบตั้งแต่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลจนถึงรถเอสยูวี
หรือแม้แต่รถบรรทุกก็เป็นไปได้
เฉกเช่นเดียวกับรุ่น อะควอดา เพียงกดปุ่มเท่านั้น ฮัมดิงกา
ก็สามารถวิ่งจากบกแล่นบนพื้นน้ำสบายๆ โดยล้อจะพับขึ้น
ระบบจะเปลี่ยนการส่งกำลังจากล้อไปที่ใบพัดแรงดันสูงแทน
และปรับเข้าสู่โหมดการทำงานแบบสะเทิ้นน้ำ ภายในเวลาไม่กี่วินาที
พร้อมให้ผู้ขับทำความเร็วสูงสุดถึงกว่า 60 กม./ชม.
บนถนน ฮัมดิงกา มีอัตราเร่ง 0-60 ไมล์/ชม. ใน 9.2 วินาที ความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม.
จากเครื่องยนต์อันทรงพลังถึง 350 แรงม้า ขับเคลื่อน 4 ล้อ น้ำหนักตัวถัง 2000
กิโลกรัม มิติความยาว 5.4 เมตร กว้าง 2.0 เมตรและสูง 1.85 เมตร
ส่วนระบบช่วงล่างเป็นแบบอิสระทั้ง 4 ล้อ
“ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ HSA ของ ฮัมดิงกา นั้นต้องใช้เวลาในการพัฒนาถึง 8 ปี
แรงงานคนนับล้านชั่วโมงและงบประมาณเกินสิบล้านปอนด์
กว่าจะประสบความสำเร็จจนสามารถใช้งานอย่างเต็มศักยภาพในรุ่นนี้” อลัน กิบบส์ ประธาน
ของ กิบบส์ เทคโนโลยี กล่าว สำหรับราคาค่าตัวของฮัมดิงกา อยู่ที่ 186,000
เหรียญดอลล่าร์ (ประมาณ 6.32 ล้านบาท)
ควอดสกี(Quadski)
แม้จะยังเป็นเพียงรถต้นแบบแต่ “ควอดสกี” ก็เป็นยานยนต์ลำดับ 3
ที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความสำเร็จของ HSA เทคโนโลยี ด้วยรูปลักษณ์แบบ
เอทีวีหรือควอดไบค์(All Terrain Vehicle/Quadbike) และสามารถเดินทางด้วยความเร็วถึง
72 กม./ชม. ทั้งบนบกและพื้นผิวน้ำ
“ควอดสกี ให้ทั้งความตื่นเต้นและการใช้งานในทางปฏิบัติจริงที่หลากหลาย
ผมรู้ว่าผู้บริโภคจะชื่นชอบความสนุกของการขับขี่ควอดสกี หลังได้ลองขับเพียง 1 นาที
บนบกแล้วขับลงแม่น้ำหรือทะเล
คุณจะได้สัมผัสกับความแปลกใหม่ที่เติมเต็มทุกการเดินทาง” นั่นคือความเห็นของอลัน
กิ๊บบส์ หลังการเปิดตัวควอดสกี แบบโปโตไทป์
สำหรับอรรถประโยชน์สูงสุดของควอดสกีคือกรณีที่ต้องการความช่วยเหลือแบบเร่งด่วน
และเป็นพื้นที่ซึ่งรถแบบขับเคลื่อน 4 ล้อเข้าไม่ถึง แต่สำหรับควอดสกีที่มีขนาดเล็ก
จึงสามารถบุกตลุยเข้าไปทุกพื้นที่พร้อมพกกำลังเครื่องยนต์ที่มีมากถึง 140 แรงม้า
เห็นสุดยอดเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำนำหน้าแบบนี้แล้ว
คาดว่าอีกไม่นานเกินรอเราอาจจะได้เห็นยานยนต์ที่สามารถไปได้ครบทั้งบนถนน พื้นน้ำ
และอากาศ เหมือนในนิยายวิทยาศาสตร์เป็นแน่แท้
สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยียานยนต์ต่างๆ ของ
กิ๊บบส์ เทคโนโลยี ได้ทาง
http://www.gibbstech.co.uk