ซากเรือรบอังกฤษจมทะเลสาบสหรัฐฯ 200 ปีไม่บุบสลาย
ซากเรือรบอังกฤษจมทะเลสาบสหรัฐฯ 200 ปีไม่บุบสลาย
โดย
ผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 16 มิถุนายน
2551 13:21 น.
ภาพจากวิดีโอซึ่งเคนนาร์ดและสโควิลล์บันทึกไว้เป็นภาพเรือรบโบราณของอังกฤษซึ่งอับปางลงกลางทะเลสาบสหรัฐฯ
เมื่อกว่า 200 ปีที่ผ่านมา (เอพี)
พบซากเรือรบอังกฤษจมอยู่ในก้นทะเลสาบออนตาริโอใกล้เมืองนิวยอร์กของสหรัฐฯ ตั้งแต่
200 ปีที่ผ่านมา และทำให้ลูกเรือทั้งหมด 130 คนจมหายไปด้วย
แต่สภาพเรือซึ่งติดตั้งปืนใหญ่ 22 กระบอกยังสมบูรณ์ นับเป็นอีก "จอกศักดิ์สิทธิ์"
ของเรืออับปางใน "ทะเลสาบใหญ่ทั้ง 5"
เรือรบอังกฤษซึ่งติดตั้งปืนใหญ่ 22 กระบอกและจมลงอยู่สู่ก้นทะเลสาบออนตาริโอ (Lake
Ontario) ของสหรัฐอเมริกาเนื่องจากพายุตั้งแต่เดือน ต.ค.ปี 2323
ซึ่งเป็นยุคปฏิวัติอเมริกานั้น ได้รับการค้นพบโดยนักค้นหาซากเรืออับปาง จิม
เคนนาร์ด (Jim Kennard) และแดน สโควิลล์ (Dan Scoville)
ซึ่งใช้คลื่นเสียงและเรือดำน้ำแบบไร้คนบังคับเพื่อค้นหาตำแหน่งของเรือเอชเอ็มเอสออนตาริโอ
(HMS Ontario) ที่จมหายไปพร้อมลูกเรือทั้งหมด 130 คน
ตามรายงานของสำนักข่าวเอพีและสำนักข่าวอื่นๆ
ภาพจากกล้องวิดีโอที่เคนนาร์ดและสโควิลล์บันทึกไว้
แสดงบริเวณสำหรับลูกเรือและเสากระโดงเรือ (เอพี)
เรือเอชเอ็มเอสออนตาริโอนี้เป็นเป็นเรือเดินสมุทรเก่าแก่ที่สุดที่พบในทะเลสาบใหญ่ทั้ง
5 (Great Lakes)* อันเป็นสุสานของเรือกว่า 4,700 ลำ
โดยไทม์ออนไลน์ได้ให้รายละเอียดว่า
เคนนาร์ดและสโควิลล์ใช้เวลาหาตำแหน่งของเรือลำนี้ร่วม 3 ปี
ซึ่งเรือใบเสากระโดงคู่นี้ได้จมลงในเนื่องจากสภาพอากาศอันเลวร้าย
พายุได้พัดพาเรือจากค่ายทหารฟอร์ทไนแอการา (Fort Niagara ) ข้ามมายังทะเลสาบ
และคว่ำดาดฟ้าเรือแล้วจมลงสู่เบื้องล่าง
"ปกติเมื่อเรือล่มเนื่องจากพายุใหญ่ก็จะถูกโจมตีและไม่จมลงในสภาพที่ดีนัก
เรือลำนี้ก็จมลงด้วยพายุใหญ่แต่จมลงโดยไม่เสียหายอะไร แม้แต่หน้าต่าง 2
บานก็ยังไม่แตก แค่จมลงไป ความแตกต่างของความกดอากาศก็ทำให้กระจกแตกได้
ช่างเป็นเรือที่สวยจริงๆ" สโควิลล์กล่าว
ภาพวาดโดยบริทตัน สมิธ ผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเรือรบลำนี้ (เอพี)
ทีมค้นหาลงความเห็นว่าเรือที่อับปางนี้ถือเป็นสุสานแห่งสงครามและไม่มีแผนที่จะกู้หรือเคลื่อนย้ายศิลปวัตถุใดๆ
ของเรือ พร้อมทั้งกล่าวว่าเรือลำนี้ยังคงเป็นทรัพย์สมบัติของกองทัพอังกฤษ
และแม้ว่าเรือใหญ่จะจมอยู่ลึกลงไปใต้น้ำกว่า 150 เมตรและไม่ใครที่จะลงไปถึงได้
แต่นักดำน้ำผู้มากประสบการณ์อย่างเคนนาร์ดและสโควิลล์ก็ตัดสินใจที่จะหาตำแหน่งที่ถูกต้อง
"แทบไม่น่าเชื่อที่ได้พบเรือเดินสมุทรยุคสงครามปฏิวัติในสภาพค่อนข้างสมบูรณ์นี้
เป็นปาฏิหารย์ทางโบราณคดีเลยทีเดียว เธอเหมือนเพิ่งจมลงเมื่อวานนี้เอง "
ความเห็นของอาร์เธอร์ บริทตัน สมิธ (Arthur Britton Smith)
ชาวแคนาดาผู้เขียนหนังสือเกี่ยวกับเรือเอชเอ็มเอสออนตาริโอเมื่อปี 2540 ที่ชื่อว่า
"ตำนานแห่งทะเลสาบ" (The Legend of the Lake)
หลังจากที่เขาได้ชมวิดีโอที่บันทึกภาพเรือไว้
เรือจมลงพร้อมทหารอังกฤษ 60 นาย ลูกเรืออีก 40 คนและนักโทษอเมริกันอีก 30 คน
ซึ่งเอพีรายงานคำพูดของสมิธอีกว่า เรือลำนี้เดินทางได้เพียง 5
เดือนและถูกใช้เพื่อลำเลียงกองทัพทหารและเสบียงไปยังแนวพรมแดนของนิวยอร์ก
และแม้จะเป็นเรืออังกฤษลำใหญ่ที่สุดท่ามกลางทะเลสาบใหญ่ในเวลานั้นแต่ก็ยังไม่เคยมีการปะทะใดๆ
เมื่อเรือจมลงทางการอังกฤษก็ได้ทำการค้นหาแต่พยายามเก็บความลับไว้จากกองทหารของจอร์จ
วอชิงตัน (George Washington) ด้วยเหตุผลทางการทหาร
แผนที่แสดงบริเวณที่คาดว่าเรือรบเอชเอ็มเอสออนตาริโออับปางลงในกรอบสีแดง (เอพี)
อย่างไรก็ตามหลังเหตุเรืออับปางเพียง 1 วัน ทางลงใต้ท้องเรือ กล่องใส่เข็มทิศ
เข็มทิศ หมวกหลายใบและผ้าห่มได้ลอยเข้าฝั่ง
และหลายวันหลังจากนั้นก็มีคนพบใบเรือลอยในทะเลสาบ จากนั้นอีกหนึ่งปี 6
ศพจากทะเลสาบออนตาริโอก็ถูกพบใกล้ๆ เมืองวิลสัน นิวยอร์ก แต่หลังจากนั้นกว่า 2
ศตวรรษก็ไม่มีร่องรอยของเรือให้พบอีกเลย
นักสำรวจได้พยายามค้นหาซากเรือนานหลายทศวรรษแต่ก็ล้มเหลว
สำหรับเคนนาร์ดซึ่งเป็นวิศวกรไฟฟ้าได้ดำน้ำมาเกือบ 40 ปีและได้พบซากเรือมากกว่า 200
ลำในทะเลสาบใหญ่ทั้ง 5 ทะเลสาบแชมเพลน (Lake Champlain) ทะเลสาบฟิงเกอร์ (Finger
Lake) แม่น้ำมิสซิสซิปปี (Mississippi River) และแม่น้ำโอไฮโอ (Ohio River)
โดยเริ่มต้นค้นหาซากเรือในทะเลสาบใหญ่ทั้ง 5 เมื่อ 35
ปีที่แล้วแต่ก็หยุดหลังจากคว้าน้ำเหลวอยู่หลายปี
จนกระทั่ง 6
ปีที่แล้วเคนนาร์ดได้ตั้งทีมขึ้นมาใหม่ร่วมกับสโควิลล์นักดำน้ำผู้พัฒนาเรือดำน้ำแบบบังคับทางไกลร่วมกับนักศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีโรเชสเตอร์
(Rochester Institute of Technology) จากนั้นคู่หูคู่ใหม่ก็ได้พบเรืออับปาง 7
ลำแล้วในทะเลสาบใหญ่ทั้ง 5
ทั้งนี้ทีมค้นหาได้พบสิ่งที่ระบุว่าเป็นเรือนั่นคือตาข่ายบนเสากระโดงเรือ
และยังได้พบปืนใหญ่ สมอเรือและระฆังเรือด้วย
หมายเหตุ
* ทะเลสาบใหญ่ทั้ง 5 (Great Lake) ได้แก่ ทะเลสาบอีรี (Lake Erie) ทะเลสาบฮิวรอน
(Lake Huron) ทะเลสาบมิชิแกน (Lake Michigan) ทะเลสาบออนตาริโอ (Lake Ontario)
และทะเลสาบสุพีเรียร์ (Lake Superior)
Seneca, Ontario, and Haldimand at the Carleton Island Anchorage in May 1780
HMS Ontario (Post-Revoluntary War Great Lakes British Brig-Sloop of War)
Canada, 1780
Ship's History:
HMS ONTARIO was built in 1779/80 at Carleton Island Shipyard located east
of the City of Kingston on the St. Lawrence River. She was the largest and most
powerful vessel on the Great Lakes in the immediate post-revoluntary war period.
Mounting 22 heavy guns, her military role was to deter an anticipated American
attack on Montreal via the Mohawk and St. Lawrence Rivers by supporting new
Loyalist ranger battalions in an aggressive policy of 'hit and run' raiding
along upper New York State. Weighing 226 tons, ONTARIO was 123 foot long to the
end of her bowsprit, and had a top-gallant mast of 100 feet above her keel.
ONTARIO floundered on Halloween night of 1780 in a sudden and violent hurricane
while en-route from Fort Niagara to Oswego. At least 88 men, women and children
perished, including her Captain - James Andrews. No wreckage was ever found and
only 6 bodies eventually washed up on shore. News of this great military loss
was kept secret for a number of years. To this day, the exact location of the
wreck remains a mystery. Many marine archeologists believe ONTARIO may remain in
pristine condition in her deep, cold fresh water grave in the depths of Lake
Ontario.