หุ่นยนต์ดำน้ำ / ดร.ชิต เหล่าวัฒนา
หุ่นยนต์ดำน้ำ / ดร.ชิต เหล่าวัฒนา
จาก
ASTVผู้จัดการออนไลน์
วันที่ 17 เมษายน 2552 06:44 น.
นอกจากหุ่นยนต์จะถูกใช้งานตามโรงงานอุตสาหกรรมการผลิตอย่างแพร่หลายอยู่ในขณะนี้
หุ่นยนต์ยังช่วยงานสำรวจระยะไกลอย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
หุ่นยนต์สำรวจที่มนุษย์พัฒนาขึ้นมานั้นมีหลายประเภทครับ ทั้งงานสำรวจอวกาศนอกโลก
การเข้าถึงแหล่งอันตราย อาทิเช่น
โรงไฟฟ้าปฎิกรณ์นิวเคลียร์ที่มีสารอันตรายรั่วไหลอยู่
หรือแม้กระทั่งห้างสรรพสินค้าที่มีการวางระเบิดก่อวินาศกรรม
หุ่นยนต์กู้ภัยที่ทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยสวัต (S.W.A.T Unit)
นั้นสามารถเอ็กเรย์วัตถุในกล่องปิดจนถึงการใช้ปืนฉีดน้ำความเร็วสูงทะลุผ่านผนังกล่องตัดสายชนวนระเบิดได้
ความเร็วสูงนี้เกิดการสร้างความกดดันทันทีทันใดในกระบอกอัด
แน่นอนครับว่าเป็นคนละประเภทกับปืนฉีดน้ำที่เราใช้เล่นกันในวันสงกรานต์
ท้องทะเลมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ไพศาลกว่าผืนแผ่นดิน
อุดมสิ่งมีชีวิตต่างๆที่มนุษย์เรายังมิได้พบเห็นเลย
ตลอดจนแร่ธาตุและก๊าซธรรมชาติมีอยู่มากมาย “หุ่นยนต์ดำน้ำ” หรือ
Remotely Operated
Underwater Robotic Vehicles จึงถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อใช้ในการสำรวจใต้ท้องทะเลลึก
ในเรื่องนี้คนไทยก็ไม่น้อยหน้าใครครับ ผศ.ดร.จักรกฤษณ์ ศุทธากรณ์ แห่งมหาวิทยาลัยมหิดล หัวหน้าทีมจัดสร้าง
ThaiXPole – An Underwater Robot for
Antarctica Exploration
หุ่นยนต์สำรวจใต้น้ำตัวแรกของไทยที่ได้ไปทำงานจริงสำหรับเก็บข้อมูลบริเวณขั้วโลกใต้ร่วมกับทีมนักวิทยาศาสตร์ไทย
หุ่นยนต์ดำน้ำประเภทนี้ใช้การควบคุมระยะไกล (Teleoperation)
เป็นหุ่นยนต์ที่มีความชาญฉลาดต่ำสุดเพราะต้องอาศัยการตัดสินใจของมนุษย์เป็นหลัก
ทั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่จำเป็นเพราะการสำรวจใต้ทะเล
ส่วนใหญ่เราไม่ทราบว่าต้องเผชิญกับอะไรบ้าง?
จะปล่อยให้หุ่นยนต์กระทำอะไรลงไปโดยพละการไม่ได้
อย่างไรก็ตามในระยะหลังนักวิจัยได้ใส่ความสามารถในการคำนวณทำให้หุ่นยนต์สามารถว่ายหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้บ้าง
โดยติดตั้งระบบการรับรู้ (Perception) เช่น Video Camera, Sonar, Inertial sensor,
Magnetometer และ GPS แต่เรายังใจไม่ถึงพอ
ไม่กล้าปล่อยให้เขาว่ายไปตามลำพังหรอกครับ จึงต้องมีสายควบคุม (Tether)
เชื่อมต่อสัณญาณระหว่างหุ่นยนต์กับศูนย์บังคับการบนเรือที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ
ทั้งนี้เนื่องจากระบบสัณญาณไร้สายยังทำงานผ่านน้ำได้ไม่ดีนัก
สายดังกล่าวยังรวมเอาสายไฟฟ้าส่งกำลัง
ในบางกรณีที่หุ่นยนต์ต้องทำงานหนักใต้น้ำเราจะใช้ท่อไฮดรอลิคส่งกำลังลงไปด้วย
ขอให้ท่านผู้อ่านเข้าใจลักษณะทางฟิสิกส์ว่า แม้เราจะได้ประโยชน์จากแรงลอยตัว
(Buoyancy force)
กระทำต่อวัตถุใต้น้ำทำให้หุ่นยนตืไม่ต้องออกแรงมากนักในการพยุงน้ำหนักตัวเอง
น้ำเองก็มีแรงเสียดทาน (Damping) ค่อนข้างสูง
การออกแรงทำงานทำงานใต้น้ำนั้นอาจใช้พลังงานมากขึ้น 2-3
เท่าเมื่อเทียบกับการทำงานบนบก เรื่องนี้เป็นประสบการณ์จริงของ
ทีมพัฒนาจากภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรี
ได้ออกแบบและสร้างเรือจัดเก็บผักตบชวาขนาดใหญ่ (40 ตัน)
สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพจนคูคลองหลายแห่งในกรุงเทพพระมหานครปลอดจากผักตบชวาได้
ในระยะต้นของการพัฒนานั้น
เราคิดว่าจะส่งใบเลื่อยความเร็วสูงไปตัดรากผักตบชวาใต้ผิวน้ำ
ผลลัพท์คือเราต้องใช้พลังงานมหาศาล ไม่คุ้มครับ จึงต้องเปลี่ยนแนวคิดเป็น
ฉุดลากผักตบชวาขึ้นมาตัดบนบกแทนครับ
หุ่นยนต์ดำน้ำถือกำเนิดขึ้นเช่นเดียวกับเทคโนโลยีอื่นๆ คือมาจากวงการทหารตั้งแต่ ปี
1960 จนพัฒนาเรื่อยมาสู่อุตสาหกกรรมการสำรวจน้ำมันใต้ทะเล
หุ่นยนต์ดำน้ำในปัจจุบันมีระยะทำงานลึกถึง 3,000 เมตร นอกจากเรื่องสำรวจแล้ว
หุ่นยนต์เหล่านี้ยังมีหน้าที่ดูแลและบำรุงรักษา (O&M: Operation and Maintenance)
ระบบท่อส่งแก๊ส-น้ำมันใต้ทะเลอีกด้วยครับ
การออกแบบหุ่นยนต์สำรวจเหล่านี้ สามารถดูได้จากหลักสูตรหุ่นยนต์ระดับบัณฑิตศึกษา:ปริญญาโท-เอก
ที่ สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (FIBO) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรี
นอกจากฟีโบ้จะเน้นเรื่องการวิจัยและพัฒนาวิทยาการหุ่นยนต์ที่จะเกิดขึ้นในระยะ 10
ปีข้างหน้าแล้ว ปรัชญาการศึกษายังคงยึดตามเจตนารมณ์ของผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัย
คือความสามารถในการออกแบบและสร้างขึ้นมาใช้งานในภาคสนามได้จริง
ในศาสตร์เรื่องหุ่นยนต์เคลื่อนได้ (Mobile Robotics)
เรามีหลักการสำหรับออกแบบหุ่นยนต์ดำน้ำดังต่อไปนี้ (1)
ข้อจำกัดเรื่องพลังงานในการขับเคลื่อน (2) สายเชื่อมต่อสัญญาณ และ (3)
ระดับการควบคุม: Degree of Autonomy
ในที่นี้ผมจะขอกล่าวถึงเรื่องที่มีความสำคัญมากในวงการหุ่นยนต์เสียก่อน
คือระดับการควบคุม
วิทยาการหุ่นยนต์ปัจจุบันครอบคลุมการทำงานของฟังก์ชั่นสำคัญของหุ่นยนต์ สามส่วนคือ
ส่วนการรับรู้ข้อมูล (Perception) จากสิ่งแวดล้อม แล้วส่งข้อมูลที่ได้รับมาไปที่
ส่วนการคิดและตีความหมาย (Cognition)
หลังจากประมวลผลแล้วก็จะสั่งการไปที่ส่วนการเคลื่อนที่/ เคลื่อนไหว
(Mobility/Movement)
ให้หุ่นยนต์นั้นสามารถทำงานในสิ่งแวดล้อมได้อย่างถูกต้องและมีสมรรถนะสูง
โปรดสังเกตว่าวงจรการทำงานของหุ่นยนต์มาบรรจบที่สิ่งแวดล้อมที่ๆเขาปฏิสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆ
รวมทั้งมนุษย์ด้วย
อุปกรณ์ตรวจวัดในส่วนการรับรู้ข้อมูล ใช้หาค่า ความลึก ทิศทาง อุณหภูมิ ความดัน
และอื่นๆ ตลอดจน
ตำแหน่งและมุมการเคลื่อนที่และการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์และสิ่งกีดขวาง
มีหลายประเภทใช้ได้ทั้งระยะสั้นและระยะไกล เช่น ระบบจีพีเอส Laser Range Finder,
อินฟาเรด, Inertial sensor หรือจนกระทั่งมีการใช้ ระบบกล้อง Stereo Vision
ที่เลียนแบบการมองเห็นของสองตามนุษย์
Degree of Autonomy
แบ่งเป็นขั้นๆบนพื้นฐานระดับความคิดและการตีความหมายของหุ่นยนต์ต่ำที่สุด
คือการนำค่าต่างที่ตรวจวัดได้ไปคำนวณเชิงสัมพัทธ์กับเวลาเพื่อสร้างสัญญาณไปที่ตัวขับ
เช่นมอเตอร์ไฟฟ้า เมื่อนำคอมพิวเตอร์มาช่วยประมวลผลตามโปรแกรมที่เขียนไว้
หุ่นยนต์จึงทำงานได้รวดเร็วและละเอียด สมรรถนะมีความเพี้ยน (Error) น้อยลง
เนื่องจากมีการควบคุมป้อนกลับของสัญญาณ (Feedback Control)
ทั้งจากข้อต่างๆของหุ่นยนต์และจากสิ่งแวดล้อม
หุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่ใช้งานกันอย่างแพร่หลายในขณะนี้
มีระดับความคิดเพียงเท่านี้เอง
การควบคุมหุ่นยนต์ประเภทนี้จึงต้องอาศัยความสามารถของมนุษย์เข้าช่วยตัดสินใจในบางกรณีที่อยู่นอกเหนือไปจากสิ่งที่เราโปรแกรมไว้
เราเรียกการควบคุมแบบนี้ว่า Supervisory Mode หรือ Semi Autonomous
ซึ่งถือว่ามีความเหมาะสมกับงานประยุกต์ในอุตสาหกรรมเพราะเป็นการผสมผสานของสมรรถนะหุ่นยนต์ด้านความละเอียดและความเร็วกับความรอบรู้ของมนุษย์ผู้ควบคุมหุ่นยนต์นั่นเอง
นอกจากนี้สิ่งแวดล้อมในสายการผลิตเรารู้อะไรอยู่ตรงไหนบ้าง (Structured
Environment) และสามารกนำตัวจับยึด (Fixtures)
มาช่วยลดความคลาดเคลื่อนของตำแหน่งทำให้ขบวนการผลิตแม่นยำขึ้น
อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบกับหุ่นยนต์ดำน้ำควบคุมโดยสาย ถือว่าอยู่ในระดับ
Tele-Operation ที่มนุษย์ต้องใช้ความพยายามในการบังคับหุ่นยนต์อย่างมาก
ระบบควบคุมหุ่นยนต์อุตสาหกรรมมีความซับซ้อนกว่ามาก
ในกรณีที่หุ่นยนต์ต้องทำงานโดยที่ไม่รู้ข้อมูลล่วงหน้ามากนักเกี่ยวกับสิ่งแวด ล้อม
เช่น Dante II
ที่ทีมนักวิจัยของมหาวิทยาลัยคาร์เนกี้เมลลอนสร้างขึ้นเพื่อสำรวจขั้วโลกใต้
ระดับความคิดและการประมวลผลต้องฉลาดพอให้หุ่นยนต์ทำงานหรือเอาตัวรอดในสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ่นยนต์ที่องค์การนาซ่าส่งขึ้นไปสำรวจดวงจันทร์ ดาวอังคาร
นั้นไม่รู้เลยว่าจะเจออะไรบ้าง
อีกทั้งระยะทางระหว่างดวงดาวที่หุ่นยนต์กำลังปฏิบัติการอยู่กับศูนย์บังคับการที่ฮุส
ตัน เท็กซัสบนโลกมนุษย์นั้นอยู่ห่างกันมาก การสื่อสารในลักษณะของ Supervisory Mode
จึงไม่เหมาะสม
ดังนั้นสัญญาณภาพของหุ่นยนต์ที่ส่งกลับมาเพื่อรายงานสถานการณ์ว่าเขากำลังยืนอยู่หน้าหลุมอุกกาบาตขนาดใหญ่เดินหน้าต่อไม่ได้และขอความเห็นว่าจะให้ทำอย่างไรต่อไปดี
ความเป็นจริง คือหุ่นยนต์อาจตกลงไปนอนแอ้งแม้งที่ก้นหลุมแล้วก็ได้
การควบคุมหุ่นยนต์ประเภทนี้จึงอยู่ขั้นสูงที่สุดคือ
Autonomous
หุ่นยนต์ต้องตัดสินใจได้เอง เราได้ผนวกปัญญาประดิษฐ์(Artificial Intelligence)
เข้าไป
เพื่อให้หุ่นยนต์เข้าใจข้อมูลทางสัญลักษณ์หรือภาพทางเรขาคณิตที่เห็นจนสามารถพลิกแพลงทางเลือกต่างๆได้
ตรรกะความคิดหุ่นยนต์ขั้นสูงสุดในปัจจุบันคือการเข้าใจท่วงทำนองการพูดของภาษามนุษย์
(Semantics) แยกแยะได้ระหว่างประโยด “พ่อขี่ควาย-แม่หาบหญ้า” กับ “พ่อขี่ควายแม่-หาบหญ้า”
โดยเข้าใจได้ทันที่ว่าในประโยคหลังนั้นมีเพียงคุณพ่อคนเดียวขี่ควายตัวแม่และหาบหญ้าไปด้วย
หุ่นยนต์รุ่นนี้จึงสามารถปฏิสัมพันธ์กับมนุษย์ได้เป็นอย่างดีครับ
ท่านผู้อ่านสามารถส่งข้อคิดเห็นเสนอแนะมาที่ผู้เขียนที่
djitt@fibo.kmutt.ac
เกี่ยวกับผู้เขียน -
ดร. ชิต เหล่าวัฒนา
ดร. ชิต เหล่าวัฒนา จบปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตร์ (เกียรตินิยม)
จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรี ไดัรับทุนมอนบูโช
รัฐบาลญี่ปุ่นไปศึกษาและทำวิจัยด้านหุ่นยนต์ที่มหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น
เข้าศึกษาต่อระดับปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยคาร์เนกี้เมลลอน สหรัฐอเมริกา
ด้วยทุนฟุลไบรท์ และจากบริษัท AT&T
ได้รับประกาศนียบัตรด้านการจัดการเทคโนโลยีจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งมลรัฐแมสซาชูเซสต์
(เอ็มไอที) สหรัฐอเมริกา
ภายหลังจบการศึกษา ดร. ชิต
ได้กลับมาเป็นอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรี
และเป็นผู้ก่อตั้งสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม หรือที่คนทั่วไปรู้จักในนาม “ฟีโบ้
(FIBO)” เป็นหน่วยงานหนึ่งในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ธนบุรี
เพื่อทำงานวิจัยพื้นฐาน และประยุกต์ด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์
ตลอดจนให้คำปรึกษาหน่วยงานรัฐบาล เอกชน และบริษัทข้ามชาติ (Multi-national
companies) ในประเทศไทยด้านการลงทุนทางเทคโนโลยี
การใช้งานเทคโนโลยีอัตโนมัติชั้นสูง
และการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ
และเป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกของประเทศไทยที่เปิดสอนระดับปริญญาโทสาขาวิทยาการหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติโดยเฉพาะ