ตำนานรักคอนพะเพ็ง ไนแองการ่าแห่งสุวรรณภูมิ
ตำนานรักคอนพะเพ็ง ไนแองการ่าแห่งสุวรรณภูมิ
จาก
ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 11 กรกฎาคม 2552
โดย
ทีมข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ภาพประกอบจาก โอเชี่ยนสไมล์ ดอท คอม
(0ceansmile.Com)
น้ำตกคอนพะเพ็งที่เชี่ยวกราก
12 พฤษภาคม ร.ศ. 122 ....อาณาจักรรัตนโกสินทร์ เสียดินแดนสุวรรณภูมิ พื้นที่ประมาณ
25,500 ตารางกิโลเมตร คือบริเวณ แขวงจำปาสัก กับ ไซยะบุลี ให้แก่ฝรั่งเศส
ปัจจุบันเป็นของ สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว
...หากเดินทาง ย้อนประวัติศาสตร์ เข้าสู่ พื้นที่แห่งนี้ อันมีอาณาเขตติดต่อกับ
จังหวัดอุบลราชธานี ณ จุดผ่านแดนที่ ช่องเม็ก ตามเส้นทางอำเภอวารินชำราบ-พิบูลมังสาหาร
และโขงเจียม
อีกมุมหนึ่งของคอนพะเพ็งที่ถูกระเบิดหน้าผาในอดีต
จากจุดผ่านแดนไปราวๆ 43.3 กิโลเมตร ถึงเมือง ปากเซ นครหลวงของแขวงจำปาสัก
ถือเป็นจุดศูนย์กลางในการที่จะเข้าไปสัมผัสกับมรดกทางธรรมชาติ
ซึ่งหากเดินทางต่อตามเส้นทางหมายเลข 13 ลงใต้ประมาณ 167 กิโลเมตร ติดกับ ชายแดนลาว-กัมพูชา
แม่น้ำโขง (แม่น้ำของ) บริเวณนี้ ได้แผ่ขยายแผ่นน้ำจากฝั่งถึงฝั่งกว้างถึง 14
กิโลเมตร และปริมณฑลที่กว้างใหญ่นี้ มีเกาะใหญ่น้อยเกิดขึ้นมากกว่า 4,000 เกาะ
ตามภาษาท้องถิ่น จะเรียกเกาะว่า ดอน จึงเป็นที่มาของคำว่า สี่พันดอน...แล้วเพี้ยนมาเป็น
สีพันดอน ในปัจจุบัน
ธรรมชาติได้รังสรรค์แม่น้ำให้ต่าง ระดับ จึงเกิดน้ำตกสลับซับซ้อนกัน กว้าง บ้าง
แคบบ้าง เหลื่อมล้ำกันตามความกว้างของแม่น้ำ เหมือนกับ ไนแองการ่า อันเป็น
เส้นแบ่งพรมแดนสหรัฐอเมริกากับแคนาดา ซึ่งอดีตเคยติดอันดับ 1 ใน 7
สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
น้ำตกคอนพะเพ็งมีร้านอาหาร ปลา่ย่าง ส้มตำ แซ่บๆ
อยู่หลายร้าน
สำหรับ....ไนแองการ่าแห่งดินแดนสุวรรณภูมิ มีจุดที่สวยงามหลายแห่ง
ที่เด่นกว่าเพื่อนคือ หลี่ผี กับ คอนพะเพ็ง
โดยยืนหยัดความงามท้าทายนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ให้สัมผัสได้ทุกฤดูกาล
น้ำตกหลี่ผี...หากเดินทางตามถนนหมายเลข 13
ต้องนั่งเรือข้ามไปฝั่งฟากขวาของแม่น้ำ จึงจะได้สัมผัส ลักษณะน้ำตกแห่งนี้คล้ายกับ
น้ำที่ไหลเข้าไปในหลี่ อันเป็นเครื่องมือจับสัตว์น้ำของชาวอีสาน และ ลาว
โดยใช้ไม้ไผ่สานเป็นแผ่นยาวคล้ายกับสะพาน ส่วนด้านข้างก็กั้นเป็นขอบสูง
เมื่อน้ำไหลเข้าก็จะรั่วออก คงเหลือแต่ปลาติดค้างอยู่ในหลี่
จากนั้นก็จับไปเป็นอาหารสบายๆ
....ชื่อก็คงมาจาก คลื่นกระแสน้ำบริเวณนี้
ไหลตกไปตามซอกหินคล้ายๆกับน้ำที่ไหลลงหลี่ และด้วยความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น
คนโบราณเข้าใจกันว่าผีเป็นผู้สร้าง จึงเรียกว่า หลี่ผี
และ...ตามลำน้ำจะ มีช่องน้ำไหลออกมาเป็นร่องเป็นรู ซึ่งก็แล้วแต่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก
ชาวบ้านเรียกว่า ฮู (รู) สะโฮง เมื่อถึงฤดูปลาวางไข่จะว่ายน้ำสวนขึ้นทางนี้ และ
พอถึงฮูสะโฮงก็จะกระโดดข้ามน้ำขึ้นไปสู่ เบื้องบน ชาวประมงจะ
ดักรอเพื่อจับปลากระโดด เหล่านี้...ส่วนจะได้มากได้น้อยก็แล้วแต่ว่าใครจะ หมาน (โชคดี)
หลี่ผีความงามที่ไม่แพ้คอนพะเพ็ง
ส่วน คอนพะเพ็งนั้น เป็นน้ำตกที่กว้างใหญ่กว่าช่องน้ำตกอื่น และสูงถึง 12 เมตร
มีแก่งหินขนาดใหญ่มหึมาขวางกั้นทางเดินของน้ำ และในอดีต
ตรงที่หน้าผาที่น้ำตกเป็นถ้ำ เมื่อน้ำไหลผ่านลงสู่เบื้องล่าง
จึงเกิดคลื่นเสียงในระดับสูงต่ำคล้ายๆกับเสียงเพลง จึงเรียกว่า ดอนเพลง
ต่อมานานเข้าจึงแผลงไปเป็น คอนพะเพ็ง
ด้วยน้ำของบริเวณแห่งนี้ กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก ในอดีตทหารฝรั่งเศสนำเรือแล่น
ทวนน้ำขึ้นมาเพื่อขนทรัพยากรจากลาว แล้วมาติดอยู่ตรงแห่งนี้ จึงทำการระเบิดหินเพื่อ
ให้เป็นช่องทางเดินเรือ แต่ก็ทำไม่สำเร็จเพราะน้ำเชี่ยวมาก
มรดกชิ้นนี้จึงยังคงไว้ให้ชาวโลกได้สัมผัส...แม้จะลดความงามลงไปบ้างแต่ก็ยังคงเสน่ห์ของธรรมชาติที่ไม่มีวันจืดชืด
นายบริสุทธิ ประสพทรัพย์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายโฆษณาและประชาสัมพันธ์
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เปิดหนังสือตำนานภาษาลาว แล้วเล่าภาษาไทยให้ฟังว่า
.....อดีตสามีภรรยาคู่หนึ่ง ชื่อ ท้าวข่า กับ นางสีดา
ซึ่งรักกันมากอาศัยอยู่บนเกาะสีพันดอน และได้ ให้คำมั่นสัญญากันว่า
สามีจะทำมาอาชีพหาเลี้ยงภรรยาแม้ชีวิตจะหาไม่
เส้นทางสู่แก่งหลี่ผี
วันหนึ่งทั้งคู่จึงออกจับปลาตามลำแม่น้ำของ จนกระทั่งเพลินลืมตัว เรือจึงลอยไปสู่
กระแสน้ำเชี่ยวพัดเข้าไปในร่องน้ำตกคอนพะเพ็ง (เหตุการณ์คงจะเกิดก่อนที่ทหารฝรั่งเศสระเบิดหน้าผา)
หล่นลงมากระแทกหินจมน้ำตาย ด้วยแรงสัจสัญญา ท้าวข่าไปเกิดเป็นโลมาอิรวดี
ส่วนนางสีดาเกิดเป็นนกนางนวล
ซึ่ง....ในช่วงฤดูหนาว ปลาโลมาจะมาว่ายเวียนอยู่บริเวณทะเลสาบใต้น้ำตก
แล้วใช้ปากดีดปลาในบริเวณนี้ให้กระเด็นลอยขึ้นบนอากาศ
แล้วนกนางนวลก็จะบินมาเฉี่ยวโฉบคาบเอาปลาไปกินเป็นอาหาร
(ชาวลาวจะเรียกโลมาว่า ปลาข่า นกนางนวลคือ นกสีดา ตามชื่อของ 2 สามีภรรยา)
ชาวประมงกับการหาปลาที่อูสะโฮง.
ตำนานรักไนแองการ่าแห่งสุวรรณภูมิ ได้เล่าขานจากปากต่อปากสืบมาหลายชั่ว ศตวรรษ....
จนกลายเป็น รักอมตะ แห่ง นิจนิรันดร.