ปลาโนรี ธงทิวใต้ทะเลลึก - วินิจ รังผึ้ง
ปลาโนรี ธงทิวใต้ทะเลลึก / วินิจ รังผึ้ง
จาก
ASTVผู้จัดการออนไลน์ วันที่
16 มีนาคม 2553
โดย :
วินิจ รังผึ้ง
ในบริเวณแนวปะการังที่เราดำน้ำกันบ่อยๆ มักจะพบเจ้าปลาที่มีสีสันสดใส ลวดลายสวยงาม
ตัวขนาดฝ่ามือ ว่ายวนเวียนไปมา แวะตอดแวะตอมไปตามกิ่งก้านปะการัง
ราวกับผีเสื้อแสนสวยที่โบยบินตอมดอกไม้ในผืนป่า
ด้วยสีสันอันสดใสและกิริยาอาการดังกล่าว ปลากลุ่มนี้จึงถูกเรียกว่าปลาผีเสื้อหรือ
Butterflyfish อยู่ในครอบครัว Chaetodontidae
ซึ่งเป็นปลาที่มีญาติพี่น้องในกลุ่มเดียวกันนับร้อยชนิด
พบได้ทั้งทะเลฝั่งอันดามันและฝั่งอ่าวไทย ซึ่งในเมืองไทยมีรายงานการพบราว 40 ชนิด
โดยทางฝั่งทะเลอันดามันจะพบได้มากชนิดกว่า
ปลาในกลุ่มที่มีลักษณะใกล้เคียงกับปลาผีเสื้อก็คือกลุ่มปลาสินสมุทร จจะใหญ่กว่า
แต่ก็มีปลาสินสมุทรหลายชนิดที่ตัวใกล้เคียงหรือเล็กกว่าปลาผีเสื้อ
แต่การแยกชนิดปลาทั้งสองออกจากกันได้ง่ายๆ
โดยสังเกตตรงที่ปลาสินสมุทรทุกตัวจะมีเงี่ยงใต้แก้มหรือบริเวณกระบังเหงือก
ในขณะที่ปลาผีเสื้อจะไม่มีเงี่ยงดังกล่าว
ปลาผีเสื้อส่วนใหญ่มีลำตัวรูปร่างแบนทรงรูปไข่ ปากเล็กยื่นยาวไปข้างหน้า
บางชนิดก็มีปากยื่นยาวแหลม
เหมาะสำหรับการตอดกินปะการังและสัตว์ทะเลขนาดเล็กที่อาศัยอยู่ตามซอกหลืบปะการัง
ปลาผีเสื้อจะออกหากินเป็นคู่ ๆ ในตอนกลางวันโดยจะว่ายคลอเคลียกันไปอย่างน่าอิจฉา
ชนิดที่มีคำเตือนว่านักดำน้ำที่กำลังอกหักไม่ควรมอง
เพราะอาจจะกระทบกระเทือนต่อจิตใจได้ บางชนิดอาจพบเป็นกลุ่มย่อย ๆ ไม่เกิน 10 ตัว
นาน ๆ ครั้งจะพบการรวมกลุ่มเป็นฝูงใหญ่ๆ 20-30 ตัวสักครั้ง เช่นปลาผีเสื้อคอขาว
แนวปะการังอันกว้างใหญ่ใต้ท้องทะเลคราม
ปลาผีเสื้อนับเป็นตัวสร้างสีสันและความมีชีวิตชีวาให้กับแนวปะการังเป็นอย่างยิ่งและหนึ่งในกลุ่มปลาผีเสื้อที่โดดเด่นก็คือ
“ปลาโนรี” ซึ่งเป็นปลาผีเสื้อในกลุ่มปลาผีเสื้อที่มีสีสันลวดลายสวยงามสะดุดตา
มีรูปทรงของลำตัวที่เป็นเอกลักษณ์ ด้วยรูปทรงของลำตัวที่แบนและกว้าง
จงอยปากทู่ยื่นออกไปข้างหน้าเล็กน้อย ครีบหลังที่มีก้านแข็งราว 11-12 อัน
โดยมีครีบอันที่ 4 ตั้งยาวพลิ้วโดดเด่น ลำตัวสีขาวมุก คาดดำ
ครีบหลังและหางมีสีเหลือง
ปลาโนรีที่เราพบเห็นกันบ่อยตามแนวปะการังก็คือ
ปลาโนรีครีบยาว (Longfin Bannerfish)
ที่มีครีบหลังตั้งยาวโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
ปลาโนรีครีบยาวนั้นเมื่อว่ายน้ำไปทางไหนก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนโดดเด่น
ยิ่งเมื่อรวมตัวกันเป็นฝูงใหญ่นับร้อยตัวด้วยแล้ว
เมื่อยามที่มันว่ายน้ำเคลื่อนขบวนไปทางไหนก็จะมองดูเหมือนธงทิวปลิวไสว
ลำตัวสีขาวคาดดำสลับสีเหลืองสดใสเมื่อตัดกับสีฟ้าครามยิ่งดูงดงามสะดุดตา
ปลาโนรีที่พบได้บ่อยอีกชนิดหนึ่งก็คือ ปลาโนรีครีบสั้น
(Singular Bannerfish ) ซึ่งมีขนาดลำตัวใหญ่กว่าโนรีครีบยาว
แต่ครีบบนหลังสั้นกว่าและมีสีออกเหลืองเข้มกว่า
แต่มีปริมาณน้อยและพบเห็นได้ยากกว่าปลาโนรีครีบยาว และอีกชนิดเป็น
ปลาโนรีหน้าหักหรือโนรีเขา (Phantom Bannerfish )
ซึ่งมีเขาหรือนอแหลมยื่นออกมาบนหน้าผากเหนือดวงตา มีแต่ครีบแข็งตั้งบนหลัง
ไม่มีครีบยาวยื่นออกมา ปลาโนรีชนิดนี้มีสีออกน้ำตาลคาดขาว ดำ
และค่อนข้างจะหายากกว่าปลาโนรีทั้งสองชนิดข้างต้น
ปลาโนรีครีบสั้น กับปลาโนรีหน้าหักนั้น บางคนอาจจะไม่นึกว่าเป็นปลาโนรี
เพราะรูปร่างหน้าตาไม่ค่อยสวยงามเหมือนเช่นปลาโนรีครีบยาว และสีสันยังดูหม่นมอ
ซ้ำยังชอบอาศัยอยู่ตามกองหินหรือแนวปะการังที่มีสภาพน้ำขุ่นกว่าปลาโนรีครีบยาว
ในขณะที่คนจำนวนไม่น้อยกลับไปเข้าใจว่าปลาที่มีรูปร่างหน้าตาและมีสีสันเหมือนกับปลาโนรีครีบยาวและมักเข้าใจผิดว่ามันเป็นปลาโนรีเช่นกัน
นั่นคือ ปลาผีเสื้อเทวรูป ซึ่งมีหน้าตา สีสันลวดลายบนลำตัวเหมือนปลาโนรีครีบยาวมาก
แต่ปลาผีเสื้อเทวรูปก็ไม่ได้จัดอยู่ในกลุ่มปลาโนรี
ด้วยมีความแตกต่างกันตรงที่ปลาผีเสื้อเทวรูปจะมีผิวหนังละเอียดเป็นมันวาว
ลักษณะใกล้เคียงกับปลาขี้ตังเบ็ดฟ้า
ในขณะที่ปลาโนรีครีบยาวจะมีเกล็ดที่มองเห็นได้ชัดเจนกว่า
เราจะพบปลาโนรีได้ตามกองหิน หรือแนวปะการังในระดับความลึกตั้งแต่ 2-70 เมตร
ปลาโนรีชอบอาศัยอยู่ในน้ำทะเลที่ใสสะอาด และเป็นปลาที่ชอบว่ายอยู่กลางน้ำ
หรือว่ายอยู่เหนือแนวปะการัง
ไม่ชอบว่ายซอกซอนไปตามแนวปะการังเหมือนปลาผีเสื้อชนิดอื่นๆ
ปลาโนรีที่รวมฝูงมักจะชอบว่ายเวียนตามกันไป
บางครั้งเมื่อตัวหนึ่งว่ายเข้าไปติดในลอบที่ชาวประมงดักไว้
พรรคพวกที่เหลือก็มักจะว่ายตามเข้าไปติดลอบกันทั้งฝูง
แต่ชาวประมงที่วางลอบส่วนใหญ่ก็จะเน้นดักปลาที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้
ดังนั้นเมื่อกู้ลอบติดปลาโนรีขึ้นมาก็มักจะจับโยนทิ้งให้แห้งตายโดยไม่ได้นำไปทำประโยชน์อะไร
ด้วยสีสันและรูปทรงที่สวยงามโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์
ปลาโนรีจึงมักถูกจับขึ้นมาเลี้ยงเป็นปลาตู้
ตามบ้านเรือนหรือเลี้ยงไว้โชว์ในอควาเรียม
แต่ปลาชนิดนี้ก็ชอบใช้ชีวิตอยู่ในธรรมชาติ
มันต้องการอาณาเขตของการว่ายเวียนหากินในผืนน้ำกว้าง
และชอบหากินอาหารอันหลากหลายตั้งแต่โพลิบของปะการัง กุ้งปลาขนาดเล็ก
ไปจนถึงแมงกะพรุนที่ล่องลอยอยู่กลางน้ำ
เมื่อนำมาเลี้ยงในตู้โอกาสรอดชีวิตจึงแทบไม่มี
ทางที่ดีจึงควรปล่อยให้ปลาสวยงามเหล่านี้ใช้ชีวิตอย่างเสรีในท้องทะเลกว้าง
เมื่อคิดถึงจึงค่อยแวะมาดำลงไปชื่นชมจะดีกว่า.