ในทะเลมีจุลชีพที่มองไม่เห็น หนักเท่าช้างแอฟริกันล้านล้านตัว
ในทะเลมีจุลชีพที่มองไม่เห็น หนักเท่าช้างแอฟริกันล้านล้านตัว
จาก
ASTVผู้จัดการออนไลน์ วันที่
21 เมษายน 2553
ภาพประกอบทั้งหมดจากบีบีซีนิวส์
ในอดีตเชื่อว่า
ในท้องทะเลมีสิ่งมีชีวิตที่มองไม่เห็นเพียงไม่กี่เซลล์
แต่จากการศึกษาของทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติกว่า 2,000 คน
พบว่าในน้ำทะเลมีจุลชีพขนาดเล็ก อัดแน่นหลายล้านเซลล์
ซึ่งคิดเป็นน้ำหนักของช้างแอฟริกาได้ถึง 2.4 ล้านล้านตัวเลยทีเดียว
การสำรวจของนักวิทยาศาสตร์กว่า 2,000 คน จาก 80 ประเทศ
ในโครงการสำรวจประชากรจุลชีพทางทะเลนานาชาติ (International Census of Marine
Microbes) หรือ ICoMM ยังพบ “แถบจุลชีพ” (microbial mat)
ซึ่งทีมสำรวจในชิลีได้พบแถบจุลชีพนี้
ครอบคลุมพื้นที่เทียบเท่ากับประเทศกรีซในชายฝั่งตะวันออกและตะวันตกของอเมริกาใต้
และนับเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของการค้นพบนี้ด้วย
สำหรับแถบจุลชีพนี้ พบในทะเลชั้นออกซิเจนต่ำ (oxygen minimum layers: OML)
ซึ่งเป็นบริเวณที่มีออกซิเจนอยู่เล็กน้อย หรือแทบไม่มีเลย และทีมวิจัยยังพบอีกว่า
ชุมนุมของจุลชีพเหล่านี้ เจริญเติบโตได้ดีในบริเวณที่มีไฮโดรเจนซัลไฟด์
ซึ่งเป็นสารมีพิษต่อสิ่งมีชีวิตทั่วไป
และเป็นสารที่เกิดจากการสลายของวัตถุอินทรีย์ในสภาพแวดล้อมที่ขาดออกซิเจน
วิคเตอร์ กาล์ลาร์โด (Victor Gallardo)
รองประธานคณะกรรมการสำรวจประชากรทางวิทยาศาสตร์ (Census Scientific Steering
Committee) กล่าวว่า แถบจุลชีพนี้คล้ายกับระบบนิเวศน์ที่มีอยู่บนโลกเมื่อประมาณช่วง
2.5 พันล้านปี - 650 ล้านปีก่อน
ทั้งนี้ บีบีซีนิวส์รายงานว่า
การค้นพบนี้ได้ประเมินสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งคิดเป็น 90%
ของชีวมวลในท้องทะเล โดยโครงการ ICoMM นี้ เป็น 1 ใน 4
โครงการย่อยของโครงการสำรวจประชากรสิ่งมีชีวิตทางทะเล (Census of Marine Life) หรือ
CoML ซึ่งดำเนินงานมากว่าทศวรรษแล้ว โดยเมื่อช่วงทศวรรษปี 1950
นักวิทยาศาสตร์ประมาณว่าในน้ำทะเล 1 ลิตรนั้นจะพบสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กประมาณ 100,000
เซลล์ แต่ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยียุคใหม่
นักวิทยาศาสตร์คาดว่าจะมีจุลชีพน้ำทะเลปริมาณเดียวกันนี้นับล้านล้านเซลล์
ด้านเอพีรายงานว่า การสำรวจประชากรนานนับทศวรรษนี้
ได้พบสิ่งมีชีวิตทางทะเลรูปแบบใหม่ๆ กว่า 5,000 ชนิด
และทีมนักวิจัยคิดว่าน่าจะมีสิ่งมีชีวิตที่ยังไม่พบอีก 2-3 เท่าของชนิดที่พบแล้ว
โดยการสำรวจล่าสุดก่อนนั้นได้พุ่งความสนใจไปที่สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่
อย่างเช่นชุมชนดาวเปราะ (brittle star) ที่ชายฝั่งนิวซีแลนด์
เส้นทางพิเศษในแอนตาร์กติกาซึ่งหมึกยักษ์สัญจรไปในกระแสน้ำเค็มพิเศษ
ซอกมุมลึกที่สุดที่จะพบแมงกะพรุน และคาเฟ่ฉลามขาว (White Shark Cafe)
บริเวณน้ำลึกของมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเป็นบริเวณที่ฉลามขาวไปรวมตัวกัน
ตอนนี้นักวิจัยให้ความสำคัญในสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กๆ
ซึ่งบางชนิดซ่อนตัวอยู่ในที่พื้นทะเล
โดยการสำรวจได้พบหนอนกลมที่หุบเหวลึกที่สุดและมืดที่สุด
และโคลนอ่อนเพียงตารางวาเดียวมีหนอนกลมนี้รวมกันอยู่กว่า 500,000 ตัว
แต่มีเพียงไม่กี่ชนิดเท่านั้นที่มีการศึกษา มีหนอนทะเลกว่า 16,000 ชนิด
มีสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังจำพวก “ลอริซิเฟอรา” (loriciferan)
ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เรียกว่า “ตัวคาดเอว” (girdle wearer) เนื่องจากมีเปลือกด้านหลัง
คล้ายเสื้อรัดทรงของผู้หญิง และยังพบสัตว์เปลือกแข็งหรือครัสเตเชียน (crustacean)
อีกหลายร้อยชนิด
“การค้นพบเช่นนี้ ได้เปลี่ยนมุมมองของเราต่อทะเลลึกใหม่
ต่างไปจากทะเลทรายห่างไกลที่ไร้สิ่งมีชีวิต
ทะเลลึกได้เผยให้เห็นระบบนิเวศน์ที่มีความหลากหลายสูง
เช่นเดียวกับป่าฝนเขตร้อนและแนวปะการัง” เปโดร มาร์ติเนซ อาร์บิซู (Pedro Martinez
Arbizu) นักวิจัยจากศูนย์วิจัยความหลากหลายทางทะเลของเยอรมนี (German Center for
Marine Biodiversity Research) ให้ความเห็น
ในปี 2004 นักวิทยาศาสตร์ได้จำแนกแพลงก์ตอนสัตว์ (zooplankton) ประมาณ 7,000
สปีชีส์ และตอนนี้นักวิทยาศาสตร์คาดว่า
เมื่อพวกเขาจำแนกสิ่งมีชีวิตจากการสำรวจประชากรทั้งหมดจะมีแพลงก์ตอนสัตว์มากกว่าที่จำแนกไว้ถึง
2 เท่า ทั้งนี้แพลงก์ตอนสัตว์ขนาดเล็กนั้นมักโปร่งแสง มองทะเลผ่านได้ง่าย
บางครั้งแรียกว่า “แมลงทะเล” (sea bug)
ซึ่งสิ่งมีชีวิตนี้มีความสำคัญต่อการเชื่อมโยงห่วงโซ่อาหาร
จากการกระบวนการวิเคราะห์ดีเอ็นเอซึ่งมีการปรับปรุงจากเดิมนั้น ทีมวิจัยพบว่าปลา 3
ชนิดที่คิดว่าต่างสายพันธุ์กันนั้น แท้จริงแล้วเป็นสิ่งมีชีวิตสปีชีสส์เดียวกัน คือ
มิราพินนิเด (Mirapinnidae) หรือปลาเทปเทล (tapetails) เมกาโลมายทีริเด (Megalomycteridae)
หรือปลาบิ๊กโนสฟิช (bignose fishes) และเซโตมิมิเด (Cetomimidae) หรือปลาเวลฟิช (whalefishes)
โดยปลาเทปเทลนั้นเป็นตัวอ่อน
เมื่อเจริญเติบโตขึ้นจะกลายเป็นปลาบิ๊กโนสซี่งเป็นเพศเมีย
หรือปลาเวลฟิชซึ่งเป็นเพศผู้
จากการเก็บตัวอย่างจากจุดสำรวจกว่า 1,200 จุด นักวิทยาศาสตร์สรุปว่าอาจพบสกุล
(Genus) ของจุลชีพในทะเลมากกว่าที่คิด 100 เท่า โดยในการศึกษาเมื่อปี 2007
เฉพาะที่ช่องแคบอังกฤษ (English Channel)
แห่งเดียวพบสกุลใหม่ของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กถึง 7,000 สกุล
ทั้งนี้ สกุลเป็นลำดับจำแนกประเภทสิ่งมีชีวิตซึ่งอยู่ระหว่างวงศ์ (family)
และสายพันธุ์ (species) เช่น คน
สุนัขและม้าอยู่ในวงศ์สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเช่นเดียวกัน แต่อยู่ต่างสกุลกัน
โดยคนอยู่ในสกุลโฮโม (homo) สุนัขอยู่ในสกุลแคนิส (canis) และม้าอยู่ในสกุลอีคูส (equus)
ประมาณว่า ในท้องทะเลมีจุลชีพอยู่จำนวน 1030 เซลล์ หรือที่เรียกว่า “โนนิลเลียน”
(nonillion : จำนวนล้านล้านล้านล้านล้าน) หรือเปรียบเทียบกับช้างแอฟริกาได้ว่า
จุลชีพในจำนวนดังกล่าวหนักเทียบเท่ากับช้างแอฟริกา 2.4 ล้านล้านตัว
หากเทียบกับจำนวนประชากรโลก จะได้ช้างไปคนละ 35 ตัวกันเลยทีเดียว.