แสมสาร นิรันดร์กาลของคนตกปลา
'แสมสาร' นิรันดร์กาลของคนตกปลา
จาก
ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์ วันที่
20 พฤษภาคม 2554
Destination 130
เรื่อง : ภาพ นพพร ยรรยง
คงไม่ผิดแปลกอะไรหรอกมั้ง? หากสุดสัปดาห์นี้ ผมอยากลองไปใช้ชีวิตบนเรือสักหนึ่งวัน
หนึ่งคืน หลังฟังคำชักชวนจากเพื่อนร่วมก๊วนเสร็จสิ้น การเดินทางก็เริ่มต้น...แบบไม่มีใครสักคนรู้ว่าจะเจออะไรบ้างในปลายทางอ่าวไทย
เพราะทะเลไม่เคยไว้ใจได้ และทะเลก็อารมณ์แปรปรวนยิ่งกว่าสาวแรกรุ่นเสียอีก
บ่ายคล้อยๆ ตะวันอ่อนแรง คนเมืองหนึ่งกลุ่มกับนักตกปลาผู้ช่ำชองอีก 2-3
คนก็เดินทางมาถึง “แสมสาร”
เราใช้เวลาเพียงครู่ในการถ่ายเทอุปกรณ์และข้าวของก่อนจะมุ่งหน้าสู่ทะเลกว้างด้วยเรือตังเกขนาดย่อม
ที่วันนี้พื้นที่ 17 เมตร จากหัวเรือยันท้ายเรือ
ดูจะเต็มไปด้วยกลิ่นสาปชาวกรุงกับข้าวของพะรุงพะรัง แต่อีกไม่นานหรอก
ท้องทะเลจะสอนบทเรียนหลายอย่างแก่เรา
วันนี้คลื่นลมเป็นยังไงบ้างครับ “จะเอาอะไรแน่นอนกับทะเลพ่อหนุ่ม
ทะเลน่ะเหมือนกับมนุษย์เรานี่ล่ะ ไว้ใจไม่ได้หรอก” ไต้ก๋งจันทร์ตอบผมทันควัน
ก่อนจะมุ่งหน้าออกสู่ทะเลกว้าง เมื่อทุกคนเลือกสรรหาที่ทางบนเรือเสร็จสิ้น
ไม่ทันไรคลื่นลูกโตก็บรรจงจูบลงบนลำเรือเข้าอย่างจังดัง..จ๊วบใหญ่!
ก่อนจะถาโถมเข้ากอดรัดรอบลำแบบไม่หยุดหย่อน
“ชอบปลาใหญ่ใช่ไหม ถ้างั้นก็ต้องตรงนี้ล่ะ ปลาใหญ่มันชอบว่ายตรงกระแสน้ำแรงๆ”
ไต้ก๋งบอกพวกเรา แต่ดูจากอาการยืนไม่ตรง หัวหมุนของหลายคนแล้ว
คงไม่มีคำตอบอะไรจะดีไปกว่า การย้ายจุด หลบข้างเกาะแสมสารจะดีกว่า
เสียงโอ๊ก ...อ๊าก ดังมาทางท้ายเรือ คงมิใช่เสียงสำรอกของนักร้องร็อกแน่นอนครับ
นั่นคือ เสียงครวญครางจากหนุ่มน้อยที่ร้องขอต่อทะเล
ค่ำนี้ปลาหลายตัวคงจะมีมื้อใหญ่กินกัน
ก่อนฟ้าจะมืดลงได้พบของขวัญชิ้นใหญ่แก่สายตานักเดินทาง
ด้วยฟ้าหลากสีที่ตัดสะท้อนกับผืนน้ำ
ก่อนที่ความมืดจะคลุมท้องทะเลให้คงเหลือเพียงแสงจันทร์กับแสงไฟในเรือ
ดินเนอร์กลางทะเลที่ฝันถึงกำลังจะเริ่มขึ้น
ท่ามกลางหลายเสียงที่อยากได้อาหารทะเลสดๆ มาร่วมวง
แต่ความหิวยังไม่อนุญาตให้ทำอย่างนั้น ค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล
มื้อดึกยังรอเราอยู่ครับ ว่าแล้วไต้ก๋งก็ประเดิมตกหมึกคนแรก
ยังไม่ทันไรด้วยจังหวะการดึงสายเอ็นยกขึ้น ยกลงอย่างช่ำชอง
ปลาหมึกก็หลงกลคิดว่าเป็นการเคลื่อนไหวของเหยื่อ ก็ติดกับเข้าอย่างจัง
บางคนอาจเกลียดการรอคอย แต่บางครั้งการรอคอยก็ทำให้ได้สิ่งที่คุ้มค่า
การตกหมึกหนนี้ก็เช่นกัน ขึ้น 6 ค่ำ พระจันทร์จะลับขอบฟ้าประมาณ 5 ทุ่มกว่าๆ
นักล่าผู้ช่ำชองบอกกับเรา แล้วก็เป็นตามนั้นจริงๆ เมื่อถึงเวลา ไต้ก๋งค่อยๆ
หรี่ไฟข้างลำเรือลงทีละดวงๆ จนท้ายสุดเหลือเพียงดวงเดียวที่ใช้ส่องลงผืนน้ำ
ก็ปรากฏภาพฝูงปลาหมึกขาวโพลนแหวกว่ายอยู่เต็มผืนน้ำ
คืนนี้น่าจะมีมื้อใหญ่รอบดึกอย่างแน่นอนครับ
ยังไม่ทันขาดคำ เพื่อนร่วมเรือก็ตกหมึกได้คนละตัวสองตัว แล้วคนอื่นๆ
ก็ตกได้ตามกันมา มนุษย์เรามีความเป็นนักล่าในสายเลือดจริงๆ
จนเกิดเป็นมื้อใหญ่กลางดึกที่ทั้งสด อร่อย
แต่ค่ำคืนนี้ทะเลไม่ปล่อยให้เราได้นอนหลับกันสบายหรอก
เพราะคลื่นลมยังคงแสดงอารมณ์หงุดหงิดตลอดทั้งคืน
เพียงลืมตา...ความโคลงโคลงก็กลับมาอีกครั้ง
มื้อเช้านี้ไม่พ้นของที่หามาได้จากคืนวาน แต่ร่ำๆ
ว่าเช้านี้มีคนอยากออกไปตกปลาตรงจุดที่น้ำทะเลเชี่ยวหน่อย เผื่อจะได้ปลาใหญ่
ลงเรือลำเดียวกันแล้วจะขัดใจกันได้อย่างไรล่ะครับ แต่โชคร้ายหรือดีไม่ทราบ
คลื่นลมแรงมาก จนไต้ก๋งต้องรีบพาเรือกลับเข้ามาหลบหลัง เกาะจวง เกาะจันทร์
เพราะคลื่นลมเช้านี้ดูโหดร้ายเกินกว่าที่จะเสี่ยงนำเรือข้ามไปหน้าอ่าว
แล้วสุดท้ายทั้งหมดก็ตกลงทอดสมอลอยลำตกปลา
ตรงจุดที่กระแสน้ำเบาลงเพราะมีเกาะทั้งสองช่วยบังคลื่นลม
แต่ถึงอย่างนั้นคลื่นลมก็ยังตามมาเล่นงานเราเป็นระยะ
ยังไงซะถ้ามาทะเลแล้วไม่มีคลื่นคงคล้ายกับไปภูเขาแต่ไม่ได้เดินขึ้นเนิน
สำหรับการตกปลามันไม่ใช่ของง่ายเหมือนการตกหมึกแน่นอน
ตกปลานี่น่าจะมีปัจจัยหลายอย่างในการที่ปลาจะเลือกกินเหยื่อ
แล้วต้องใช้ประสบการณ์สังเกตสิ่งรอบตัวของคนตกอีก ที่สำคัญที่สุด คือ ดวง.....
ถ้าวันไหนไม่ได้พกมาเยอะ ก็ทำใจเถอะครับ
แต่หนึ่งในสิ่งระทึกที่สุดของทริปนี้ คงไม่พ้นการได้พบพายุฝนกลางทะเล
ที่พัดมาอย่างรวดเร็วจนไต้ก๋งแทบจะถอนสมอเรือหลบไม่ทัน
แต่โชคยังดีที่เรือเราหนีมาหลบพายุตรงหลังเกาะแสมสารได้ทันก่อนที่ทะเลจะพิโรธ
ถึงแม้จะหลบได้ทัน ครั้งต่อไปผมก็ไม่อยากไปติดฝนกลางทะเลแน่ๆ
เพราะทะเลนั้นมีมุมที่งดงาม และผมว่าคุณคงไม่อยากเจอกับมุมที่โหดร้ายของมันหรอกครับ
เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ดังขึ้น หลังคลื่นลมสงบลง ฟ้าหลังฝนย่อมมีสิ่งสวยงาม
มื้อสุดท้ายก่อนขึ้นฝั่งถูกตระเตรียมขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยฝีมือพ่อครัวที่ขณะเดียวกันก็เป็นลูกเรือด้วย
“ชมโพ้” คือชื่อเรียกขานที่ชาวบ้านแถวนี้เรียกกัน
ชมโพ้ทำกับข้าวได้อร่อยราวกับเชฟใหญ่กลางกรุง
ทั้งที่ไม่มีอุปกรณ์เครื่องมืออะไรช่วยมากมาย
เราทุกคนขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย แต่เหมือนร่างกายและสายตา ยังไม่คุ้นชินกับพื้นดิน
รู้สึกเหมือนยังโอนไปเอียงมา แต่หลายสิ่งอย่างที่เกิดขึ้นกับชีวิตบนเรือกลางทะเล
ในหนึ่งวันหนึ่งคืนนั้นเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่า และสอนหลายสิ่งให้กับชีวิต
จนผมและเพื่อนร่วมทางไม่อาจลืม...
Samaesan Notebook
ฤดูกาลที่เหมาะสมคือตั้งแต่เดือน พ.ย.-พ.ค.
มรสุมจะเข้าตั้งแต่ พ.ค.-ก.ค.
ฤดูหนาวปลาจะกินเหยื่อดี
ปลาอังเกย น่าจะเป็นปลาที่อร่อยและแพงที่สุดในแสมสาร
ติดต่อเช่าเรือได้ที่ ไต้ก๋งจันทร์ โทร. 087-976-0350