Menuleft - MarinerThai.Net

หน้าแรก

เว็บบอร์ดชาวเรือ

สารบัญเว็บไซด์ชาวเรือ

เอกสารน่าอ่านไทย

เอกสารน่าอ่านอังกฤษ

สาระไอทีชาวเรือ

แหล่งคนหางานเรือไทย

บทความจากสมาชิก

นิทานชาวเรือ

คนเรือหัวหมอ

คู่มือปฏิบัติงานเรือ

ระบบสื่อสาร-เดินเรือ

พจนานุกรมศัพท์ทางเรือ

ความหมายคำย่อทางเรือ

ข่าวอัพเดทรายวัน

ข่าวสดราคาน้ำมันโลก

รวมข่าวโจรสลัด

รวมข่าวอุบัติเหตุทางเรือ

สนับสนุนเว็บเรา

สถิติผู้เข้าชมเว็บนี้

ติดต่อเรา

เปิดเว็บ 1 ตุลาคม 2545

 

ขณะนี้เวลา | Your Time
10:46:33

Nathalin Group

MarinerThai 2004

TOP Enginerring Group

 

 
 
 

 

 

Nathalin Group

MarinerThai 2004 Co., Ltd. Advertising in MarinerThai.Com

ศรีลังกา “ไข่มุกแห่งมหาสมุทรอินเดีย”

ศรีลังกา “ไข่มุกแห่งมหาสมุทรอินเดีย”


จาก หนังสือพิมพ์ โพสต์ทูเดย์ วันที่ 21 พฤษภาคม 2554

หากเอ่ยคำว่า “ลังกาวงศ์” “ลังกาทวีป” หรือ “กรุงลงกา” เป็นชื่อที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี เพราะมักจะปรากฏอยู่ในวรรณคดีหรือเรื่องราวทางประวัติศาตร์

ที่บรรจุอยู่ในการเรียนการสอน อาทิเช่น วรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์ หรือแม้แต่เรื่องราวของพระพุทธศาสนาที่มีความเกี่ยวเนื่องกับประเทศไทยมาช้านาน และในวันนี้โลก 360 องศา ก็ได้มาจรดองศายังสถานที่ซึ่งได้กล่าวมานี้ หากแต่ว่าในปัจจุบันมีชื่อเรียกว่า “ศรีลังกา

ประเทศศรีลังกาคือเกาะที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดีย ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอินเดียและทางเหนือของประเทศมัลดีฟส์ โดยมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า “สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา

มีพื้นที่ประมาณ 65,610 ตางรางกิโลเมตร ลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่ของประเทศศรีลังกาเป็นที่ราบลูกคลื่น ซึ่งมีภูเขาสลับกับที่ราบแคบๆ ทอดยาวจากชายฝั่งเข้าสู่ตอนกลางของประเทศ ซึ่งมีลักษณะเป็นที่สูง และมีอากาศที่เย็นสบาย

ด้วยเหตุที่ประเทศศรีลังกา ตั้งอยู่บนเส้นทางหลักของการเดินเรือ จึงทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่เชื่อมต่อระหว่างโลกตะวันออกและตะวันตกมาแต่อดีตกาล โดยมีกรุงโคลัมโบเป็นเมืองท่าที่สำคัญที่สุด ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนล่างฝั่งตะวันตกของประเทศ ผู้คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิดว่ากรุงโคลัมโบคือเมืองหลวงของประเทศศรีลังกา แต่อันที่จริงแล้วเมืองหลวงอย่างเป็นทางการของที่นี่มีชื่อว่า ศรีชัยวรเทนปุระโกตเต แต่ด้วยเหตุที่กรุงโคลัมโบเคยมีสถานะเป็นเมืองหลวงเก่าและเป็นศูนย์กลางความเจริญทุกด้าน ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า ศรีชัยวรเทนปุระ-โกตเต เป็นเมืองหลวงทางนิตินัย แต่โคลัมโบคือเมืองหลวงทางพฤตินัย

ประเทศศรีลังกาได้ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 3,000 ปี โดยชาวสิงหลและทมิฬอพยพมาจากประเทศอินเดีย ประมาณ 500 ปี และ 300 ปี ก่อนคริสตกาลตามลำดับ อาณาจักรสิงหลได้เริ่มก่อตั้งขึ้นบริเวณทางภาคเหนือของประเทศศรีลังกา โดยมีเมืองอนุราธปุระเป็นเมืองหลวงแห่งแรก ซึ่งมีอายุยาวนานถึง 1,200 ปี ต่อมาในศตวรรษที่ 13 จึงได้เสื่อมลงพร้อมกับการเกิดขึ้นของอาณาจักรทมิฬ โดยมีเมืองโปลอนนารุวะเป็นเมืองหลวงยาวนานประมาณ 200 ปี ชาวทมิฬจึงได้อพยพไปไปตั้งอาณาจักรจาฟนาทางคาบสมุทรจาฟนา ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ส่วนชาวสิงหลได้ถอยร่นไปตั้งรกรากอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ โดยได้ก่อตั้งอาณาจักรแคนดี ซึ่งมีเมืองแคนดีเป็นเมืองหลวง

พุทธศาสนาเข้ามาในประเทศศรีลังกาเมื่อประมาณ 300 ปีก่อนคริสตกาลโดย “ภิกขุ มหิทรา” ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นโอรสของพระเจ้าอโศกมหาราช ซึ่งจากบันทึกทางประวัติศาสตร์ได้กล่าวกันว่า ชาวสิงหลและชาวทมิฬได้มีการสู้รบกันมาโดยตลอด ส่งผลให้ในช่วงหนึ่งพระพุทธศาสนาในดินแดนแห่งนี้มีอันต้องเสื่อม ด้วยเหตุที่จำนวนของพระสงฆ์ผู้ทำหน้าที่ในการสืบทอดศาสนามีจำนวนลดลง จึงได้มีการนิมนต์พระสงฆ์จากประเทศไทยและพม่าเพื่อมาช่วยฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในสมัยนั้น

อิทธิพลของนิกายมหายาน และยุคการเป็นเมืองขึ้นของชาติล่าอาณานิคม ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการคงอยู่ของพระพุทธศาสนานิกายเถรวาทในประเทศศรีลังกา อย่างไรก็ตาม ความพยามในการฟื้นฟูและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงศตวรรษที่ 19 ก็ทำให้พระพุทธศาสนาในประเทศนี้ดำรงอยู่ได้มากว่า 2,000 ปี ซึ่งในปัจจุบันพุทธศาสนากระจายอยู่ทั่วทุกที่ของประเทศยกเว้นทางตอนเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่ของชาวทมิฬที่นับถือศาสนาฮินดู แต่อย่างไรก็ตามทีศาสนาพุทธคือศาสนาประจำชาติของศรีลังกา โดยมีผู้นับถือถึงกว่าร้อยละ 70 รองลงมาคือศาสนาฮินดูประมาณร้อยละ 15 ที่เหลือคือศาสนาอิสลามและศาสนาคริสต์

ในช่วงเวลาประมาณศตวรรษที่ 15 อิทธิพลของชาติล่าอาณานิคมเริ่มเข้ามามีบทบาทในประเทศศรีลังกา เริ่มจากโปรตุเกส ดัตช์ และอังกฤษ ตามลำดับ โดยมาทำการค้าตามเมืองท่าโดยเฉพาะทางด้านตะวันตกของประเทศ และได้รับเอกราชเมื่อวันที่ 4 ก.พ. ค.ศ.1948 รวมเวลาที่ศรีลังกาตกเป็นเมืองขึ้นของต่างชาติเกือบ 500 ปี และตลอดระยะเวลาของการตกเป็นเมืองขึ้น ประเทศศรีลังกาจึงถูกวางบทบาทให้เป็นแหล่งผลิต ซินเนมอน ชา กาแฟ และยางพารา โดยเฉพาะในยุคของอังกฤษที่ได้มีการนำคนงานอินเดียจากแคว้น “ทมิฬนาฑู” ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอินเดีย เพื่อเข้ามาเป็นแรงงานเพาะปลูก และกรุงโคลัมโบก็ได้ถูกพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางทางราชการและการค้า นอกจากนี้อังกฤษยังได้ก่อตั้งโรงเรียน วิทยาลัย และสร้างถนนหนทางต่างๆ ซึ่งเป็นการนำเข้ารูปแบบการศึกษาและวัฒนธรรมแบบตะวันตกเข้ามาสู่คนท้องถิ่น

ด้วยประวัติศาสตร์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานกว่า 3,000 ปี บวกกับความยั่งยืนทางพระพุทธศาสนา ถึงแม้ว่าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในหลายๆ ครั้งก็ตามที แต่ที่นี่ก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีรากและแก่นที่แข็งแรง จึงไม่แปลกที่ว่าใครๆ จะมองว่า ดินแดนแห่งนี้มีความงดงามซึ่งมีเอกลักษณ์อันโดดเด่น หากจะเปรียบได้กับไข่มุก ก็ต้องบอกว่าไข่มุกเม็ดนี้ใช้เวลาในการสั่งสมความงามกว่านับพันๆ ปีเลยทีเดียว

 


มารีนเนอร์ไทยดอทคอม | MarinerThai.Com

 

จำนวนผู้เข้าชมหน้านี้   4347

 Disclaimed: มารีนเนอร์ไทยดอทคอม ขอสงวนสิทธิ์ในการรับรองความถูกต้องในบทความ ข้อมูล เนื้อหา ภายในเว็บไซด์ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูล ภาพ เสียง ซอฟแวร์ การเชื่อมโยง(ลิงค์) และ/หรือ บริการอื่นๆ และจะไม่รับผิดชอบในความผิดพลาดในการใช้เนื้อหาดังกล่าวข้างต้นเพื่อวัตถุประสงค์ทางด้าน การค้า การกระทำ การคาดการณ์ พยากรณ์ การวิจัย และอื่นๆ ซึ่งเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลเฉพาะของท่านผู้เขียนแต่ละรายไป ตลอดจนข้อกำหนดทางด้านลิขสิทธิ์ กรณีที่ท่านส่งบทความที่มิได้ขออนุญาตต่อผู้ครองสิทธิ์แท้จริงนำมาลงไว้ภายในเว็บไซด์นี้

 

 
 

 

 

Advertising in MarinerThai.Com Nathalin Group

หน้าแรกก | เว็บบอร์ดชาวเรือ | สารบัญเว็บไซด์ชาวเรือ | สมุดภาพเรือเดินทะเล | สนับสนุนเว็บเรา | ติดต่อเรา

© 2002 Mariner Thai Dot Com Mariner Thai Dot Net. All rights reserved - Web designed by .<nv>.

 MarinerThai.Com | MarinerThai.Net | MarinerThai.Org

Contact webmaster: | Organizer : CKN - Cyber Ket Network