ข่าว:

รับสมัครเฉพาะชาวเรือและผู้ที่สนใจที่เป็นคนไทยเท่านั้น สมัครแล้วรออนุมัติประมาณ 2-3 วัน หากต้องการด่วนโปรดแจ้ง webmaster@marinerthai.net

Main Menu

กรมศุลจับมือท่าเรือเชื่อมระบบไอที e-Matching ขนส่งเรือสร้างมูลค่า 3.5 พันล.

เริ่มโดย mrtnews, พ.ย 22, 17, 06:27:40 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

กรมศุลฯ จับมือท่าเรือเชื่อมระบบไอที ลดระยะเวลาการให้บริการต่อตู้เหลือเพียง 20 วินาที เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจปีละ 3,500 ล้าน


นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ปีงบประมาณ 2561 กรมศุลกากรจะร่วมมือกับการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) นำระบบไอทีเข้ามาอำนวยความสะดวกเพื่อยกอันดับของประเทศให้ดีขึ้น ล่าสุดกรมศุลกากรและ กทท. ได้พัฒนาเชื่อมโยงข้อมูลการขนสินค้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ลดขั้นตอนพิธีการส่งออก ลดค่าใช้จ่ายในด้านเอกสารของการปฏิบัติพิธีการศุลกากร

นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า กรมศุลกากรได้ดำเนินการจัดตั้งระบบ National Single Window (NSW) ซึ่งเป็นระบบศูนย์กลางการเชื่อมโยงข้อมูลด้วยอิเล็กทรอนิกส์แบบบูรณาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจ ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการนำเข้าและการส่งออก

ขณะเดียวกัน กรมศุลกากรและ กทท.ได้พัฒนาระบบตัดบัญชีใบกำกับการขนย้ายสินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Matching) ผ่าน NSW โดยนำมาใช้กับท่าเรือขนาดใหญ่ ได้แก่ ท่าเรือแหลมฉบังและท่าเรือกรุงเทพ ซึ่งสามารถลดระยะเวลาจากเดิม 3 นาที เหลือ 20 วินาที และลดภาระค่าใช้จ่ายและค่าเสียเวลาได้ 2,500 ล้านบาท/ปี รวมถึงเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจได้ 3,500 ล้านบาท/ปี



ที่มา Data & Images -




กรมศุลกากร จับมือกทท. ใช้ e-Matching เชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบ NSW เพื่อลดขั้นตอนการทำงาน

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 พฤศจิกายน 2560 - นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า กรมศุลกากรได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการจัดตั้งระบบ National Single Window หรือ NSW ซึ่งเป็นระบบศูนย์กลางการเชื่อมโยงข้อมูลด้วยอิเล็กทรอนิกส์แบบบูรณาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคธุรกิจ ทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการนำเข้า การส่งออก เป็นการสนับสนุนให้เกิดความพร้อมก้าวไปสู่การเป็นรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ตามนโยบาย Digital Economy ให้ประสบความสำเร็จอย่างจริงจัง


"จากความร่วมมือของ กรมศุลกากร และการท่าเรือแห่งประเทศไทย จึงได้พัฒนาระบบตัดบัญชีใบกำกับการขนย้ายสินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Matching) ผ่าน NSW โดยนำมาใช้กับท่าเรือขนาดใหญ่ ได้แก่ ท่าเรือแหลมฉบัง และท่าเรือกรุงเทพ เพื่อให้ผู้ประกอบการได้รับความสะดวกรวดเร็ว ลดขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อนระหว่างสองหน่วยงาน ลดจำนวนเอกสาร ลดระยะเวลาการให้บริการ อันเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์ให้กับประเทศ" นายกุลิศ กล่าว

จากระบบเดิม ผู้ส่งออกส่งข้อมูลใบกำกับการขนย้ายสินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่ระบบกรมศุลกากร และพิมพ์ใบกำกับการขนย้าย ให้แก่พนักงานขับรถบรรทุกตู้สินค้า นำมายื่นให้กับเจ้าหน้าที่ศุลกากร และเจ้าหน้าที่ท่าเรือที่ประจำอยู่สถานีตรวจสอบ เพื่อทำการ Matching ใบกำกับการขนย้ายตู้สินค้าที่จะผ่านเข้าท่าเรือ เปลี่ยนมาเป็นระบบใหม่ที่เป็นระบบตัดบัญชีใบกำกับการขนย้ายสินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ e-Matching  ผู้ส่งออกส่งข้อมูลใบกำกับการขนย้ายสินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์เข้าสู่ระบบกรมศุลกากร โดยไม่ต้องพิมพ์เอกสารใบกำกับเพื่อนำมายื่นให้กับเจ้าหน้าที่ประจำสถานีตรวจสอบสินค้า โดยเมื่อพนักงานขับรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์มายังสถานีตรวจสอบสินค้า ณ ท่าส่งออก ทำการชั่งน้ำหนักตู้สินค้า และเจ้าหน้าที่ท่าเรือจะทำการบันทึกหมายเลข ตู้คอนเทนเนอร์ เข้าสู่ระบบ หากข้อมูลตรงกับข้อมูลใบกำกับการขนย้ายที่เชื่อมโยงกับกรมศุลกากร ผ่านระบบการเชื่อมโยงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ ณ จุดเดียว (National Single Window :NSW) ระบบจะตัดบัญชีใบกำกับการขนย้ายสินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Matching) โดยอัตโนมัติ ซึ่งระบบดังกล่าว สามารถลดระยะเวลา การผ่านสถานีตรวจสอบของท่าเรือ (Main Gate) จากเดิม 3 นาที เหลือเพียง 20 วินาที เท่านั้น อันจะเป็นการส่งผลดีต่อภาคธุรกิจโดยรวมที่จะสามารถลดภาระค่าใช้จ่ายและค่าเสียเวลาลงได้ปีละกว่า 2,500 ล้านบาท และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ ได้ถึงปีละกว่า 3,500 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามกรมศุลกากรจะมุ่งมั่นพัฒนาระบบงานศุลกากร โดยการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาปรับใช้ เพื่อลดขั้นตอนที่เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจ และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการของภาครัฐ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการแข่งขันทางการค้าระหว่างประเทศให้ทันต่อโลกยุคปัจจุบัน

ด้านนายฐิติพงศ์ นันทาภิวัฒน์ กรรมการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) กล่าวว่า ระบบตัดบัญชีใบกำกับการขนย้ายสินค้าทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Matching)  เชื่อมโยงผ่านระบบ NSW ที่ท่าเรือแหลมฉบัง สืบเนื่องจากนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมให้มีการปรับปรุงการบริการในเรื่อง Doing Business ความสะดวก   ทางการค้าระหว่างประเทศให้การปฏิบัติงานระหว่างหน่วยงานมีการเชื่อมโยงและใช้ข้อมูลร่วมกันด้วย ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยมุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกทางการค้าให้กับผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้    ส่วนเสีย อันจะเป็นการลดขั้นตอนกระบวนการทำงานระยะเวลา และค่าใช้จ่ายที่เป็นไปตามสากล

โดยท่าเรือแหลมฉบังได้นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาดำเนินกิจกรรมต่างๆ และบูรณาการข้อมูลร่วมกับกรมศุลกากร ที่จะสนับสนุนการบูรณาการในทุกมิติและเล็งเห็นว่าระบบ e-Matching นี้สามารถลดระยะเวลาการจอดรอคิวของรถบรรทุก ลดค่าใช้จ่ายด้านเอกสาร และสามารถส่งเสริมศักยภาพในการส่งออกได้จริง ซึ่งระบบดังกล่าวไม่เพียงแต่สนับสนุนเรื่อง Doing Business ตามนโยบายของรัฐบาลเท่านั้น แต่ยังมีส่วนสนับสนุนโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor:EEC) ที่มีเป้าหมายยกระดับพื้นที่เขตเศรษฐกิจภาคตะวันออกให้กลายเป็น World-Class Economic Zone อีกด้วย

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2561 จะเป็นปีที่กรมศุลกากรร่วมมือกับ กทท. ผลักดันและนำระบบ IT เข้ามาใช้ในเรื่องการอำนวยความสะดวกทางการค้าให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อยกอันดับของประเทศให้ดียิ่งขึ้น อันจะส่งผลให้อันดับรวมของประเทศดียิ่งขึ้นกว่าเดิม



ที่มา Data & Images -






..