ข่าว:

คุณ ต้องลงทะเบียนสมัครสมาชิกก่อน ตอบกระทู้หรือตั้งคำถามใหม่ นะครับ

Main Menu

เผยพม่าให้สัมปทานท่าเรือยาว 70 ปี จูงใจญี่ปุ่นลงทุนพัฒนาเขตศก.พิเศษติลาวา

เริ่มโดย mrtnews, ส.ค 20, 14, 06:40:45 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

สนข.เผยพม่าเร่งดึงเอกชนลงทุนพัฒนาท่าเรือ ปรับเงื่อนไขให้สัมปทานยาว 70 ปี จับตาญี่ปุ่นลงทุนพัฒนาเขตเศรษฐกิจท่าเรือติลาวาพื้นที่กว่า 1.4 แสนไร่ ยังมั่นใจไม่ย้ายฐานผลิตรถยนต์และนิคมอุตฯจากไทย โฟกัสด่านแม่สอด เผยมูลค่าการค้าเติบโตสูงปีละกว่า 10% คาดปี 57 ทะลุ 5 หมื่นล. เร่งขยาย 4 เลน หนุนแนวEast - West Corridoor เชื่อม พม่าจากท่าเรือเมาะละแหม่ง-ไทย-เวียดนามที่ท่าเรือดานัง ขนส่งสะดวก ลดต้นทุนโลจิสติกส์


นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยว่าตามกรอบข้อตกลงอาเซียนในด้านการขนส่งสินค้าผ่านแดน ประเทศสมาชิกจะต้องเตรียมเส้นทางการขนส่งและโครงสร้้างพื้นฐานเพื่อรองรับและอำนวยความสะดวก ซึ่งในแนว East - West Corridoor (ตะวันตก-ตะวันออก) จากท่าเรือเมาะละแหม่ง-แม่สอดจ.ตาก-สุโขทัย-พิษณุโลก-ขอนแก่น-มุกดาหาร-สะหวันนะเขต(สปป.ลาว) -ลาวบาว(เวียดนาม) -ท่าเรือดานัง มีความสำคัญ โดยมูลค่าการค้าชายแดนระหว่างไทยกับเพื่อนบ้านทั้งหมดมีกว่า 9 แสนล้านบาทต่อปี เฉพาะไทย-พม่ามีสัดส่วนกว่า 1.9 แสนล้านบาทต่อปี ซึ่งด่านแม่สอดมีประมาณ 4-5 หมื่นล้านบาทต่อปี มีการเติบโตสูงปีละกว่า 10%ส่วนใหญ่เป็นการส่งออกสินค้าอุปโภคบริโภคส่วนด่านสังขละบุรีมูลค่ากว่าแสนล้านบาทต่อปีแต่เป็นการนำเข้าพลังงาน จึงมีการสนับสนุนการค้าที่ด่านแม่สอดซึ่งช่วง 6 เดือนแรกปี 57 มูลค่าการค้าถึง 2.8 หมื่นล้านบาทคาดว่าทั้งปีจะสูงถึง 5-6 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ รัฐบาลได้จัดตั้งเขตเศรษฐพิเศษชายใน 5 พื้นที่ 6 ด่าน รวมด่านแม่สอดอยู่ด้วย ซึ่งในส่วนของเส้นทางในประเทศไทยและเวียดนามค่อนข้างสมบูร์กว่าพม่า โดยไทยกำลังพัฒนาถนนเป็น 4 ช่องจราจรจากตาก-แม่สอด-ข้ามสะพานแม่สอด ฝั่งพม่าจะพัฒนาจากท่าตอน-กอกอแระ-เมาะละแหม่งระยะทาง 120 กม.เพื่อเชื่อมโยงกัน ซึ่งปัจจุบันเมื่อเข้าพม่าไปสู่ท่าเรือเมาะละแหม่ง รถขนส่งต้องใช้เวลา1 วัน ในขณะที่ตามกรอบข้อตกลงอาเซียนจะมีการพัฒนาเพื่อเชื่อมท่าเรือน้ำลึก 2 ฝั่ง คือ ท่าเรือดานัง (เวียดนาม) และท่าเรือเมาะละแหม่ง ซึ่งอนาคตพม่าจะมีการพัฒนาเป็นท่าเรือน้ำลึก ห่างจากจุดเดิมที่เป็นท่าเรือในแม่น้ำสาละวินออกไปปากอ่าวประมาณ 70 กม. โดยรอเงินลงทุนจากต่างประเทศ

โดยพม่าให้ความสำคัญกับท่าเรือ ตั้งแต่ด้านเหนือติดทางอินเดีย มีท่าเรือจ้าวเพียว จีนรับสัมปทานเพื่อขนส่งพลังงาน แก้ส และมีแผนพัฒนาอุตสาหกรรมครบวงจรในอนาคต ,ท่าเรือติลาวา (ย่างกุ้ง) ปัจจุบันบริษัท ฮัทชิสัน จากฮ่องกงรับสัมปทาน และจะมีการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่ 1.4 หมื่นไร่เพิ่มเติม โดยให้สัมปทานญี่ปุ่นเข้ามาร่วม,ท่าเรือทวาย ให้สัมปทานบริษัท อิตาเลียนไทย ดิเวล๊อปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ของไทย,ท่าเรือเมาะละแหม่ง กำลังหาผู้ลงทุน

"แม้ปัจจุบันโครงสร้างพื้นฐานของพม่ายังมีปัญหาแต่มีนักลงทุนเข้าไปจำนวนมาก ส่วนการพัฒนาท่าเรือของพม่าต่างจากไทยคือ พม่าเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามาโดยให้สิทธิพิเศษดึงดูด เช่น ออกกฎหมายใหม่อายุสัมปทานบริหารท่าเรือถึง 70 ปี ส่วนไทยให้อายุ 30 ปี แต่ไทยได้เปรียบเรื่องความมั่นคง โดยประเมินการลงทุนจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ กำลังการผลิตในประเทศการคาดการณ์ปริมาณสินค้านำเข้า- ส่งออก ซึ่งเห็นว่าเงื่อนไขการเชิญชวนเอกชนลงทุนของพม่าโดยเฉพาะท่าเรือติลาวาที่พม่าจะให้ญี่ปุ่นเข้ามาพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ คงต้องดูว่าญี่ปุ่นจะพัฒนาอุตสาหกรรมใดบ้าง ถึงจะทราบว่าจะมีกระทบกับไทยในการพัฒนาท่าเรือปากบาราและแหลมฉบังเฟส 3 ในอนาคตหรือไม่ซึ่งที่ผ่านมาญี่ปุ่นยืนยันไม่มีแผนย้ายฐานการผลิตรถยนต์และนิคมฯหลักๆ ในไทย แต่อาจจะมีบางส่วนที่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภคของพม่าอาจจะมาลงทุนที่พม่าโดยตรง"นายพีระพลกล่าว

ด้านนายอโณทัย ถึกเกิด ผู้จัดการประจำพม่า บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ที่พม่าห่างจากเมืองเมาะละแหม่งประมาณ 60 กม.สัมปทาน 90 ปี ปัญหาที่พบขณะนี้คือการขนส่งมีต้นทุนสูงเพราะโครงสร้างพื้นฐานในพม่ายังไม่พร้อม ถนนสะพานเล็ก รับน้ำหนักบรรทุกใหญ่ไม่มาก จำก น้ำหนักรวมรถ10 ล้อไม่เกิน 34 ตัน (น้ำหนักรถ 15 ตัน สินค้า 15-17 ตัน) การมีโรงงานในพม่าจะช่วยด้านโลจิสติกส์ และแข่งขันด้านราคาได้เพราะปัจจุบันต้องขนส่งปูนถุงโดยลงเรือจากตรัง-ย่างกุ้ง ประมาณ 2-3 วัน และต่อรถมาที่เมาะละแหม่งระยะทางประมาณ 380 กม. มีด่านเก็บค่าผ่านทาง 8-10 ด่าน เฉลี่ย กม.ละ1 บาท ทำให้ราคาขายสูงกว่าปูนในพม่าประมาณ -15% แต่บริษัทได้เปรียบเรื่องคุณภาพดีกว่า โดยในพม่ามีโรงงานปูนประมาณ 10แห่ง

ที่มา -




ผอ.สนข.เยี่ยมชมท่าเรือพาณิชย์แห่งที่ 2 ในเมืองย่างกุ้ง

ย่างกุ้ง 18 ส.ค. 57 - ผอ.สนข.เยี่ยมชมท่าเรือพาณิชย์แห่งที่ 2 ในเมืองย่างกุ้ง เมียนมาร์ ซึ่งมองว่าจะเป็นโอกาสและประตูนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมเบาของไทย เพื่อลุยตลาดเมียนมาร์


นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่ง และจราจร หรือ สนข.เดินทางตรวจเยี่ยมท่าเรือ therawa (ทีราวา) เมืองย่างกุ้ง เมียนมาร์ ซึ่งถือเป็นท่าเรือพาณิชย์แห่งที่ 2 ที่มีความสำคัญเพิ่มขึ้นตามลำดับ จากศักยภาพที่ท่าเรืออยู่ห่างจากตัวเมืองย่างกุ้ง 40 กิโล และใช้เวลาเดินทางระหว่างตัวเมืองและท่าเรือประมาณ 45 นาที โดยมีศักยภาพ ในการขนส่งสินค้า นำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมเบา เช่น อะไหล่รถยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ขณะที่ท่าเรือย่างกุ้งปัจจุบัน เหมาะรองรับการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อกระจายเข้าสู่ตลาดฯ

นอกจากนี้ จากการที่เมียนมาร์มีนโยบายส่งเสริมให้มีพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษหลังท่าเรือ therawa ประมาณ 15,000 ไร่ โดยปีที่ผ่านมาให้สัมปทานนักลงทุนญี่ปุ่นบริหารท่าและพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ไปแล้วประมาณ 2,400 ไร่ และปีหน้าจะพัฒนาพื้นที่บริเวณใกล้เคียงท่าเรือเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษเพื่อผลิตสินค้าส่งออก วงเงินลงทุนเบื้องต้นประมาณ 3,000 ล้านบาทอีก จึงถือว่าท่าเรือแห่งนี้จะเป็นทางเลือกให้ผู้ประกอบการใช้ประโยชน์ได้ในอนาคตได้มากขึ้น

ที่มา -