ข่าว:

รับสมัครเฉพาะชาวเรือและผู้ที่สนใจที่เป็นคนไทยเท่านั้น สมัครแล้วรออนุมัติประมาณ 2-3 วัน หากต้องการด่วนโปรดแจ้ง webmaster@marinerthai.net

Main Menu

AMA เปิดเทรด IPO วันแรกหุ้นพุ่งกว่า 59.16% ระดมเงินขยายธุรกิจลอจิสติกส์

เริ่มโดย mrtnews, ธ.ค 23, 16, 06:24:18 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

mrtnews

อาม่ามารีน เปิดเทรดวันแรกพุ่ง 15.90 บาท/หุ้น จากราคา IPO ที่ 9.99 บาท/หุ้น หรือกว่า 59.16% ระดมทุน 1,078 ล้านบาท เพิ่มกองรถขนส่ง และเรือบรรทุกสินค้าเหลวรับความต้องการของตลาดขยายตัว


นายพิศาล รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บมจ. อาม่า มารีน หรือ AMA กล่าวว่า บริษัทฯ มีความยินดีกับราคาหุ้นที่เข้าเปิดทำการการซื้อขายวันแรกมีการปรับตัวขึ้นมาอย่างน่าพอใจ โดยทันทีที่เปิดตลาด ราคาอยู่ที่ 15.90 บาท/หุ้น จากราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก หรือ IPO ที่ 9.9 บาท/หุ้น โดยส่วนตัวมองว่า ระดับราคาถือว่าสะท้อนพื้นฐานของบริษัทฯ จากประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจมากกว่า 20 ปี โดยให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือกับบริษัทผู้ผลิต และจำหน่ายน้ำมันปาล์มขนาดใหญ่ของโลกที่อยู่ในประเทศมาเลเซีย และอินโดนีเซีย ซึ่ง AMA ถือเป็นบริษัทขนส่งทางเรือรายแรกในตลาดทรัพย์ฯ ที่รับขนส่งสินค้าเฉพาะของเหลว

"บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปขยายกองเรือ และกองรถบรรทุกน้ำมัน โดยตั้งเป้าขยายกองเรือในปี 2560 จำนวน 2 ลำ และมองโอกาสที่จะขยายกองเรือเพิ่มอย่างต่อเนื่องในอนาคต ปี 2560-2561 ก็ตั้งเป้าที่จะขยายกองรถบรรทุกน้ำมันเพิ่มอีกอย่างน้อย 50 คัน/ปี ตามการเติบโตของธุรกิจขนส่ง และปริมาณที่เพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าความสามารถในการบรรทุกน้ำมันโดยรวมจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า จากปีนี้ ส่วนเรือบรรทุกน้ำมัน และสารเคมีในปัจจุบันมีจำนวน 8 ลำ น้ำหนักบรรทุกรวมทั้งสิ้น 46,661 เมตริกตัน และมีรถบรรทุกน้ำมันจำนวน 95 คัน ปริมาณการบรรทุกรวมทั้งสิ้น 4.28 ล้านลิตร และคาดว่าจะมีการเพิ่มกองเรือเข้ามาในอนาคตอย่างแน่นอน"

ขณะที่เป้าหมายรายได้หลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปี 2560 คาดว่าจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% จากปีนี้ โดยตั้งเป้าจะรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 25-30% และอัตรากำไรสุทธิที่ 15% เนื่องจากบริษัทมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง และมีความสัมพันธ์ที่ดีโดยหลักๆ บริษัทฯ มีลูกค้าที่ใช้บริการขนส่งสินค้าเหลวทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ประมาณ 10 ราย และมองโอกาสที่จะขยายการให้บริการขนส่งสินค้าประเภทอื่นๆ อีกด้วย

ด้าน นางศรัณยา กระแสเศียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ AMA กล่าวว่า บมจ.อาม่า มารีน ถือว่ายังมีการเติบโตที่ดีในระยะยาว จากความสามารถในการทำกำไร ทั้งอัตรากำไรขั้นต้น และอัตรากำไรสุทธิ ซึ่งในปีหน้าก็เชื่อว่า บริษัทน่าจะยังรักษาระดับไว้ให้ใกล้เคียงปีนี้ รวมถึงแผนการขยายขอบเขตการให้บริการกองรถบรรทุกน้ำมัน และกองเรือในปีหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อการบรรทุกสินค้าที่น่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่บริษัทฯ ยังมองโอกาสขยายฐานลูกค้าไปยังภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้น เช่น อินเดีย เกาหลีใต้ และจีน อีกด้วย



ที่มา Data & Images -




AMA ปลื้มหุ้นเปิดเทรดพุ่งแรง สะท้อนพื้นฐานบริษัท พร้อมนำเงินระดมทุนขยายงานหนุนรายได้ปี 60 โตไม่ต่ำกว่า 50%

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม 2559 - นายพิศาล รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บมจ.อาม่า มารีน (AMA) เปิดเผยว่า บริษัทรู้สึกยินดีกับราคาเปิดการซื้อขายวันแรกของหุ้น AMA ที่ปรับตัวขึ้น โดยเปิดตลาดอยู่ที่ 15.90 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้น 59.16% จากราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ 9.9 บาท/หุ้น ถือว่าสะท้อนพื้นฐานของบริษัท จากประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจมากกว่า 20 ปี โดยให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือกับบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มขนาดใหญ่ของโลกที่อยู่ในประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย ซึ่ง AMA ถือเป็นบริษัทขนส่งทางเรือรายแรกในตลาดทรัพย์ฯ ที่รับขนส่งสินค้าเฉพาะของเหลว

ทั้งนี้บริษัทเตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ไปขยายกองเรือและกองรถบรรทุกน้ำมัน โดยแผนขยายกองเรือในปี 60 จะเพิ่มอีกจำนวน 2 ลำ และยังมองโอกาสที่จะขยายกองเรือเพิ่มอย่างต่อเนื่อง รวมถึงในปี 60-61 ก็จะขยายกองรถบรรทุกน้ำมันเพิ่มปีละ 50 คัน ตามการเติบโตของพันธมิตร ซึ่งคาดว่าความสามารถในการบรรทุกน้ำมันโดยรวมจะเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า จากปีนี้ ปัจจุบัน บริษัทมีเรือบรรทุกน้ำมันและสารเคมีจำนวน 8 ลำ น้ำหนักบรรทุกรวมทั้งสิ้น 46,661 เมตริกตัน และมีรถบรรทุกน้ำมันจำนวน 95 คัน ปริมาณการบรรทุกรวมทั้งสิ้น 4.28 ล้านลิตร

นอกจากนี้บริษัทยังตั้งเป้าหมายรายได้ในปี 60 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 50% จากปีนี้ และจะรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นไว้ที่ 25-30% และอัตรากำไรสุทธิที่ 15% จากฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งและมีความสัมพันธ์ที่ดีตลอดมา ซึ่งหลัก ๆ บริษัทมีลูกค้าที่ใช้บริการขนส่งสินค้าเหลวทั้งในประเทศและต่างประเทศ จำนวนราว 10 ราย และมองโอกาสที่จะขยายการให้บริการขนส่งสินค้าประเภทอื่น ๆ อีกด้วย

"มองว่าว่าระดับราคาไม่ได้สูง และตัวผมเองก็ไม่แปลกใจราคาวันนี้ จากบทวิเคราะห์ที่ออกมาจำนวนมาก ก็น่าจะทำให้นักลงทุนเล็งเห็นถึงศักยภาพการเติบโตในอนาคต และคิดว่าราคาน่าจะสะท้อนภาพของ AMA ในวันนี้"นายพิศาล กล่าว

ด้านนางศรัณยา กระแสเศียร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ AMA กล่าวว่า AMA ถือว่ายังมีการเติบโตที่ดีในระยะยาว จากความสามารถในการทำกำไร ทั้งอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิ ซึ่งในปีหน้าก็เชื่อว่าบริษัท น่าจะยังรักษาระดับไว้ให้ใกล้เคียงปีนี้ รวมถึงแผนการขยายขอบเขตการให้บริการกองรถบรรทุกน้ำมัน และกองเรือ ในปีหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อการบรรทุกสินค้าที่น่าจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่บริษัทยังมองโอกาสขยายฐานลูกค้าไปยังภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้น เช่น อินเดีย เกาหลีใต้ และจีน อีกด้วย




AMA ปิดเทรดวันแรกที่ 15.50 บาท สูงกว่าราคาขาย IPO 55.16%

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม 2559 - หุ้น AMA ปิดเทรดวันแรกที่ 15.50 บาท เพิ่มขึ้น 5.51 บาท (+55.16%) จากราคาขาย IPO ที่ 9.99 บาท/หุ้น มูลค่าซื้อขาย 2,960.29 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 15.90 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 16.30 บาท และราคาทำระดับต่ำสุดที่ 15.00 บาท


บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของ บมจ. อาม่า มารีน (AMA) สำหรับปี 2560 อยู่ที่ 15.20 บาท ซึ่งคิดเป็น PEG เพียง 0.8 เท่า จากมีอัตราการเติบโตผลประกอบการเติบโตเฉลี่ย ช่วงปี 2560-2562 ที่ 30% ปัจจัยเสี่ยงมาจาก 1) ความผันผวนของน้ำมันเชื้อเพลิง 2) การพึ่งพาลูกค้ารายใหญ่ทั้งธุรกิจขนส่งทางเรือและทางรถ 3) ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน

ทั้งนี้ คาดจะเห็นผลประกอบการของ AMA เติบโตเฉลี่ยปีละ 30% ในปี 2560-2562 โดยคาดกำไรสุทธิจะอยู่ที่ 165 ล้านบาทในปี 2559 และ 273 ล้านบาท ในปี 2560 เนื่องมาจากรายได้ที่คาดจะเติบโตตามการขยายกองเรือบรรทุก ส่งผลให้ระวางบรรทุกเพิ่มขึ้นเท่าตัว รวมทั้งขยายเส้นทางไปยังเอเชียตะวันออกและเอเชียใต้ และการขนส่งทางรถยังคงเติบโตตามลูกค้าซึ่งเป็นผู้จำหน่ายน้ำมันปลีก ซึ่งมีการเติบโตของยอดจำหน่ายน้ำมันเฉลี่ย 24% ต่อปี และบริษัทขยายกองรถบรรทุก ในขณะที่คาดว่าบริษัทจะยังคงสามารถรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิไว้ในระดับสูงที่ 30% และ 17% ได้ จากการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีรวมทั้งการบริหารเที่ยวการเดินเรือและรถที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

AMA ดำเนินธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าเหลวทางเรือและทางรถ จาก 1) เป็นผู้นำในธุรกิจเรือขนส่งน้ำมันปาล์มในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเป็นอันดับ 2 ในการให้บริการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และอันดับ 1 ในประเทศไทย 2) อยู่ในธุรกิจที่ Niche Market มีคู่แข่งน้อย มีความชำนาญในการเดินเรือ ส่งผลให้ AMA เป็นผู้นำในธุรกิจ 3) ให้บริการกับลูกค้าที่ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำมันปาล์มที่ใหญ่สุดในโลก 4) มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจขนส่งกว่า 20 ปี รวมทั้งมีพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง 5) บริษัทมีความสามารถบริหารต้นทุนที่ดี ทั้งความสามารถในการบริหารขนส่งแบบ Backhaul ส่งผลให้มีอัตรากำไรที่สูง

ทั้งนี้ มองว่าธุรกิจของ AMA มีความน่าสนใจและน่าซื้อขายในระดับที่พรีเมี่ยมเมื่อเทียบกับคู่เทียบ เนื่องจากการเติบโตของผลประกอบการที่สูงเฉลี่ย 30% ต่อปีในอีก 2 ปีข้างหน้า รวมทั้งอัตรากำไรของบริษัทที่อยู่ในระดับสูงเฉลี่ย 17% เมื่อเทียบกับธุรกิจเรือส่วนใหญ่ที่มีการขาดทุนและอัตรากำไรที่ต่ำ



ที่มา Data & Images -



..