ว่าด้วยการฝึกอบรม การสอบความรู้และการออกประกาศนียบัตร
ผู้ทำการในเรือ พ.ศ. 2541
และ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2542
การใช้บังคับ
บทนิยาม
ส่วนที่ 1 การแบ่งชั้นประกาศนียบัตร
ส่วนที่ 2 วิธีการสอบความรู้
ส่วนที่ 3 คุณสมบัติของผู้สมัครสอบ
ฝ่ายเดินเรือ
พนักงานวิทยุในเรือ
ฝ่ายช่างกลเรือ
ส่วนที่ 4 การออกประกาศนียบัตรและการต่ออายุ
ส่วนที่ 5 การยกเว้นประกาศนียบัตร
ส่วนที่ 6 ประกาศนียบัตรรับรองประกาศนียบัตรที่ออกโดยรัฐภาคีอื่น
ส่วนที่ 7 การฝึกอบรมและออกประกาศนียบัตรรับรองผู้ทำการในเรือเฉพาะประเภท
ส่วนที่ 8 การฝึกอบรมความปลอดภัยและการฝึกความคุ้นเคยสำหรับการทำหน้าที่ในเรือ
ส่วนที่ 9 ค่าธรรมเนียม
ส่วนที่ 10 บทเฉพาะกาล
ฝ่ายเดินเรือ
ฝ่ายช่างกลเรือ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 279 แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระพุทธศักราช 2456 แก้ไขเพิ่มเติมโดยมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2525 อธิบดีกรมเจ้าท่าโดยอนุมัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมออกข้อบังคับเกี่ยวกับการฝึกอบรม การสอบความรู้และการออกประกาศนียบัตรผู้ทำการในเรือไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับกรมเจ้าท่าว่าด้วยการฝึกอบรม การสอบความรู้และการออกประกาศนียบัตรผู้ทำการในเรือ พ.ศ. 2541”
ข้อ 2 ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป
ข้อ 3 ในเวลาที่ข้อบังคับนี้มีผลใช้บังคับ ผู้ถือประกาศนียบัตรแสดงความรู้ความสามารถที่ออกให้ตามข้อบังคับกรมเจ้าท่าว่าด้วยการสอบความรู้ผู้ทำการในเรือ พ.ศ. 2532 สำหรับทำการในเรือเดินทะเลระหว่างประเทศ หากประสงค์จะทำการในเรือเดินทะเลระหว่างประเทศต่อไป ต้องเปลี่ยนประกาศนียบัตรดังกล่าวให้เป็นประกาศนียบัตรตามข้อบังคับนี้
ข้อ 4 บรรดาข้อความใดที่ขัดหรือแย้งกับข้อบังคับนี้ให้ใช้ความในข้อบังคับนี้ใช้บังคับ และข้อความใดที่ไม่ได้ปรากฏในข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตามความที่ปรากฏในข้อบังคับกรมเจ้าท่าว่าด้วยการสอบความรู้ของผู้ทำการในเรือ พ.ศ. 2532
ข้อ 5 ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับแก่บุคคลใดผู้ทำการในเรือไทยและบุคคลสัญชาติไทยผู้ทำการในเรือต่างประเทศที่เป็นเรือเดินทะเลระหว่างประเทศ เว้นแต่ผู้ทำการในเรือต่อไปนี้
(1) เรือราชนาวีไทยและเรือรัฐบาล
(2) เรือประมง
(3) เรือสำราญกีฬาที่ไม่ได้ใช้เพื่อการค้อ หรือ
(4) เรือไม้ที่ต่อแบบโบราณ
< Top – ขึ้นบนสุด >
ข้อ 6 นอกจากจะมีบทบัญญัติกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น ในข้อบังคับนี้
“อธิบดี” หมายถึง อธิบดีกรมเจ้าท่า
“ประกาศนียบัตร” หมายถึง ประกาศนียบัตรแสดงความรู้ความสามารถที่ออกให้ โดยกรมเจ้าท่าตามข้อบังคับนี้
“ประกาศนียบัตรรับรอง” หมายถึง ประกาศนียบัตร ที่ออกให้โดยกรมเจ้าท่าตามข้อบังคับนี้เพื่อรับรองประกาศนียบัตรที่ออกโดยรัฐภาคีอื่น หรือเพื่อรับรองผู้ทำการในเรือเฉพาะประเภท หรือพนักงานวิทยุในเรือเดินทะเล
“ประกาศนียบัตรฝึกอบรม” หมายถึง ประกาศนียบัตรสำหรับผู้ผ่านการฝึกอบรมตามหลักสูตรที่ได้รับการรับรอง
“ประกาศนียบัตรที่เหมาะสม” หมายถึง ประกาศนียบัตรหรือประกาศนียบัตรรับรองที่ออกให้ภายใต้บทบัญญัติแห่งข้อบังคับนี้ที่ผู้ถือใช้เข้าทำการในตำแหน่งและปฏิบัติหน้าที่บนเรือได้ตามกฎหมายในระดับความรับผิดชอบตามประเภท ขนาดเรือและกำลังขับเคลื่อนเครื่องจักรของเรือในเขตการเดินเรือของเรือนั้น
“การสอบ” หมายถึง การวัดระดับความรู้ความสามรถโดยการสอบภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ
“การประเมิน” หมายถึง การประเมินความรู้ความสามารถจากผลการสอบ การศึกษาและฝึกอบรม การฝึกปฏิบัติงาน และการปฏิบัติงาน ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในข้อบังคับนี้
“การรับรอง” หมายถึง การรับรองโดยอธิบดีกรมเจ้าท่า
“สมุดรายงานการฝึก” หมายถึง สมุดรายงานการฝึกของฝ่ายเดินเรือและฝ่ายช่างกล ที่กรมเจ้าท่ากำหนดให้เป็นมาตรฐาน
“บริษัท” หมายถึง ผู้เป็นเจ้าของหรือองค์กรหรือบุคคล ซึ่งอาจเป็นผู้จัดการหรือผู้เช่าเรือเปล่าหรืออื่นใด ก็ได้ โดยเป็นผู้รับผิดขอบการปฏิบัติงานของเรือมาจากเจ้าของเรือตลอดจนหน้าที่และความรับผิดชอบใด ๆ ของเจ้าของเรือตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับนี้
“ควบคุมเรือ” หมายถึง การทำหน้าที่นายเรือ
“คนประจำเรือ” หมายถึง ผู้ที่มีหน้าที่ทำการประจำอยู่ในเรือ
“นายเรือ” หมายถึง ผู้ทำหน้าที่ควบคุมสูงสุดใดเรือ
“นายประจำเรือ” หมายถึง คนประจำเรือนอกเหนือจากนายเรือที่ลงทำการในเรือในตำแหน่งที่กำหนดตามกฎหมายหรือกฎข้อบังคับ
“ลูกเรือ” หมายถึง คนประจำเรือนอกเหนือจากนายเรือหรือนายประจำเรือ
“ต้นเรือ” หมายถึง นายประจำเรือในตำแหน่งรองจากนายเรือและเป็นผู้ทำหน้าที่ควบคุมเรือเมื่อนายเรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้
“นายประจำเรือฝ่ายเดินเรือ” หมายถึง นายประจำเรือในฝ่ายเดินเรือผุ้มีคุณสมบัติทำหน้าที่เข้ายามฝ่ายเดินเรือในเรือเดินทะเล
“ต้นกล” หมายถึง นายประจำเรือฝ่ายช่างกลตำแหน่งสูงสุดในเรือ ซึ่งรับผิดชอบเกี่ยวกับเครื่องกลขับเคลื่อนเรือและเครื่องจักรกลทุกชนิดบนเรือ
“รองต้นกล” หมายถึง นายประจำเรือฝ่ายช่างกลในตำแหน่งรองจากต้นกลและเป็นผู้รับผิดชอบ เครื่องกลขับเคลื่อนเรือและเครื่องกลทุกชนิดบนเรือเมื่อต้นกลไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้
“นายช่างกล” หมายถึง นายประจำเรือฝ่ายช่างกลที่ถือประกาศนียบัตรจากกรมเจ้าท่าขั้นไม่ต่ำกว่านายประจำเรือฝ่ายช่างกลของเรือกลเดินทะเล ขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 กิโลวัตต์หรือมากกว่า
“นายประจำเรือฝ่ายช่างกล” หมายถึง นายประจำเรือในฝ่ายช่างกลผู้มีคุณสมบัติทำหน้าที่เข้ายามฝ่ายช่างกลในเรือกลเดินทะเล
“พรรคนาวิน” หมายถึง เหล่าทหารเรือที่มีหน้าที่ส่วนใหญ่ในการควบคุมและปฏิบัติการต่าง ๆ ในฝ่ายเดินเรือ
“พรรคกลิน” หมายถึง เหล่าทหารเรือที่มีหน้าที่ส่วนใหญ่ในการควบคุมและปฏิบัติการต่าง ๆ ในฝ่ายช่างกลเรือ
“พนักงานวิทยุ” หมายถึง ผู้ถือประกาศนียบัตรที่เหมาะสมซึ่งออกหรือยอมรับโดยทางการภายใต้บทบัญญัติของกฎข้อบังคับวิทยุ
“กฎข้อบังคับวิทยุ” หมายถึง กฎข้อบังคับวิทยุที่กำหนดไว้ในผนวกหรือจะกำหนดไว้ในผนวกแนบท้ายอนุสัญญาว่าด้วยการสื่อสารโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International Telecommunication Convention) ที่มีผลบังคับใช้ไม่ว่าในเวลาใด
“หน้าที่เกี่ยวกับวิทยุ” หมายความรวมถึง การทำหน้าที่ยาม การบำรุงรักษา และการซ่อมแซมทางเทคนิคตามกฎข้อบังคับวิทยุและอนุสัญญาว่าด้วยความปลอดภัยแห่งชีวิตในทะเล และข้อแนะนำเกี่ยวข้องจากองค์การทางทะเลระหว่างประเทศ
“เรือกลเดินทะเล” หมายถึง เรือกลอื่นใดนอกเหนือจากเรือที่ใช้เดินเฉพาะแต่ในทางน้ำภายในเรือทางน้ำที่อยู่ภายในหรือประชิดติดกับเขตกำบังคลื่นลม (sheltered waters) เขตที่อยู่ในกฎข้อบังคับของท่าเรือ (เขตท่าเรือ)
“เรือราชการ” หมายถึง เรือของส่วนราชการที่มิได้ใช้ในทางการค้า
“เรือหลวง” หมายถึง เรือต่าง ๆที่กำหนดไว้ในอัตรากองทัพเรือ
“เรือที่ไม่ได้ทำการค้า” หมายถึง เรือที่ไม่ใช่เรือบรรทุกสินค้าหรือบรรทุกผู้โดยสาร
“การเดินเรือทะเลใกล้ฝั่ง” หมายถึง การเดินเรือระหว่างประเทศภายในเขตจำกัดทะเลใกล้ฝั่งตามแผนที่ในผนวก 4
“การเดินเรือทะเลระหว่างประเทศ” หมายถึง การเดินเรือระหว่างประเทศภายนอกเขตจำกัดทะเลใกล้ ฝั่งตามแผนที่ในผนวก 4
“กำลังขับเคลื่อน” หมายถึง อัตรากำลังสูงสุดต่อเนื่องหน่วยนับเป็นกิโลวัตต์จากเครื่องจักรใหญ่เรือซึ่งปรากฏในทะเบียนเรือหรือเอกสารของทางราชการ
“เรือบรรทุกของเหลวในถึงระวาง” หมายถึง เรือบรรทุกน้ำมัน เรือบรรทุกสารเคมีและเรือบรรทุกก๊าซเหลว
“เรือบรรทุกน้ำมัน” หมายถึง เรือที่ต่อสร้างขึ้นและใช้เพื่อการบรรทุกปิโตรเลียมและ/หรือผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในถึงระวาง
“เรือบรรทุกสารเคมี” หมายถึง เรือที่ต่อสร้างหรือถูกดัดแปลงและใช้ในการบรรทุกผลิตภัณฑ์ของเหลวใด ๆ ในถึงระวางที่มีรายชื่อผลิตภัณฑ์นั้นอยู่ในบทที่ 17 ของประมวลกฎข้อบังคับระหว่างประเทศว่าด้วยการบรรทุกสารเคมีในถังระวาง (International Bulk Chemical Code)
“เรือบรรทุกก๊าซเหลว” หมายถึง เรือที่ต่อสร้างหรือถูกดัดแปลงและใช้ในการบรรทุกก๊าซเหลวใด ๆ ในถึงระวางที่ปรากฏรายชื่อในบทที่ 19 ของประมวลกฎข้อบังคับระหว่างประเทศว่าด้วยการบรรทุกก๊าซ (International Gas Carrier Code)
“เรือบรรทุกผู้โดยสารและล้อเลื่อน” (Ro – Ro Passenger Ship) หมายถึง เรือโดยสารที่มีพื้นที่บรรทุกล้อเลื่อน หรือพื้นที่พิเศษตามคำจำกัดความในอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยความปลอดภัยแห่งชีวิตในทะเล ค.ศ. 1974 ตามที่แก้ไขเพิ่มเติม
“เดือน” หมายถึง เดือนตามปีปฏิทินหรือช่วงระยะเวลาที่นับรวมกันแล้วไม่น้อยกว่า 30 วัน
“รัฐภาคี” หมายถึง ประเทศที่อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยมาตรฐานการฝึกอบรม การออกประกาศนียบัตร และการเข้ายามสำหรับคนประจำเรือ ค.ศ. 1978 แก้ไขเพิ่มเติม ค.ศ. 1995 (International Convention on Standards of Training, Certification and Watchkeeping for Seafarers, 1978 as amended in 1995) มีผลใช้บังคับ
“ปฏิบัติงานในหน้าที่มนเรือกลเดินทะเล” หมายถึง การปฏิบัติหน้าที่ในเรือเดินทะเลในตำแหน่งที่ได้กำหนดไว้ในประกาศนียบัตรหรือตำแหน่งในเรือบังคับให้ใช้ประกาศนียบัตรนั้นเป็นขั้นต่ำ
“ระยะเวลาปฏิบัติงานในเรือ ระยะเวลาทำการในตำแหน่งที่รับผิดชอบ และระยะเวลาในการฝึกปฏิบัติตามที่ข้อบังคับนี้กำหนดไว้” หมายถึง การปฏิบัติหน้าที่นายเรือ หรือนายประจำเรือ หรือลูกเรือในเรือกลเดินทะเลซึ่งเดินนอกเขตน่านน้ำไทย และ/หรือเขตท่าเรือจะต้องอยู่ภายในเวลาห้าปีก่อนวันสมัครสอบครั้งแรก โดยเอกสารที่ใช้นับเวลาการปฏิบัติงานในทะเล ให้ใช้เอกสารตามที่กรมเจ้าท่ากำหนด เว้นแต่เรือหลวงหรือเรือ ราชการอาจใช้ใบรับรองจากหน่วยต้นสังกัดในระดับกรมขึ้นไป
ข้อ 7 ผู้ทำการบนเรือไทยจะต้องถือประกาศนียบัตรแสดงความรู้ความสามารถหรือประกาศนียบัตรรับรองประกาศนียบัตรที่ออกโดยรัฐภาคีอื่น ที่ออกให้ตามข้อบังคับนี้
ข้อ 8 ผู้ทำการในเรือที่เป็นเรือไทยหรือเรือต่างประเทศซึ่งต้องการเอกสาร หลักฐานแสดงระยะเวลาการฝึกและการปฏิบัติงานในเรือตามข้อบังคับนี้ ให้ผู้นั้นแจ้งวันที่ลงทำการในเรือและวันที่ขึ้นจากเรือนั้น ต่อกรมเจ้าท่า พร้อมเอกสาร หลักฐาน ตามวิธีการที่กรมเจ้าท่ากำหนด เพื่อการบันทึกและพิสูจน์ระยะเวลาการฝึกและทำงานในเรือ เว้นแต่เรือหลวงหรือเรือราชการอาจใช้หนังสือรับรองจากส่วนราชการระดับกรมที่ผู้นั้นสังกัดอยู่ได้การใช้เอกสารหลักฐานอื่น ๆ นอกจากที่กล่าวไว้ เพื่อแสดงระยะเวลาการฝึกและการปฏิบัติงานในเรือต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดี
< Top – ขึ้นบนสุด >
การแบ่งชั้นประกาศนียบัตร
ข้อ 9 ประกาศนียบัตรแสดงความรู้ความสามารถของผู้ทำการในเรือฝ่ายเดินเรือให้ มีลำดับชั้นดังนี้
เรือกลเดินทะเลระหว่างประเทศ
(1) ประกาศนียบัตรนายเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 3,000 ตันกรอส หรือมากกว่า
(2) ประกาศนียบัตรนายเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส
(3) ประกาศนียบัตรต้นเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 3,000 ตันกรอส หรือมากกว่า
(4) ประกาศนียบัตรต้นเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส
(5) ประกาศนียบัตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่า
เรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่ง
(1) ประกาศนียบัตรนายเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส
(2) ประกาศนียบัตรต้นเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส
(3) ประกาศนียบัตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส
(4) ประกาศนียบัตรนายเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาดต่ำกว่า 500 ตันกรอส
(5) ประกาศนียบัตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาดต่ำกว่า 500 ตันกรอส
เรือกลเดินทะเล
(1) ประกาศนียบัตรลูกเรือยามสะพานเดินเรือของเรือกลเดินทะเล
ข้อ 10 ประกาศนียบัตรแสดงความรู้ความสามารถของพนักงานวิทยุในเรือ
(1) ประกาศนียบัตรรับรองพนักงานวิทยุของเรือกลเดินทะเล ขนาด 300 ตันกรอส หรือมากกว่า
ข้อ 11 ประกาศนียบัตรแสดงความรู้ความสามารถของผู้ทำการในเรือฝ่ายช่างกลให้มีลำดับขั้นดังนี้
เรือกลเดินทะเล
(1) ประกาศนียบัตรต้นกล ของเรือกลเดินทะเลขนาดกำลังขับเคลื่อน 3,000 กิโลวัตต์หรือมากกว่า
(2) ประกาศนียบัตรต้นกล ของเรือกลเดินทะเลขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 – 3,000 กิโลวัตต์
(3) ประกาศนียบัตรรองต้นกล ของเรือกลเดินทะเลขนาดกำลังขับเคลื่อน 3,000 กิโลวัตต์หรือมากกว่า
(4) ประกาศนียบัตรรองต้นกล ของเรือกลเดินทะเลขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 – 3,000 กิโลวัตต์
(5) ประกาศนียบัตรนายประจำเรือฝ่ายช่างกล ของเรือกลเดินทะเลขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 กิโลวัตต์ หรือมากกว่า
(6) ประกาศนียบัตรลูกเรือเข้ายามฝ่ายช่างกล ของเรือกลเดินทะเล
ข้อ 12 ผู้ถือประกาศนียบัตรที่มีระดับชั้น ขนาดของเรือ เขตการเดินเรือและขนาดของกำลังขับเคลื่อนของเครื่องจักรใหญ่เรือ ที่สูงกว่าสามารถทำการในตำแหน่งซึ่งกำหนดให้ใช้ประกาศนียบัตรระดับชั้นที่ต่ำกว่าได้
ข้อ 13 นายประจำเรือและลูกเรือ พรรคนาวินและพรรคกลินจากกองทัพเรืออาจได้รับอนุญาตให้เข้ารับการฝึกอบรม และสอบความรู้เพื่อขอรับประกาศนียบัตรแสดงความรู้ความสามารถตามข้อบังคับนี้ได้ โดยให้แสดงประกาศนียบัตรและเอกสารแสดงประสบการณ์ทำงานในราชการกองทัพเรือเพื่อให้กรมเจ้าท่าประเมินคุณสมบัติในการสอบดังกล่าว ทั้งนี้จะต้องมีระยะเวลาปฏิบัติงานในทะเลมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบสองเดือน
ข้อ 14 ผู้มีประกาศนียบัตรนายเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่ง ขนาดต่ำกว่า 500 ตันกรอส หรือ ประกาศนียบัตรนายเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่ง ขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส อาจทำหน้าที่นายเรือของเรือกลเดินทะเลขนาดต่ำกว่า 500 ตันกรอสที่ไม่ใช่เรือเดินใกล้ฝั่งได้ หากได้รับประกาศนียบัตรที่เหมาะสมสำหรับนายเรือของเรือนั้น
ข้อ 15 ผู้มีประกาศนียบัตรนายประจำเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่ง ขนาดต่ำกว่า 500 ตันกรอส อาจทำหน้าที่นายประจำเรือของเรือกลเดินทะเล ขนาดต่ำกว่า 500 ตันกรอส ที่ไม่ใช่เรือเดินใกล้ฝั่งได้ หากได้รับประกาศนียบัตรที่เหมาะสมสำหรับนายประจำเรือของเรือนั้น
ข้อ 16 นายช่างกลที่ถือประกาศนียบัตรรองต้นกลของเรือกลเดินทะเลขนาดกำลังขับเคลื่อน 3,000 กิโลวัตต์หรือมากกว่าอาจทำหน้าที่ต้นกลของเรือกลเดินทะเลขนาดกำลังขับเคลื่อนต่ำกว่า 3,000 กิโลวัตต์ได้ถ้าหากว่าได้ทำหน้าที่ในตำแหน่งที่ระบุในประกาศนียบัตรที่ตนถืออยู่มาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบสองเดือน
< Top – ขึ้นบนสุด >
วิธีการสอบความรู้
ข้อ 17 ให้อธิบดีแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อดำเนินการสอบและประเมินความรู้ความสามารถสำหรับประกาศนียบัตรในฝ่ายเดินเรือ พนักงานวิทยุในเรือ และฝ่ายช่างกลเรือขั้นต่าง ๆ
ข้อ 18 ผู้สมัครสอบความรู้เพื่อขอรับประกาศนียบัตรหรือขอเลื่อนชั้นประกาศนียบัตรหรือผู้ขอต่ออายุประกาศนียบัตรให้ยื่นคำร้องที่กรมเจ้าท่าหรือสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคหรือสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาแล้วแต่กรณี พร้อมเอกสารดังต่อไปนี้
(1) รูปถ่ายหน้าตรง
(2) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทาง
(3) ประกาศนียบัตรสุขภาพ ตามที่กำหนดไว้ในระเบียบกรมเจ้าท่าว่าด้วยคนประจำเรือเดินทะเล พ.ศ. 2541
(4) สำเนาประกาศนียบัตรแสดงความรู้ความสามารถ
(5) สำเนาวุฒิการศึกษา
(6) สำเนาประกาศนียบัตรการฝึกอบรม
(7) เอกสารแสดงระยะเวลาการฝึกและการทำงานในเรือ
เอกสารใน (2) และ (3) จะต้องยังคงไม่หมดอายุ จนถึงวันที่ออกประกาศนียบัตร
ผู้มีสิทธิเข้าสอบขอรับประกาศนียบัตรได้จะต้องผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติตามเอกสารหลักฐานต่าง ๆ จากผู้ที่อธิบดีมอบหมาย
ข้อ 19 หลักสูตร วิธีการสอบและประเมินความรู้ความสามารถและเกณฑ์การสอบได้สำกรับประกาศนียบัตรแสดงความรู้ความสามารถ ประกาศนียบัตรรับรองและประกาศนียบัตรฝึกอบรมต่าง ๆ ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดในผนวก 1 ผนวก 2 และผนวก 3 ของข้อบังคับนี้ ส่วนรายละเอียดให้เป็นไปตามที่อธิบดีกำหนด
ข้อ 20 หลักสูตร วิธีการสอบและประเมินความรู้ความสามารถและเกณฑ์การสอบได้สำหรับประกาศนียบัตรแสดงความรู้ความสามารถชั้นต่าง ๆ ของฝ่ายเดินเรือและฝ่ายช่างกล สำหรับทำการในเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่ง ให้อธิบดีมีอำนาจปรับข้อกำหนดมาตรฐานความรู้ความสามารถในผนวก 1 และผนวก 2 ของข้อบังคับนี้ให้เหมาะสมกับเรือเดินทะเลใกล้ฝั่ง
ข้อ 21 การสอบเพื่อขอรับประกาศนียบัตรให้ผู้สมัครสอบมีโอกาสสอบแก้ตัวใหม่ได้ ภายในระยะเวลาไม่เกินหนึ่งปีนับแต่วันสมัครสอบครั้งแรก
ข้อ 22 บุคคลผู้มีสัญชาติไทยที่ได้รับประกาศนียบัตรชั้นใดที่ออกให้โดยประเทศอื่น หากประสงค์จะสอบเทียบความรู้เพื่อขอรับประกาศนียบัตรในชั้นนั้น ต้อง
(1) มีคุณสมบัติตามข้อ 24
(2) มีประกาศนียบัตรที่ออกโดยประเทศภาคีอื่นมาแสดง
(3) มีวุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าที่กำหนดตามชั้นของประกาศนียบัตร
(4) มีระยะเวลาปฏิบัติงานในทะเลตามที่กำหนดตามชั้นของประกาศนียบัตร
(5) ผ่านการประเมินว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถตามที่กำหนดไว้ตามชั้นของประกาศนียบัตร
ให้อธิบดีแต่งตั้งคณะกรรมการจำนวน 2 คนเป็นผู้ดำเนินการสอบ
ข้อ 23 ให้อธิบดีแต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเปรียบเทียบมาตรฐานหลักสูตรการศึกษาและหลักสูตรกากรฝึกอบรมของสถาบันที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การรับรองว่ามีมาตรฐานความรู้ความสามารถตามที่กำหนดไว้ในผนวก 1 ผนวก 2 และผนวก 3 ของข้อบังคับนี้ และข้อกำหนดการจัดหลักสูตรการศึกษาฝึกอบรมและการประเมินผลตามที่กรมเจ้าท่ากำหนด
ให้คณะกรรมการทำรายงานพร้อมความเห็นเสนออธิบดีเพื่อพิจารณาให้การรับรองหรือไม่ให้การรับรองมาตรฐานหลักสูตรตามวรรคหนึ่ง
ในกรณีที่คณะกรรมการมีความเห็นไม่ให้การรับรองมาตรฐานหลักสูตรตามวรรคหนึ่ง ให้อธิบดีมีอำนาจพิจารณาดำเนินการได้ตามความเหมาะสม
< Top – ขึ้นบนสุด >
คุณสมบัติของผู้สมัครสอบ
ข้อ 24 ผู้สมัครสอบเพื่อขอรับประกาศนียบัตรต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
(1) มีสัญชาติไทยหรือเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตตามข้อ 25
(2) มีสุขภาพร่างกายที่เหมาะสม ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ในระเบียบกรมเจ้าท่าว่าด้วยคนประจำเรือเดินทะเล พ.ศ. 2541
ข้อ 25 สำหรับบุคคลที่มิได้ถือสัญชาติไทยถ้าประสงค์จะสมัครสอบความรู้เพื่อขอรับประกาศนียบัตร เพื่อทำการในเรือไทย ต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ที่อธิบดีมอบหมาย
< Top – ขึ้นบนสุด >
ข้อ 26 ประกาศนียบัตรนายเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 3,000 ตันกรอสหรือมากกว่าผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัตินอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อ 24 ดังต่อไปนี้
(1) เป็นผู้มีประกาศนียบัตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่า หรือชั้นที่สูงกว่า
(2) เป็นผู้สำเร็จการศึกษาและฝึกอบรม ที่ได้รับการรับรองตามหลักสูตรนายเรือและต้นเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่า และผ่านการปฏิบัติงานในหน้าที่นายประจำเรือฝ่ายเดินเรือในเรือกลเดินทะเลระหว่างประเทศขนาด 500 ตันกรอส หรือมากกว่า หรือในตำแหน่งที่บังคับให้ใช้ประกาศนียบัตรนี้เป็นขั้นต่ำ มาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า สี่สิบแปดเดือน ระยะเวลานี้อาจลดเหลือไม่น้อยกว่า สามสิบหกเดือน ถ้าในการปฏิบัติงานดังกล่าวนั้นได้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งต้นเรือของเรือกลเดินทะเลระหว่างประเทศขนาด 3,000 ตันกรอสหรือมากกว่า มาแล้วไม่น้อยกว่า สิบแปดเดือน หรือ
(3) เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นปีที่ 5 ฝ่ายเดินเรือจากศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวีหรือโรงเรียนนายเรือ หรือสถาบันอื่นที่ได้รับการรับรองและผ่านการปฏิบัติงานในหน้าที่นายประจำเรือฝ่ายเดินเรือในเรือหลวงหรือเรือราชการมาแล้วไม่น้อยกว่าสี่ปี สำหรับประกาศนียบัตรที่จำกัดการทำหน้าที่เฉพาะในเรือที่ไม่ได้ทำการค้า และ
(4) สำหรับผู้มีประกาศนียบัตรต้นเรือ ได้ผ่านการประเมินว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานที่กรมเจ้าท่ากำหนดสำหรับหลักสูตรนายเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่า หรือ สำหรับผู้มีประกาศนียบัตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือ ได้ผ่านการประเมินว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานหลักสูตรนายเรือและต้นเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่า ตามที่กำหนดไว้ในผนวก 1 ตารางที่ 1 ของข้อบังคับนี้
ข้อ 27 ประกาศนียบัตรนายเรือของเรือกลเดินทะเลขนาดระหว่าง 500 – 3,000 ตันกรอส ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัตินอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อ 24 ดังต่อไปนี้
(1) เป็นผู้มีประกาศนียบัตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่า หรือชั้นที่สูงกว่า
(2) เป็นผู้สำเร็จการศึกษาและฝึกอบรมที่ได้รับการรับรองตามหลักสูตรนายเรือ และต้นเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่า และผ่านการปฏิบัติงานในหน้าที่นายประจำเรือฝ่ายเดินเรือในเรือกลเดินทะเลระหว่างประเทศขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่าหรือในตำแหน่งที่บังคับให้ใช้ประกาศนียบัตรนี้เป็นขั้นต่ำ มาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสามสิบหกเดือน ระยะเวลานี้อาจลดเหลือไม่น้อยกว่ายี่สิบสี่เดือนถ้าในการปฏิบัติงานดังกล่าวนั้นได้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งต้นเรือมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบสองเดือนหรือ
(3) เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นปีที่ 5 ฝ่ายเดินเรือจากศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวีหรือโรงเรียนนายเรือหรือสถาบันอื่นที่ได้รับการรับรองและผ่านการปฏิบัติงานในหน้าที่นายประจำเรือฝ่ายเดินเรือในเรือหลวง หรือเรือราชการมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปี สำหรับประกาศนียบัตรที่จำกัดการทำหน้าที่เฉพาะในเรือที่ไม่ได้ทำการค้า และ
(4) สำหรับผู้ที่ประกาศนียบัตรต้นเรือ ได้ผ่านการประเมินว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ตามมาตรฐานที่กรมเจ้าท่ากำหนดสำหรับหลักสูตรนายเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่า หรือ สำหรับผู้มีประกาศนียบัตรนายระจำเรือฝ่ายเดินเรือ ได้ผ่านการประเมินว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานหลักสูตรนายเรือและต้นเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่า ตามที่กำหนดไว้ในผนวก 1 ตารางที่ 1 ของข้อบังคับนี้
ข้อ 28 ประกาศนียบัตรต้นเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 3,000 ตันกรอสหรือมากกว่า ผู้สมัตรสอบต้องมีคุณสมบัตินอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อ 24 ดังต่อไปนี้
(1) เป็นผู้มีประกาศนียบัตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่า
(2) เป็นผู้สำเร็จการศึกษาและฝึกอบรม ที่ได้รับการรับรองตามหลักสูตรนายเรือและต้นเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่า และผ่านการปฏิบัติงานในหน้าที่นายประจำเรือฝ่ายเดินเรือในเรือกลเดินทะเลระหว่างประเทศขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่า หรือในตำแหน่งที่บังคับให้ใช้ประกาศนียบัตรนี้เป็นขั้นต่ำ มาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า สิบแปดเดือน หรือ
(3) เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นปีที่ 4 ฝ่ายเดินเรือจากศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวีหรือโรงเรียนนายเรือหรือสถาบันอื่นที่ได้รับการรับรองและผ่านการปฏิบัติงานในหน้าที่นายประจำเรือฝ่ายเดินเรือในเรือหลวงหรือเรือราชการมาแล้วไม่น้อยกว่าสองปีสำหรับประกาศนียบัตรที่จำกัดการทำหน้าที่เฉพาะในเรือที่ไม่ได้ทำการค้า และ
(4) ผ่านการประเมินว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานหลักสูตรนายเรือและต้นเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่า ตามที่กำหนดไว้ในผนวก 1 ตารางที่ 1 ของข้อบังคับนี้
ข้อ 29 ประกาศนียบัตรต้นเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัตินอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อ 24 ดังต่อไปนี้
(1) เป็นผู้มีประกาศนียบัตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่า
(2) เป็นผู้สำเร็จการศึกษาและฝึกอบรม ที่ได้รับการรับรองตามหลักสูตรนายเรือและต้นเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่า และผ่านการปฏิบัติงานในหน้าที่นายประจำเรือฝ่ายเดินเรือในเรือกลเดินทะลระหว่างประเทศขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่าหรือในตำแหน่งที่บังคับให้ใช้ประกาศนียบัตรนี้เป็นขั้นต่ำ มาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบสองเดือน หรือ
(3) เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นปีที่ 4 ฝ่ายเดินเรือจากศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวีหรือโรงเรียนนายเรือหรือสถาบันอื่นที่ได้รับการรับรองและผ่านการปฏิบัติงานในหน้าที่นายประจำเรือฝ่ายเดินเรือในเรือหลวงหรือเรือราชการมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปีสำหรับประกาศนียบัตรที่จำกัดการทำหน้าที่เฉพาะในเรือที่ไม่ได้ทำการค้า และ
(4) ผ่านการประเมินว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานหลักสูตรนายเรือและต้นเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่า ตามที่กำหนดไว้ใน ผนวก 1 ตารางที่ 1 ของข้อบังคับนี้
ข้อ 30 ประกาศนียบัตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่า ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัตินอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อ 24 ดังต่อไปนี้
(1) มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
(2) สำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐานทั่วไปไม่น้อยกว่า 12 ปี หรือเทียบเท่า
(3) ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรพนักงานวิทยุ GMDSS ที่ได้รับการรับรองหรือมีประกาศนียบัตรพนักงานวิทยุ GMDSS GOC หรือ ROC
(4) เป็นผู้สำเร็จการศึกษาและฝึกอบรม ที่ได้รับการรับรองตามหลักสูตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่า และผ่านการฝึกปฏิบัติงานในฝ่ายเดินเรือที่รวมอยู่ในหลักสูตรการศึกษาฝึกอบรมที่ได้รับการรับรองและมีบันทึกการฝึกปฏิบัติงานลงในสมุดรายงานการฝึกมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า สิบห้าเดือน หรือผ่านการปฏิบัติงานในฝ่ายเดินเรือมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า สี่สิบแปดเดือน ในเรือกลเดินทะเลระหว่างประเทศขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่าหรือในเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาด 3,000 ตันกรอสหรือมากกว่า และในระยะเวลาการฝึกหรือการปฏิบัติงานดังกล่าวต้องมีการเข้ายามบนสะพานเดินเรือภายใต้การควบคุมของนายเรือหรือนายประจำเรือมาแล้วไม่น้อยกว่าหกเดือน หรือ
(5) เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นปีที่ 2 ฝ่ายเดินเรือจากศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวีหรือโรงเรียนนายเรือหรือสถาบันอื่นที่ได้รับการรับรอง และผ่านการปฏิบัติงานในฝ่ายเดินเรือในเรือหลวงหรือเรือราชการมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปีสำหรับประกาศนียบัตรที่จำกัดการทำหน้าที่เฉพาะในเรือที่ไม่ได้ทำการค้า และ
(6) ผ่านการประเมินว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานหลักสูตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่า ตามที่กำหนดไว้ในผนวก 1 ตารางที่ 2 ของข้อบังคับนี้
ข้อ 31 ประกาศนียบัตรนายเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัตินอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อ 24 ดังต่อไปนี้
(1) เป็นผู้มีประกาศนียบัตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส หรือชั้นที่สูงกว่า
(2) เป็นผู้สำเร็จการศึกษาและฝึกอบรมที่ได้รับการรับรองตามหลักสูตรนายเรือและต้นเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส และผ่านการปฏิบัติงานในหน้าที่นายประจำเรือฝ่ายเดินเรือในเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่ามาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสามสิบหกเดือน ระยะเวลานี้อาจลดเหลือไม่น้อยกว่ายี่สิบสี่เดือน ถ้าในการปฏิบัติงานดังกล่าวนั้นได้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งต้นเรือมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบสองเดือน และ
(3) สำหรับผู้มีประกาศนียบัตรต้นเรือ ได้ผ่านการประเมินว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานที่กรมเจ้าท่ากำหนดสำหรับหลักสูตรนายเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส หรือสำหรับผู้มีประกาศนียบัตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือ ได้ผ่านการประเมินว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานหลักสูตรนายเรือและต้นเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส ตามที่กำหนดไว้ในผนวก 1 ตารางที่ 1 ของข้อบังคับนี้
ข้อ 32 ประกาศนียบัตรต้นเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัตินอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อ 24 ดังต่อไปนี้
(1) เป็นผู้มีประกาศนียบัตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส
(2) เป็นผู้สำเร็จการศึกษาและฝึกอบรมที่ได้รับการรับรองตามหลักสูตรนายเรือและต้นเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส และผ่านการปฏิบัติงานในหน้าที่นายประจำเรือฝ่ายเดินเรือในเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่ามาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบสองเดือน และ
(3) ผ่านการประเมินว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานหลักสูตรนายเรือ และต้นเรือของเรือกลเดินทะเล ขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส ตามที่กำหนดไว้ในผนวก 1 ตารางที่ 1 ของข้อบังคับนี้
ข้อ 33 ประกาศนียบัตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่ง ขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัตินอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อ 24 ดังต่อไปนี้
(1) มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
(2) สำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐานทั่วไปไม่น้อยกว่า 9 ปี หรือเทียบเท่า
(3) ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรพนักงานวิทยุ GMDSS ที่ได้รับการรับรองหรือมีประกาศนียบัตรพนักงานวิทยุ GMDSS GOC หรือ ROC
(4) เป็นผู้สำเร็จการศึกษาและฝึกอบรม ที่ได้รับการรับรองตามหลักสูตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส และผ่านการฝึกปฏิบัติงานในฝ่ายเดินเรือในเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่า มาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่ายี่สิบสี่เดือน และในระยะเวลาการฝึกหรือการปฏิบัติงานดังกล่าวต้องมีการเข้ายามบนสะพานเดินเรือภายใต้การควบคุมของนายเรือหรือนายประจำเรือมาแล้วไม่น้อยกว่าหกเดือน หรือ
(5) เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นปีที่ 1 ฝ่ายเดินเรือจากศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวีหรือโรงเรียนนายเรือหรือสถาบันอื่นที่ได้รับการรับรองและผ่านการปฏิบัติงานในฝ่ายเดินเรือในเรือหลวงหรือเรือราชการมาแล้วไม่น้อยกว่าสองปีสำหรับประกาศนียบัตรที่จำกัดการทำหน้าที่เฉพาะในเรือที่ไม่ได้ทำการค้า และ
(6) ผ่านการประเมินว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานหลักสูตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส ตามที่กำหนดไว้ในผนวก 1 ตารางที่ 2 ของข้อบังคับนี้
ข้อ 34 ประกาศนียบัตรนายเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาดต่ำกว่า 500 ตันกรอส ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัตินอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อ 24 ดังต่อไปนี้
(1) สำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐานทั่วไปไม่น้อยกว่า 9 ปี หรือเทียบเท่า
(2) เป็นผู้มีประกาศนียบัตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาดต่ำกว่า 500 ตันกรอส และผ่านการปฏิบัติงานในหน้าที่นายประจำเรือฝ่ายเดินเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่ง ขนาด 60 ตันกรอสหรือมากกว่า มาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า ยี่สิบสี่เดือน และ
(3) ผ่านการประเมินว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานหลักสูตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือและนายเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาดต่ำกว่า 500 ตันกรอส ตามที่กำหนดไว้ในผนวก 1 ตารางที่ 3 ของข้อบังคับนี้
ข้อ 35 ประกาศนียบัตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาดต่ำกว่า 500 ตันกรอส ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัตินอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อ 24 ดังต่อไปนี้
(1) มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
(2) สำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐานทั่วไปไม่น้อยกว่า 6 ปี หรือเทียบเท่า
(3) ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรพนักงานวิทยุ GMDSS ที่ได้รับการรับรองหรือมีประกาศนียบัตรพนักงานวิทยุ GMDSS GOC หรือ ROC
(4) เป็นผู้สำเร็จการศึกษาและฝึกอบรม ที่ได้รับการรับรองตามหลักสูตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาดต่ำกว่า 500 ตันกรอส และผ่านการฝึกปฏิบัติงานในฝ่ายเดินเรือที่รวมอยู่ในหลักสูตรการศึกษาฝึกอบรมที่ได้รับการรับรองมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสามสิบหกเดือน หรือผ่านการปฏิบัติงานในฝ่ายเดินเรือมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสามสิบหกเดือน ในเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาด 60 ตันกรอสหรือมากกว่า และในระยะเวลาการปฏิบัติงานดังกล่าวต้องมีการเข้ายามบนสะพานเดินเรือภายใต้การควบคุมของนายเรือหรือนายประจำเรือมาแล้วไม่น้อยกว่าหกเดือน หรือ
(5) เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นปีที่ 1 ฝ่ายเดินเรือจากศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวีหรือโรงเรียนนายเรือหรือสถาบันอื่นที่ได้รับการรับรอง และผ่านการปฏิบัติงานในฝ่ายเดินเรือในเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่ง ขนาด 60 ตันกรอสหรือมากกว่า และ/หรือ เรือหลวงหรือเรือราชการมาแล้วไม่น้อยกว่าหกเดือน และ
(6) ผ่านการประเมินว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานหลักสูตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือและนายเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาดต่ำกว่า 500 ตันกรอส ตามที่กำหนดไว้ในผนวก 1 ตารางที่ 3 ของข้อบังคับนี้
ข้อ 36 ประกาศนียบัตรลูกเรือยามสะพานเดินเรือของเรือกลเดินทะเล
ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัตินอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อ 24 ดังต่อไปนี้
(1) มีอายุไม่ต่ำกว่า 16 ปีบริบูรณ์
(2) สำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐานทั่วไปไม่น้อยกว่า 6 ปี หรือเทียบเท่า
(3) ผ่านการฝึกปฏิบัติงานในฝ่ายเดินเรือในเรือกลเดินทะเลขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่า มาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหกเดือนหรือ
(4) สำเร็จการฝึกอบรมหลักสูตรลูกเรือที่ได้รับการรับรองและมีการปฏิบัติงานในฝ่ายเดินเรือในเรือกลเดินทะเลขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่า มาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสองเดือนหรือ
(5) ผ่านการปฏิบัติงานในฝ่ายเดินเรือมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบสองเดือน ในเรือกลเดินทะเลขนาด 500 ตันกรอส หรือมากกว่า หรือ
(6) เป็นผู้สำเร็จการศึกษาฝึกอบรม 2 ปี ของโรงเรียนชุมพลทหารเรือหรือผ่านการฝึกปฏิบัติงานในฝ่ายเดินเรือในเรือหลวงหรือเรือราชการมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหกเดือน และ
(7) ผ่านการประเมินว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานหลักสูตรลูกเรือยามสะพานเดินเรือของเรือกลเดินทะเลตามที่กำหนดไว้ในผนวก 1 ตารางที่ 4 ของข้อบังคับนี้
< Top – ขึ้นบนสุด >
ข้อ 37 ประกาศนียบัตรรับรองพนักงานวิทยุของเรือกลเดินทะเล ขนาด 300 ตันกรอสหรือมากกว่า ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัตินอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อ 24 ดังต่อไปนี้
(1) มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
(2) ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรพนักงานวิทยุ GMDSS GOC หรือ ROC ที่ได้รับการรับรองและ
(3) ผ่านการประเมินว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานหลักสูตรพนักงานวิทยุ GMDSS GOC หรือ ROC ตามที่กำหนดไว้ในผนวก 3 ตารางที่ 9 ของข้อบังคับนี้
< Top – ขึ้นบนสุด >
ข้อ 38 ประกาศนียบัตรต้นกลของเรือกลเดินทะเล ขนาดกำลังขับเคลื่อน 3,000 กิโลวัตต์หรือมากกว่าผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัตินอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อ 24 ดังต่อไปนี้
(1) สำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐานทั่วไปไม่น้อยกว่า 12 ปีหรือเทียบเท่า
(2) ถือประกาศนียบัตรต้นกลของเรือกลเดินทะเลขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 – 3,000 กิโลวัตต์ มาแล้วไม่น้อยกว่าสิบสองเดือน และต้องมีระยะเวลาทำงานในเรือกลเดินทะเลขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 กิโลวัตต์หรือมากกว่า ในตำแหน่งรองต้นกลมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบสองเดือน หรือเป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นสูงสุด ฝ่ายช่างกลเรือจากศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวีหรือ พรรคกลินจากโรงเรียนนายเรือ หรือสถาบันอื่นที่ได้รับการรับรอง และได้ปฏิบัติหน้าที่นายช่างกล
(3) หน้าที่นายช่างกลของเรือกลเดินทะเลขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 กิโลวัตต์หรือมากกว่าและ/หรือ เรือหลวงหรือเรือราชการมารวมแล้วไม่น้อยกว่าสี่ปี และ
(4) ผ่านการประเมินว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานหลักสูตรตาม ที่กำหนดไว้ ในผนวก 2 ตารางที่ 1 และตารางที่ 2 ของข้อบังคับนี้
ข้อ 39 ประกาศนียบัตรต้นกลของเรือกลเดินทะเล ขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 – 3,000 กิโลวัตต์ ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัตินอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อ 24 ดังต่อไปนี้
(1) สำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐานทั่วไปไม่น้อยกว่า 12 ปีหรือเทียบเท่า
(2) ถือประกาศนียบัตรรองต้นกลของเรือกลเดินทะเล ขนาดกำลังขับเคลื่อน 3,000 กิโลวัตต์ หรือมากกว่ามาแล้วไม่น้อยกว่าสิบสองเดือน และต้องมีระยะเวลาทำงานในเรือกลเดินทะเลขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 กิโลวัตต์หรือมากกว่า ในตำแหน่งรองต้นกลมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบสองเดือน หรือ
(3) เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นสูงสุด ฝ่ายช่างกลเรือจากศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวีหรือ พรรคกลินจากโรงเรียนนายเรือ หรือสถาบันอื่นที่ได้รับการรับรอง และได้ปฏิบัติหน้าที่นายช่างกลของเรือกลเดินทะเลขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 กิโลวัตต์หรือมากกว่า และ/หรือ เรือหลวงหรือเรือราชการมารวมแล้วไม่น้อยกว่าสองปี และ
(4) ผ่านการประเมินว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานหลักสูตรตามที่กำหนดไว้ ในผนวก 2 ตารางที่ 1 และตารางที่ 2 ของข้อบังคับนี้
ข้อ 40 ประกาศนียบัตรรองต้นกลของเรือกลเดินทะเล ขนาดกำลังขับเคลื่อน 3,000 กิโลวัตต์หรือมากกว่า ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัตินอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อ 24 ดังต่อไปนี้
(1) สำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐานทั่วไปไม่น้อยกว่า 12 ปีหรือเทียบเท่า
(2) ถือประกาศนียบัตรรองต้นกลของเรือกลเดินทะเล ขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 – 3,000 กิโลวัตต์ มาแล้วไม่น้อยกว่าสิบสองเดือน และต้องมีระยะเวลาทำงานในเรือกลเดินทะเลขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 กิโลวัตต์หรือมากกว่า ในตำแหน่งนายช่างกลมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบสองเดือน หรือ
(3) เป็นผู้สำเร็จการศึกษาชั้นสูงสุด ฝ่ายช่างกลเรือจากศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวีหรือ พรรคกลินจากโรงเรียนนายเรือ หรือสถาบันอื่นที่ได้รับการรับรอง และได้ปฏิบัติหน้าที่นายช่างกลของเรือกลเดินทะเลขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 กิโลวัตต์หรือมากกว่า และ/หรือ เรือหลวงหรือเรือราชการมารวมแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี และ
(4) ผ่านการประเมินว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานหลักสูตรตามที่กำหนดไว้ ในผนวก 2 ตารางที่ 1 และตารางที่ 2 ของข้อบังคับนี้
ข้อ 41 ประกาศนียบัตรรองต้นกล ของเรือกลเดินทะเล ขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 – 3,000 กิโลวัตต์ ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัตินอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อ 24 ดังต่อไปนี้
(1) สำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐานทั่วไปไม่น้อยกว่า 12 ปีหรือเทียบเท่า
(2) ถือประกาศนียบัตรนายประจำเรือฝ่ายช่างกลของเรือกลเดินทะเล ขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 กิโลวัตต์หรือมากกว่า มาแล้วไม่น้อยกว่าสิบสองเดือน และต้องมีระยะเวลาทำงานในเรือกลเดินทะเลขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 กิโลวัตต์หรือมากกว่า ในตำแหน่งนายช่างกลมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบสองเดือน หรือ
(3) ผ่านหลักสูตรการศึกษาและฝึกอบรมที่ได้รับการรับรอง ซึ่งรวมถึงการได้ร่วมปฏิบัติหน้าที่ในฝ่ายช่างกลเรือในตำแหน่งนายช่างกลมาแล้วไม่น้อยกว่าหกเดือน หรือ
(4) เคยปฏิบัติหน้าที่นายช่างกลเรือของเรือหลวงหรือเรือราชการมาแล้วไม่น้อยกว่าหนึ่งปี และ
(5) ผ่านการประเมินว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานหลักสูตรตามที่กำหนดไว้ ในผนวก 2 ตารางที่ 1 และตารางที่ 2 ของข้อบังคับนี้
ข้อ 42 ประกาศนียบัตรนายประจำเรือฝ่ายช่างกล ของเรือกลเดินทะเล ขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 กิโลวัตต์หรือมากกว่า ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัตินอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อ 24 ดังต่อไปนี้
(1) มีอายุไม่น้อยกว่า 18 ปี บริบูรณ์
(2) สำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐานทั่วไปไม่น้อยกว่า 12 ปีหรือเทียบเท่า
(3) สอบความรู้ได้ตามหลักสูตรนักเรียนเดินเรือพาณิชย์ชั้นปีที่ 3 ฝ่ายช่างกลเรือของศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวี หรือสอบความรู้ได้ตามหลักสูตรนักเรียนนายเรือชั้นปีที่ 3 พรรคกลินของ โรงเรียนนายเรือ และในระหว่างการศึกษาต้องมีระยะเวลาการฝึกในฝ่ายช่างกลของเรือกลเดินทะเล ขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 กิโลวัตต์หรือมากกว่า และ/หรือ เรือหลวงหรือเรือราชการ และมีบันทึกการฝึกปฏิบัติงานลงในสมุดรายงานการฝึกมาแล้วไม่น้อยกว่าหกเดือน หรือ
(4) ผ่านหลักสูตรการศึกษาและฝึกอบรมระยะเวลาไม่น้อยกว่า 30 เดือน ที่ได้รับการรับรองและในระหว่างการศึกษาต้องมีระยะเวลาการฝึกในฝ่ายช่างกลของเรือกลเดินทะเลขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 กิโลวัตต์หรือมากกว่า และมีบันทึกการฝึกปฏิบัติงานลงในสมุดรายงานการฝึกมาแล้วไม่น้อยกว่าหกเดือน หรือ
(5) สำเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) สาขาช่างกลเรือ หรือสาขาช่างยนต์ หรือสาขาอื่น ที่ได้รับการรับรองและมีระยะเวลาการฝึกในฝ่ายช่างกลของเรือกลเดินทะเล ขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 กิโลวัตต์หรือมากกว่า และมีบันทึกการฝึกปฏิบัติงานลงในสมุดรายงานการฝึกมาแล้วไม่น้อยกว่าหกเดือน หรือ
(6) สำเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) สาขาช่างกลเรือ หรือสาขาช่างยนต์ หรือสาขาอื่น ที่ได้รับการรับรองและมีระยะเวลาการฝึกในฝ่ายช่างกลของเรือกลเดินทะเลขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 กิโลวัตต์หรือมากกว่า และมีบันทึกการฝึกปฏิบัติงานลงในสมุดรายงานการฝึกมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบแปดเดือน และ
(7) ผ่านการประเมินว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานหลักสูตรตามที่กำหนดไว้ในผนวก 2 ตารางที่ 2 ของข้อบังคับนี้
ข้อ 43 ประกาศนียบัตรลูกเรือเข้ายามฝ่ายช่างกลของเรือกลเดินทะเล ผู้สมัครสอบต้องมีคุณสมบัตินอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อ 24 ดังต่อไปนี้
(1) มีอายุไม่น้อยกว่า 18 ปี บริบูรณ์
(2) สำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐานทั่วไปไม่น้อยกว่า 6 ปีหรือเทียบเท่า
(3) เคยปฏิบัติหน้าที่ในฝ่ายช่างกลเรือมาแล้วไม่น้อยกว่าหกเดือน หรือ
(4) ถือประกาศนียบัตรคนใช้เครื่องจักรยนต์ชั้น 1 หรือผ่านการอบรมหลักสูตรสำหรับลูกเรือของศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวี หรือสถาบันอื่นที่ได้รับการรับรองและเคยทำงานในฝ่ายช่างกลเรือของเรือกลเดินทะเลมาแล้วไม่น้อยกว่าสองเดือน หรือ
(5) สอบความรู้ได้ตามหลักสูตรนักเรียนเดินเรือพาณิชย์ชั้นปีที่ 2 ฝ่ายช่างกลเรือของศูนย์ฝึกพาณิชย์นาวีหรือหลักสูตรนักเรียนนายเรือชั้นปีที่ 2 พรรคกลินของโรงเรียนนายเรือ และเคยปฏิบัติงานในฝ่ายช่างกลเรือของเรือกลเดินทะเลหรือเรือหลวงหรือเรือราชการมาแล้วไม่น้อยกว่าสองเดือน หรือ
(6) สอบความรู้ได้ตามหลักสูตรนักเรียนจ่าพรรคกลิน หลักสูตรอาชีพ (จ่าเอก) พรรคกลิน โรงเรียนชุมพลทหารเรือ และเคยปฏิบัติงานในหน้าที่ฝ่ายช่างกลในเรือหลวงมาแล้วไม่น้อยกว่าหกเดือน หรือ
(7) สอบความรู้ได้ตามหลักสูตรอาชีพ (จ่าเอก) ปกติช่างเครื่องยนต์ หลักสูตรอาชีพเลื่อนฐานะชั้นจ่าเอก เหล่าช่างยุทธโยธา สาขาเครื่องยนต์ และเคยปฏิบัติงานในหน้าที่ฝ่ายช่างกลในเรือหลวงมาแล้วไม่น้อยกว่าหกเดือน หรือ
(8) เคยปฏิบัติงานในหน้าที่ฝ่ายช่างกลของเรือหลวงหรือเรือราชการมาแล้วไม่น้อยกว่าสองปี และ
(9) ผ่านการประเมินว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานหลักสูตรตามที่กำหนดไว้ในผนวก 2 ตารางที่ 3 ของข้อบังคับนี้
< Top – ขึ้นบนสุด >
การออกประกาศนียบัตรและการต่ออายุ
ข้อ 44 การออกประกาศนียบัตรชั้นใดผู้ขอรับต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนและผ่านการประเมินว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถตามมาตรฐานหลักสูตรที่กำหนดไว้สำหรับชั้นนั้นและให้เรียกคืนประกาศนียบัตรที่ถืออยู่เดิมก่อนที่จะออกประกาศนียบัตรฉบับใหม่ให้
การออกประกาศนียบัตรกิตติมศักดิ์ชั้นใด ๆ กรมเจ้าท่าอาจออกให้แก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่เป็นคุณประโยชน์อย่างสูงแก่ราชการกรมเจ้าท่า และอธิบดีอาจยกเว้นคุณสมบัติต่าง ๆ การสอบและประเมินและค่าธรรมเนียมสำหรับบุคคลนั้น
ข้อ 45 ประกาศนียบัตรและประกาศนียบัตรรับรองใด ๆ อาจกำหนดข้อจำกัดในเรื่องตำแหน่งหน้าที่ และระดับการปฏิบัติงาน เขตการเดินเรือ ประเภทการใช้เรือ ขนาดของเรือ และประเภทและขนาดของกำลังขับเคลื่อนของเครื่องจักรใหญ่เรือ และเงื่อนไขอื่น ๆ ได้ตามที่กรมเจ้าท่าเห็นเหมาะสม
ประกาศนียบัตรกิตติมศักดิ์ชั้นใด ๆ ให้กำหนดข้อจำกัดไม่สามารถใช้สำหรับลงทำการในเรือ
ข้อ 46 แบบของประกาศนียบัตรและประกาศนียบัตรรับรองให้เป็นไปตามแบบที่กำหนดไว้ในผนวก 5 ของข้อบังคับนี้ และให้อธิบดีมีอำนาจปรับปรุงแบบได้ตามความเหมาะสม
ข้อ 47 การออกใบแทนประกาศนียบัตรให้กระทำได้ในกรณีที่ประกาศนียบัตรสูญหาย ชำรุดเสียหายหรือถูกทำลาย และผู้ถือได้แสดงหลักฐานที่เชื่อถือได้
ข้อ 48 การต่ออายุประกาศนียบัตรให้เป็นไปหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1) ประกาศนียบัตรทุกชั้นให้ต่ออายุได้คราวละห้าปี หากมีเหตุผลความจำเป็นอื่นรวมถึงสุขภาพ กรมเจ้าท่าอาจต่ออายุประกาศนียบัตรให้น้อยกว่าห้าปี ตามความเหมาะสม
(2) ก่อนที่จะต่ออายุประกาศนียบัตรให้ตาม (1) ผู้ขอต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
(2.1) มีสุขภาพร่างกายที่เหมาะสมตามที่กำหนดไว้ในระเบียบกรมเจ้าท่าว่าด้วยคนประจำเรือเดินทะเล พ.ศ. 2541
(2.2) มีระยะเวลาปฏิบัติงานในทะเลมาแล้วไม่น้อยกว่าสิบสองเดือน ในตำแหน่งที่ถือประกาศนียบัตรในเวลาห้าปีก่อนหน้า หรือ
(2.3) มีระยะเวลาปฏิบัติงานอื่นที่เทียบเท่ากับระยะเวลาปฏิบัติงานในทะเลและได้รับการอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ที่อธิบดีมอบหมาย และ
(2.4) ผ่านการอบรมหลักสูตรเพิ่มเติมความรู้ตามที่กรมเจ้าท่ากำหนด
(3) เพื่อประโยชน์ในการออกประกาศนียบัตรฉบับใหม่ตามข้อบังคับนี้ ผู้ขอรับประกาศนียบัตรที่เข้าศึกษาหรือฝึกอบรม ก่อนวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2541ต้องผ่านการอบรมหลักสูตรยกระดับที่ได้การรับรอง
ข้อ 49 ในกรณีที่กรมเจ้าท่าตรวจพบว่าผู้มีประกาศนียบัตรหรือประกาศนียบัตรรับรอง ขาดคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์การออกหรือต่ออายุประกาศนียบัตรที่กำหนดไว้สำหรับประกาศนียบัตรชั้นนั้นในภายหลังหรือขาดความเหมาะสมอื่น ๆ อันเป็นสาระสำคัญในการปฏิบัติงานในหน้าที่นั้น ให้อธิบดีแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นทำการตรวจสอบพร้อมทำความเห็นเสนอเพื่อดำเนินการยกเลิก เพิกถอน หรือระงับการใช้ประกาศนียบัตรนั้น
< Top – ขึ้นบนสุด >
การยกเว้นประกาศนียบัตร
ข้อ 50 ประกาศนียบัตรชั้นต่าง ๆ ที่ออกให้ตามความในส่วนที่ 3 และส่วนที่ 4 แห่งข้อบังคับนี้ เมื่อมีเหตุอันจำเป็น อธิบดีอาจอนุญาตยกเว้นให้ผู้ที่มีประกาศนียบัตรชั้นต่ำกว่าปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งที่กำหนดให้ใช้ประกาศนียบัตรชั้นที่สูงกว่าได้ไม่เกินหนึ่งชั้นในระยะเวลาไม่เกินหกเดือน ทั้งนี้ในเรือลำหนึ่งจะยกเว้นให้ไม่เกินหนึ่งตำแหน่งในแต่ละฝ่าย
การอนุญาตยกเว้นตามวรรคหนึ่ง ไม่รวมถึงนายเรือ ต้นกลและพนักงานวิทยุ เว้นแต่ในกรณีเหตุสุดวิสัยอธิบดีอาจอนุญาตยกเว้นได้ในระยะเวลาที่สั้นที่สุดเท่าที่จะกระทำได้
< Top – ขึ้นบนสุด >
ประกาศนียบัตรรับรองประกาศนียบัตรที่ออกโดยรัฐภาคีอื่น
ข้อ 51 บุคคลที่มิได้ถือสัญชาติไทยถ้าประสงค์จะขอเทียบความรู้เพื่อขอรับประกาศนียบัตรรับรองประกาศนียบัตรที่ออกโดยรัฐภาคีอื่นเพื่อทำการในเรือไทยต้องได้รับอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ที่อธิบดีมอบหมายผู้ขอรับประกาศนียบัตรรับรองตามวรรคหนึ่งให้ยื่นคำร้องขอออกหรือขอต่ออายุประกาศนียบัตรรับรองพร้อมให้ แนบเอกสารหลักฐานตามประกาศกรมเจ้าท่าเพื่อใช้ประกอบการประเมินคุณสมบัติด้วย
ข้อ 52 ผู้ขอรับประกาศนียบัตรรับรองตามข้อ 51 จะต้องได้รับประกาศนียบัตรรับรองความรู้ความสามารถซึ่งออกโดยรัฐภาคีที่ได้ทำข้อตกลงว่าด้วยการรับรองประกาศนียบัตรไว้กับประเทศไทย
ให้อธิบดีมีอำนาจทำข้อตกลงว่าด้วยการรับรองประกาศนียบัตรซึ่งออกโดยรัฐภาคีอื่นตามวรรคหนึ่งได้
ข้อ 53 ประกาศนียบัตรรับรองตามข้อ 51 จะกำหนดให้ผู้ขอสามารถทำการบนเรือไทยได้ในระดับชั้นที่เหมาะสมกับความรู้ความสามารถและประสบการณ์ของผู้ขอ
ข้อ 54 ผู้ขอรับประกาศนียบัตรรับรองตามข้อ 51 เพื่อทำงานบนเรือไทยในระดับ นายเรือ หรือต้นเรือของเรือกลเดินทะเลขนาด 500 ตันกรอส หรือมากกว่า หรือ ต้นกล หรือรองต้นกลของเรือกลเดินทะเลขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 กิโลวัตต์หรือมากกว่า จะต้องมีความรู้ในเรื่องกฎหมายทางทะเลของประเทศไทยตามความเหมาะสมกับตำแหน่ง
ข้อ 55 ประกาศนียบัตรรับรองตามข้อ 51 ให้มีอายุไม่เกินสิบสองเดือน และการกำหนดเงื่อนไขในประกาศนียบัตรรับรองให้เป็นไปตามประกาศกรมเจ้าท่า ในกรณีที่ประกาศนียบัตรที่ออกโดยรัฐภาคีอื่นถูกยกเลิก เพิกถอน หรือระงับการใช้ ให้ประกาศนียบัตรรับรองดังกล่าวสิ้นอายุในวันที่ถูกยกเลิก เพิกถอน หรือระงับการใช้ไปทันที
ข้อ 56 แบบประกาศนียบัตรรับรองประกาศนียบัตรที่ออกโดยรัฐภาคีอื่นให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในผนวก 5 ของข้อบังคับนี้
< Top – ขึ้นบนสุด >
การฝึกอบรมและออกประกาศนียบัตรรับรองผู้ทำการในเรือเฉพาะประเภท
ข้อ 57 เรือเฉพาะประเภทในข้อบังคับนี้ ได้แก่
(1) เรือบรรทุกน้ำมัน
(2) เรือบรรทุกสารเคมี
(3) เรือบรรทุกก๊าซเหลว
(4) เรือบรรทุกผู้โดยสารและล้อเลื่อนเดินทะเลระหว่างประเทศ
(5) เรือบรรทุกผู้โดยสารเดินทะเลระหว่างประเทศ
ข้อ 58 การฝึกอบรมและการออกประกาศนียบัตรรับรองผู้ทำการในเรือบรรทุกของเหลวในถังระวางเป็นตามข้อกำหนดดังนี้
(1) นายเรือ นายประจำเรือและลูกเรือผู้ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เฉพาะและมีความรับผิดชอบเกี่ยวกับสินค้าหรืออุปกรณ์ทำงานสินค้าบนเรือบรรทุกของเหลวในถังระวาง นอกจากจะต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามหลักเกณฑ์การออกประกาศนียบัตรแสดงความรู้ความสามารถ และ/หรือ ประกาศนียบัตรฝึกอบรมตามข้อบังคับนี้แล้ว จะต้องผ่านการฝึกอบรมและการปฏิบัติงาน ดังต่อไปนี้
(1.1) ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรการดับไฟที่กรมเจ้าท่ารับรองหรือหลักสูตรการดับไฟชั้นสูงตามที่กำหนดไว้ในผนวก 3 ตารางที่ 6 ของข้อบังคับนี้
(1.2) มีระยะเวลาปฏิบัติงานบนเรือบรรทุกของเหลวในถังระวางอย่างน้อยสามเดือน โดยได้ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของเรือและความปลอดภัยในการปฏิบัติงานบนเรือ หรือ
(1.3) ผ่านการฝึกอบรมที่ได้รับการรับรองตามหลักสูตรพื้นฐานเรือบรรทุกของเหลวในถังระวางตามที่กรมเจ้าท่ากำหนด
(2) นายเรือ ต้นกล ต้นเรือ รองต้นกล และบุคคลซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงเกี่ยวกับการบรรทุกขนถ่ายและดูแลสินค้าในขณะเดินทางหรือปฏิบัติงานสินค้าบนเรือบรรทุกของเหลวในถังระวางจะต้องมีคุณสมบัติเพิ่มเติมดังต่อไปนี้
(2.1) ผ่านการฝึกอบรมที่ได้รับการรับรองตามหลักสูตรความปลอดภัยบนเรือบรรทุกของเหลวในถังระวางชั้นสูง สำหรับเรือบรรทุกน้ำมันหรือสารเคมีหรือก๊าซเหลวซึ่งอาจรวมถึงการใช้เครื่องฝึกจำลองการทำงานสินค้าเหลว และผ่านการประเมินความรู้ความสามารถตามมาตรฐานที่กรมจ้าท่ากำหนด
(2.2) มีระยะเวลาปฏิบัติงานบนเรือบรรทุกของเหลวในถังระวางอย่างน้อยสามเดือนโดยได้ทำหน้าที่ด้านการปฏิบัติงานของเรือหลังจากผ่านการอบรมตาม (2.1) ในกรณีที่จะต้องผ่านการฝึกอบรมมากกว่าหนึ่งประเภท อธิบดีมีอำนาจกำหนดระยะเวลาปฏิบัติงานบนเรือเป็นอย่างอื่นได้
(3) นายเรือ นายประจำเรือและบุคคลที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องตาม (2) ผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตาม (1) และ (2) ให้นำเอกสารหลักฐานมายื่นต่อกรมเจ้าท่าเพื่อออกประกาศนียบัตรรับรองผู้ทำการในเรือเฉพาะประเภท
(4) ประกาศนียบัตรรับรองผู้ทำการในเรือเฉพาะประเภท ให้มีอายุห้าปี และในการต่ออายุประกาศนียบัตรนี้ นายเรือ นายประจำเรือและลูกเรือต้องแสดงหลักฐานว่ามีระยะเวลาปฏิบัติงานบนเรือบรรทุกของเหลวในถังระวางประเภทใดก็ตามมาแล้วอย่างน้อยสามเดือนหรือมีประสบการณ์ทำงานที่เทียบเท่ากับการปฏิบัติงานบนเรือดังกล่าวมาแล้ว ในช่วงเวลาห้าปีที่ผ่านมา และการต่ออายุในคราวหนึ่งไม่เกินห้าปี
(5) ในกรณีที่ประกาศนียบัตรผู้ทำการในเรือเฉพาะประเภทไม่สามารถต่ออายุเนื่องจากขาดคุณสมบัติตาม (4) นายเรือ นายประจำเรือหรือบุคคลที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องจะต้องผ่านการอบรมหลักสูตรเรือบรรทุกของเหลวในถังระวางตาม (2.1) ของข้อนี้
ข้อ 59 การฝึกอบรมและการออกประกาศนียบัตรรับรองผู้ทำการในเรือเฉพาะประเภทอื่น นอกจากเรือบรรทุกของเหลวในถังระวางให้เป็นไปตามที่กรมเจ้าท่ากำหนด
< Top – ขึ้นบนสุด >
การฝึกอบรมความปลอดภัยและการฝึกความคุ้นเคยสำหรับการทำหน้าที่ในเรือ
ข้อ 60 บุคคลใดก่อนได้รับการมอบหมายหน้าที่บนเรือ บุคคลนั้นต้องได้รับการฝึกความคุ้นเคยกับการทำการบนเรือเสียก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นผู้มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการดำรงชีพในทะเล และสถานการณ์ฉุกเฉินตามรายละเอียดที่กรมเจ้าท่ากำหนด
ข้อ 61 คนประจำเรือไทยและคนประจำเรือทุกคนในเรือไทยจะต้องผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรพื้นฐาน ความปลอดภัยดังต่อไปนี้
(1) การดำรงชีพในทะเล
(2) การป้องกันและการดับไฟ
(3) การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
(4) ความปลอดภัยของบุคคลและความรับผิดชอบต่อสังคม
รายละเอียดของหลักสูตรให้เป็นไปตามผนวก 3 ตารางที่ 1 ตารางที่ 2 และตารางที่ 4 ของข้อบังคับนี้ตามลำดับ
ข้อ 62 คนประจำเรือทุกคนที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ปล่อย หรือประจำยานชูชีพ หรือเรือช่วยชีวิตนอกเหนือจากเรือเร็วช่วยชีวิต ก่อนเข้าทำหน้าที่ดังกล่าว ต้องผ่านการฝึกอบรมตามหลักสูตรที่กำหนดไว้ในผนวก 3 ตารางที่ 5 ของข้อบังคับนี้
ข้อ 63 คนประจำเรือทุกคนที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการดังไฟ ก่อนเข้าทำหน้าที่ดังกล่าว ต้องผ่านการฝึกอบรมตามหลักสูตรการดับไฟชั้นสูงตามหลักสูตรที่กำหนดไว้ในผนวก 3 ตารางที่ 6 ของข้อบังคับนี้
ข้อ 64 คนประจำเรือทุกคน ที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ปฐมพยาบาลบนเรือ ก่อนเข้าทำหน้าที่ดังกล่าว ต้องผ่านการฝึกอบรมตามหลักสูตรที่กำหนดไว้ในผนวก 3 ตารางที่ 7 ของข้อบังคับนี้
ข้อ 65 คนประจำเรือทุกคน ที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาพยาบาลบนเรือ ก่อนเข้าทำหน้าที่ดังกล่าว ต้องผ่านการฝึกอบรมตามหลักสูตรที่กำหนดไว้ในผนวก 3 ตารางที่ 8 ของข้อบังคับนี้
ข้อ 66 บุคคลใดหรือคนประจำเรือใดเข้ารับการฝึกอบรมและผ่านการประเมินความรู้ความสามารถตามหลักสูตรฝึกอบรมที่ได้รับการรับรอง ตามกำหนดไว้ในผนวก 3 ของข้อบังคับนี้และได้รับประกาศนียบัตรฝึกอบรมให้เก็บรักษาประกาศนียบัตรฝึกอบรมดังกล่าวไว้ประจำบนเรือเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้
ข้อ 67 ในการสมัครสอบเพื่อขอรับประกาศนียบัตรแสดงความรู้ความสามารถของฝ่ายเดินเรือและฝ่ายช่างกลตามข้อบังคับนี้ ตั้งแต่ชั้นนายประจำเรือขึ้นไป ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องต้องแสดงประกาศนียบัตรฝึกอบรมตามที่กำหนดไว้ในส่วนนี้ ตามความเหมาะสม การบันทึกข้อมูลของประกาศนียบัตรฝึกอบรมต่าง ๆ ของบุคคลตามวรรคหนึ่ง ให้กรมเจ้าท่าและเจ้าของเรือ ผู้จัดการหรือบริษัทที่ว่าจ้างนายเรือ นายประจำเรือต่าง ๆ นั้น มีหน้าที่จัดเก็บบันทึกข้อมูลนี้
< Top – ขึ้นบนสุด >
ค่าธรรมเนียม
ข้อ 68 ค่าธรรมเนียมการขอรับประกาศนียบัตรแสดงความรู้ความสามารถในฝ่ายเดินเรือ ให้เรียกเก็บในอัตราต่อไปนี้
1) | ประกาศนียบัตรนายเรือ ของเรือกลเดินทะเล ขนาด 3,000 ตันกรอสหรือมากกว่า | 5,000 บาท |
(2) | ประกาศนียบัตรนายเรือ ของเรือกลเดินทะเล ขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส | 5,000 บาท |
(3) | ประกาศนียบัตรต้นเรือ ของเรือกลเดินทะเล ขนาด 3,000 ตันกรอสหรือมากกว่า | 4,000 บาท |
(4) | ประกาศนียบัตรต้นเรือ ของเรือกลเดินทะเล ขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส | 4,000 บาท |
(5) | ประกาศนียบัตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือ ของเรือกลเดินทะเล ขนาด 3,000 ตันกรอสหรือมากกว่า | 3,500 บาท |
(6) | ประกาศนียบัตรนายเรือ ของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่ง ขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส | 4,000 บาท |
(7) | ประกาศนียบัตรต้นเรือ ของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส | 3,500 บาท |
(8) | ประกาศนียบัตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่ง ขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส | 3,000 บาท |
(9) | ประกาศนียบัตรนายเรือ ของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่ง ขนาดต่ำกว่า 500 ตันกรอส | 1,000 บาท |
(10) | ประกาศนียบัตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่ง ขนาดต่ำกว่า 500 ตันกรอส | 800 บาท |
(11) | ประกาศนียบัตรลูกเรือเข้ายามสะพานเดินเรือ ของเรือกลเดินทะเล | 500 บาท |
ข้อ 69 ค่าธรรมเนียมการสอบขอรับประกาศนียบัตรแสดงความรู้ความสามารถในฝ่ายช่างกลให้เรียกเก็บในอัตราต่อไปนี้
(1) | ประกาศนียบัตรต้นกล ของเรือกลเดินทะเล ขนาดกำลังขับเคลื่อน 3,000 กิโลวัตต์หรือมากกว่า | 5,000 บาท |
(2) | ประกาศนียบัตรต้นกล ของเรือกลเดินทะเล ขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 – 3,000 กิโลวัตต์ | 4,500 บาท |
(3) | ประกาศนียบัตรรองต้นกล ของเรือกลเดินทะเล ขนาดกำลังขับเคลื่อน 3,000 กิโลวัตต์หรือมากกว่า | 4,000 บาท |
(4) | ประกาศนียบัตรรองต้นกล ของเรือกลเดินทะเล ขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 – 3,000 กิโลวัตต์ | 3,500 บาท |
(5) | ประกาศนียบัตรนายประจำเรือฝ่ายช่างกล ของเรือกลเดินทะเล ขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 กิโลวัตต์หรือมากกว่า | 3,000 บาท |
(6) | ประกาศนียบัตรลูกเรือเข้ายามฝ่ายช่างกล ของเรือกลเดินทะเล | 500 บาท |
ข้อ 70 ค่าธรรมเนียมการสอบแก้ตัวในการสอบประกาศนียบัตรแสดงความรู้ความสามารถให้เรียกเก็บในอัตราต่อไปนี้
(1) การสอบแก้ตัวรายวิชา ๆ ละ 400 บาท
(2) การสอบแก้วตัวในการสอบสัมภาษณ์ 500 บาท
ข้อ 71 ค่าธรรมเนียมการขอรับประกาศนียบัตรรับรองและใบรับรองต่าง ๆ ให้เรียกเก็บในอัตรา ดังนี้
(1) ประกาศนียบัตรรับรองผู้ทำการในเรือเฉพาะประเภท 500 บาท
(2) ประกาศนียบัตรรับรองพนักงานวิทยุในเรือเดินทะเล 1,000 บาท
(3) ใบรับรองการฝึกอบรมและใบรับรองอื่น ๆ 500 บาท
ข้อ 72 ค่าธรรมเนียมการต่ออายุหรือออกใบแทนประกาศนียบัตรแสดงความรู้ความสามารถ และการออกประกาศนียบัตรรับรองประกาศนียบัตรที่ออกโดยรัฐภาคีอื่น ให้เรียกเก็บกึ่งหนึ่งของอัตราที่กำหนดไว้ใน ข้อ 68 ข้อ 69 และข้อ 71 แล้วแต่กรณี
ข้อ 73 ค่าธรรมเนียมตามข้อ 68 ข้อ 69 ข้อ 70 ข้อ 71 และข้อ 72 ให้เรียกเก็บกึ่งหนึ่งของอัตราที่กำหนด สำหรับบุคคลผู้ที่ปฏิบัติราชการและได้รับอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ที่อธิบดีมอบหมาย
ข้อ 74 ในกรณีที่ประกาศนียบัตรหรือใบรับรองประกาศนียบัตรสูญหายไป เนื่องจากเรืออับปาง และผู้ถือใบประกาศนียบัตรหรือใบรับรองดังกล่าวแสดงหลักฐานที่เชื่อถือได้ ให้ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมการออกใบแทนตามข้อ 72
< Top – ขึ้นบนสุด >
บทเฉพาะกาล
ข้อ 75 ประกาศนียบัตรที่ออกให้ตามข้อบังคับกรมเจ้าท่าว่าด้วย การสอบความรู้ผู้ทำการในเรือ พ.ศ. 2532 ให้สามารถใช้ทำการในเรือกลเดินทะเลระหว่างประเทศและเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่ง ได้จนถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 โดยการเทียบระดับชั้นประกาศนียบัตรตามตารางเทียบระดับชั้นประกาศนียบัตรฝ่ายเดินเรือและฝ่ายช่างกล ตามข้อ 77
ข้อ 76 ผู้มีประกาศนียบัตรที่ออกให้ตามข้อบังคับกรมเจ้าท่าว่าด้วยการสอบความรู้ผู้ทำการในเรือ พ.ศ. 2532 ประสงค์จะขอรับประกาศนียบัตรฉบับใหม่ที่ออกให้ตามข้อบังคับนี้ให้ปฏิบัติตามบทบัญญัติในส่วนที่ 4 ของข้อบังคับนี้และประกาศนียบัตรฉบับใหม่จะออกให้ตามตารางเทียบระดับชั้นประกาศนียบัตรฝ่ายเดินเรือและฝ่ายช่างกลตามข้อ 77
ข้อ 77 ตารางเทียบระดับชั้นประกาศนียบัตรฝ่ายเดินเรือและฝ่ายช่างกล
ประกาศนียบัตรทีออกให้ตามข้อบังคับกรมเจ้าท่าว่าด้วยการสอบความรู้ผู้ทำการในเรือ พ.ศ. 2532 | ประกาศนียบัตรที่ออกให้ตามข้อบังคับกรมเจ้าท่า ว่าด้วยการฝึกอบรม การสอบความรู้และการออกประกาศนียบัตรผู้ทำการในเรือ พ.ศ. 2541 |
1. ประกาศนียบัตรชั้น 1 (นายเรือ) | 1. ประกาศนียบัตรนายเรือของ เรือกลเดินทะเล ขนาด 3,000 ตันกรอสหรือมากกว่า |
2. ประกาศนียบัตรชั้น 2 (ต้นหนที่หนึ่ง) (ระบุข้อกำหนดทำหน้าที่นายเรือ) | 2. ประกาศนียบัตรนายเรือของ เรือกลเดินทะเล ขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส |
3. ประกาศนียบัตรชั้น 2 (ต้นหนที่หนึ่ง) | 3. ประกาศนียบัตรต้นเรือของ เรือกลเดินทะเล ขนาด 3,000 ตันกรอสหรือมากกว่า |
4. ประกาศนียบัตรชั้น 3 (ต้นหนที่สอง) (ระบุข้อกำหนดทำหน้านายเรือ) | 4. ประกาศนียบัตรต้นเรือของ เรือกลเดินทะเล ขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส |
5. ประกาศนียบัตรชั้น 3 (ต้นหนที่สอง) | 5. ประกาศนียบัตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือของ เรือกลเดินทะเล ขนาด 500 ตันกรอสหรือมากกว่า |
6. ประกาศนียบัตรชั้น 4 (ต้นหนที่สาม) | 6. ประกาศนียบัตรนายเรือของ เรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่ง ขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส |
7. ประกาศนียบัตรนายเรือของเรือเดินในประเทศ(ไม่เกิน 1,600 ตันกรอส) | 7. ประกาศนียบัตรต้นเรือของ เรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่ง ขนาด 500 – 3,000 ตันกรอส |
8. ประกาศนียบัตรนายเรือของเรือเดินในประเทศ (ไม่เกิน 250 ตันกรอส) | 8. ประกาศนียบัตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาด 500 -3,000 ตันกรอส |
9. ประกาศนียบัตรนายเรือของเรือเดินในประเทศ (ไม่เกิน 500 ตันกรอส) | 9. ประกาศนียบัตรนายเรือของ เรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่ง ขนาด ต่ำกว่า 500 ตันกรอส |
10. ประกาศนียบัตรนายท้ายเรือกลเดินทะเล ชั้นหนึ่ง | 10. ประกาศนียบัตรนายประจำเรือฝ่ายเดินเรือของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่ง ขนาดต่ำว่า 500 ตันกรอส |
11. ประกาศนียบัตรนายท้ายเรือกลเดินทะเล ชั้นสอง | 11. ประกาศนียบัตรลูกเรือยามสะพานเดินเรือของเรือกลเดินทะเล |
< Top – ขึ้นบนสุด >
ประกาศนียบัตรที่ออกให้ตามข้อบังคับกรมเจ้าท่า ว่าด้วยการสอบความรู้ผู้ทำการในเรือ พ.ศ. 2532 | ประกาศนียบัตรทีออกให้ตามข้อบังคับกรมเจ้าท่า ว่าด้วยการฝึกอบรมการสอบความรู้และการออกประกาศนียบัตร ผู้ทำการในเรือ พ.ศ. 2541 | |
เรือกลเดินทะเลระหว่างประเทศ | เรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่ง | |
1. นายช่างกลเรือชั้นหนึ่ง | 1. ต้นกลของเรือกลเดินทะเล ขนาด กำลังขับเคลื่อน 3,000 กิโลวัตต์ หรือมากกว่า | |
2. นายช่างกลเรือชั้นสอง | 2. ต้นกลของเรือกลเดินทะเล ขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 – 3,000 กิโลวัตต์ | 1. ต้นกลของเรือกลเดินทะเล ใกล้ฝั่งขนาดกำลังขับเคลื่อน 3,000 กิโลวัตต์หรือมากกว่า |
3. นายช่างกลเรือชั้นสาม นายช่างกลเรือชั้นสาม (ชำนาญงาน) | 3. รองต้นกลของเรือกลเดินทะเลขนาดกำลังขับเคลื่อน 3,000 กิโลวัตต์หรือมากกว่า | 2. ต้นกลของเรือกลเดินทะเล ใกล้ฝั่งขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 – 3,000 กิโลวัตต์ |
4. -ไม่มีในข้อบังคับ | 4. รองต้นกลของเรือกลเดินทะเลขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 – 3,000 กิโลวัตต์ | 3. รองต้นกลของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาดกำลังขับเคลื่อน 3,000 กิโลวัตต์หรือมากกว่า |
5. คนใช้เครื่องจักรยนต์ ชั้นหนึ่งพิเศษ คนใช้เครื่องจักรยนต์ชั้นหนึ่งพิเศษ (ชำนาญงาน) | 5. นายประจำเรือฝ่ายช่างกลของเรือกลเดินทะเล ขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 กิโลวัตต์หรือมากกว่า | 4. รองต้นกลของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่ง ขนาดกำลังขับเคลื่อน 750 – 3,000 กิโลวัตต์ |
6. -ไม่มีในข้อบังคับ | 5. นายประจำเรือฝ่ายช่างกลของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่งขนาดกำลังขับเคลื่อน750 กิโลวัตต์หรือมากกว่า | |
7. -ไม่มีในข้อบังคับ | 6. ลูกเรือเข้ายามฝ่ายช่างกลของเรือกลเดินทะเล | |
8. คนใช้เครื่องจักรยนต์ชั้นหนึ่ง | 6. ลูกเรือเข้ายามฝ่ายช่างกลของเรือกลเดินทะเลใกล้ฝั่ง |
ข้อ 78 ให้อธิบดีกรมเจ้าท่าเป็นผู้รักษาการตามข้อบังคับนี้และให้มีอำนาจออกระเบียบ ประกาศเพื่อการปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อบังคับนี้
ประกาศ ณ วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2541
จงอาชว์ โพธิสุนทร
อธิบดีกรมเจ้าท่า
หมายเหตุ อักษรตัวเน้นขีดเส้นใต้ เป็นข้อความที่อยู่ในระหว่างดำเนินการขอแก้ไขเพิ่มเติมตามข้อบังคับการฝึกอบรม การสอบฯ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2542