จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์ วันที่ 11 มิถุนายน 2552 08:46 น.
รำลึกความหลัง – ภาพที่ไม่ได้ระบุวันเดือนปี เผยแพร่โดยสถานทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยเมื่อวันพุธ (10 มิ.ย.) แสดงให้เห็นเรือวาร์ (VAR) ซึ่งเป็นเรือบัญชาการของกองเรือฝรั่งเศสประจำมหาสมุทรอินเดียกับเรือสนับสนุนอีกลำหนึ่ง ขณะนี้ VAR กำลังจอดทอดสมอในน่านน้ำอ่าวไทยใกล้กับแหลมฉบัง จ.ชลบุรี ผู้บัญชาการเรือ พล.ร.ท.เฌราร์ด วาแล็ง มีกำหนดจะเข้าร่วมพิธีบวงสรวงร่วมกับฝ่ายไทย ที่ค่ายตากสิน จ.จันทบุรี ในวันพฤหัสบดีนี้.
ผู้บัญชาการกองเรือฝรั่งเศสประจำมหาสมุทรแปซิฟิก พลเรือโทเฌราร์ด วาแล็ง (Gerard Valin) พร้อมคณะจะเข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา รำลำถึงทหารกล้าของทั้งสองฝ่ายที่สละชีวิตในภารกิจเพื่อประเทศชาติ ซึ่งกำลังจะมีขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 100 ปี
ขณะเดียวกันฝรั่งเศสกำลังช่วยไทยฟื้นฟูสิ่งปลูกสร้างภายในค่ายทหารใน จ.จันทบุรี ที่สร้างตั้งแต่ ร.ศ.112 ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายฝรั่งเศสกล่าวว่า ทั้งสองเหตุการณ์นี้ เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ กับความร่วมมือในยุคใหม่
“พวกเขา (ชาวฝรั่งเศส) กำลังศึกษาบทเรียนจากอดีต บทเรียนที่ว่าเราจะต้องไม่กระทำอีก” พล.ร.ท.วางแล็ง กล่าวระหว่างแถลงข่าว ที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทยเมื่อวันพุธ (10 มิ.ย.)
พิธีวางพวงมาลาครั้งประวัติศาสตร์จะจัดขึ้น ณ บริเวณอาคารกองบัญชาการทหารฝรั่งเศส ที่สร้างขึ้นหลังจากได้ใช้กำลังทหารบังคับราชอาณาจักรสยาม และผนวกดินแดนที่เรียกว่า “เขมรส่วนนอก” เข้าในดินแดนอินโดจีนฝรั่งเศส เมื่อ ร.ศ.112 (พ.ศ.2436)
ปัจจุบันอาคารดังกล่าวรวมทั้งสิ่งปลูกสร้างอีกหลายหลัง ตั้งอยู่ภายในค่ายตากสิน จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 กองพลนาวิกโยธิน ของกองทัพเรือไทย
ผู้บัญชาการกองเรือประจำมหาสมุทรอินเดียซึ่งมีสายบังคับบัญชาขึ้นตรงต่อผู้บัญชาการกองทัพฝรั่งเศสกับประธานาธิบดีห่างฝรั่งเศส เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย นายลอร็องต์ บิลี (Laurent Bili) กับทูตทหารประจำกรุงเทพฯ น.อ.แอร์วาน ชาร์ลส์ (Erwan Charles) จะเข้าร่วมพิธีรำลึกความสัมพันธ์ครั้งนี้
“ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งว่ามันเป็นสัญลักษณ์อย่างมาก ..มีความสำคัญเป็นอย่างมาก” น.อ.ชาร์ลส์กล่าว ระหว่างการร่วมแถลงข่าว
นายทหารผู้นี้กล่าวด้วยว่า พิธีวางพวงมาลาจัดขึ้นเพื่อแสดงความคาวระต่อดวงวิญญาณของทหารทั้งสองฝ่าย ซึ่งได้สละชีวิตเพื่อชาติของตน โดยไม่ได้แบ่งแยก
นอกเหนือจากการประจัญกันทางทหารที่ดำเนินติดต่อกันยาวนานหลายทศวรรษ ราชนาวีไทยกับกองเรือฝรั่งเศสในภาคตะวันออกไกล ได้เปิดฉากการสู้รบขึ้นในวันที่ 17 ม.ค.2484 ในเหตุการณ์ที่เรียกว่า “ยุทธนาวีที่เกาะช้าง” ในท้องที่ จ.ตราดปัจจุบัน
ไทยเสียเรือรบไป 3 ลำในยุทธนาวี คือ เรือหลวงธนบุรี เรือหลวงสงขลา และเรือหลวงชลบุรี ทหารไทยเสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 36 นาย
ตามข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ฝรั่งเศสได้ใช้เรือทั้งหมด 9 ลำ ในการสู้รบทางทะเลครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งรวมทั้งเรือปืนจำนวน 4 ลำ เรือสินค้าขนาดใหญ่ติดอาวุธอีก 1 ลำ กับเรือดำน้ำอีก 1 ลำ โดยมีลามอตต์ปิเกต์ เป็นเรือธง
แม้ฝรั่งเศสจะกล่าวอ้างมาตลอดว่า ไม่มีความสูญเสียใดๆ ในยุทธนาวีที่เกาะช้าง ซึ่งถือเป็นยุทธนาวีเพียงครั้งเดียวของกองทัพเรือไทย แต่ฝ่ายไทยยืนยันว่าเรือลามอตต์ปิเกต์ถูกเรือหลวงธนบุรียิงจนมองเห็นไฟลุกอยู่ส่วนท้ายเรือ
นั่นคือยุทธนาวีที่เกิดขึ้นในปีแรกของสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งฝรั่งเศสประกาศสงครามกับเยอรมนีในยุโรป ขณะต้องเผชิญหน้ากับกองทัพพระจักรพรรดิญี่ปุ่นในอินโดจีน
ในเวลาต่อมาราชอาณาจักสยามได้ดินแดนจันทบุรี-ตราดกลับคืน รวมทั้งได้ครอบครองดินแดนที่เป็น จ.เสียมราฐ พระตะบอง และ ศรีโสภณ ซึ่งเป็น จ.บ้านใต้มีชัย (Banteay Meanchey) ของกัมพูชาในปัจจุบัน ภายใต้สัญญามิตรภาพกับกองทัพญี่ปุ่น
สถานการณ์ได้ผันเปลี่ยนไปอีกครั้งหนึ่งเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงในปี 2488 โดยญี่ปุ่นเป็นฝ่ายแพ้และฝรั่งเศสได้กลับคืนสู่ดินแดนอินโดจีนอีกครั้ง ราชอาณาจักรสยามต้องคืนดินแดนกัมพูชาไป แลกกับการได้จันทบุรีและตราด
อย่างไรก็ตามอิทธิพลของฝรั่งเศสในอนุภูมินี้สิ้นสุดลงในอีก 10 ปีต่อมา เมื่อกองทัพของเจ้าอาณานิคมถูกต้อนไปจนมุมที่เดียนเบียนฟู (Dien Bien Phu) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนาม และพ่ายแพ้แก่กองทัพเวียดมินห์ ที่นำโดยอดีตประธานโฮจิมินห์ของเวียดนามในปี 2497 นำเข้าสู่ยุคใหม่กับสงครามอินโดจีนครั้งใหม่ ที่ปะทุขึ้นในทศวรรษถัดมา และยุติลงในปี 2518 ด้วยความพ่ายแพ้ของมหาอำนาจชาติใหม่คือ สหรัฐฯ
พล.ร.ท.วางแล็ง ซึ่งบิดาได้ร่วมสู้รบในสมรภูมิรบเดียนเบียนฟูกล่าวว่า ในปัจจุบันนโยบายของฝรั่งเศสได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง กลายเป็นนโยบายสร้างสันติภาพ หลีกเลี่ยงการใช้กำลัง และแก้ไขปัญหาต่างๆ ด้วยการเจรจา
ผู้บัญชาการกองเรือประจำมหาสมุทรอินเดียของฝรั่งเศสกำลังเยือนไทยพร้อมเรือวาร์ (VAR) ซึ่งเป็นเรือสนับสนุนส่งกำลังบำรุงติดอาวุธ ที่ถูกใช้เป็นเรือบัญชาการ
ในสัปดาห์นี้เรือวาร์จอดลอยลำในอ่าวไทยนอกฝั่งแหลมฉบัง จ.ชลบุรี และ พล.ร.ท.วาแล็ง กล่าวว่าระหว่างนี้จะได้พบหารือกับผู้บัญชาการทหารสูงสด ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศและผู้บัญชาการทหารบกของไทยด้วย
นอกจากนั้นทหารเรือฝรั่งเศสยังมีกำหนดขึ้นบกประกอบกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ใน จ.ชลบุรี รวมทั้งไปเยี่ยมเยือนโรงเรียนบางแห่งด้วย
การทำพิธีวางพวงมาลารำลึกสัมพันธ์ไทย-ฝรั่งเศสครั้งประวัติศาสตร์นี้ ยังมีขึ้นในช่วงเดือนแห่ง “เทศกาลวัฒนธรรมฝรั่งเศส-ไทย” (La Fete) ประจำปี 2552 ซึ่งเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา และกำลังจะมีการแสดงวัฒนธรรม การจัดนิทรรศการในหลากหลายเนื้อหา ไปจนถึงเดือน ต.ค.ศกนี้
ขณะเดียวกันสถานทูตในกรุงเทพฯ ได้ระดมทุนช่วยเหลือมูลนิธิอนุรักษ์โบราณสถานของกองทัพเรือกับกรมศิลปากรของไทย เพื่อบูรณะอาคารโบราณสถานในค่ายตากสิน ซึ่งจะต้องใช้เงินงบประมาณราว 50 ล้านบาท
สิ่งปลูกสร้างภายในค่ายตากสิน ซึ่งในปัจจุบันกลายเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ของไทยนั้นมีจำนวนรวม 8 หลัง ประกอบด้วย อาคารกองบัญชากาทหารฝรั่งเศส อาคารคลังพัสดุทหาร อาคารที่พักทหารรักษาการณ์ อาคารที่คุมขังทหาร อาคารกระสุนดินดำ 2 หลัง กับอาคารกองรักษาการณ์ ซึ่งปัจจุบันชำรุดทรุดโทรมลงไปตามกาลเวลาที่ผ่านไปกว่า 1 ศตวรรษ
ภายใต้โครงการดังกล่าวยังรวมถึงการบูรณะแนวคันดินและคูเมืองที่สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชอีกด้วย
เอกอัครราชทูตฝรั่งเศสได้ประสานงานไปยังคณะกรรมการสมาคมฝรั่งเศส-ไทยเพื่อสาธารณประโยชน์ ตลอดจนตัวแทนภาคเอกชนฝรั่งเศสในประเทศไทย บริษัทขนาดใหญ่ต่างๆ ของฝรั่งเศสเพื่อให้ความร่วมมือช่วยเหลือทั้งด้านเงินทุนและเทคนิค
ตามเอกสารที่แจกจ่ายโดยสถานทูตในกรุงเทพฯ ความร่วมมือช่วยเหลือดังกล่าวเป็นการยืนยันถึงความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่างไทยกับฝรั่งเศสในปัจจุบัน