marinerthai

“สปีดโบท” ฝีมือช่างไทย กระตุ้นเที่ยวทะเลไทยแสนถูก

จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์  วันที่ 18 พฤศจิกายน 2552

เรือที่อยู่ในขั้นตอนการทำภายในอู่ต่อเรือ

การเดินทางท่องเที่ยวทางทะเล ถือได้ว่าเป็นการเดินทางที่มีต้นทุนสูง แต่สำหรับประเทศไทย การเดินทางท่องเที่ยวทางทะเลมีต้นทุนที่ถือว่าไม่แพงเลย เมื่อเทียบกับในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งที่ความพร้อมด้านทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงามไม่แพ้ชาติใดในโลก

และที่กล่าวมาข้างต้น ส่วนหนึ่งรวมถึงการให้บริการเรือสปีดโบท ที่บ้านเราให้บริการในราคาที่ถือว่าไม่แพง สาเหตุมาจากหลายประการ รวมถึงการที่เรามีอู่ต่อเรือในพื้นที่ ส่งผลให้ต้นทุนในการเป็นเจ้าของเรือไม่สูงมาก ผู้ประกอบการรายย่อย สามารถเป็นเจ้าของเรือได้

นายกฤษฎา พิเชฐพงษานนท์ ทายาทเจ้าของอู่อันดาวารี

สำหรับอู่ต่อเรือสปีดโบทในเมืองไทย มีอยู่ไม่กี่ราย ส่วนหนึ่งเพราะเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม และต้องใช้ช่างฝีมือที่มีประสบการณ์ และอู่ต่อเรือรายใหญ่ ในแถบทะเลอันดามัน ในจังหวัดภูเก็ต ก็ต้องยกให้กับ “อันดาวารี”ของ “นายกฤษฎา พิเชฐพงษานนท์”

นายกฤษฎา เล่าว่า อู่ต่อเรือสปีดโบท อันดาวารี เริ่มมาจาก เดิมให้บริการนำเที่ยวทางทะเล และให้บริการเรือเช่า แต่เมื่อช่วงโลว์ซีซัน ลูกค้ามีน้อย เราจึงนำเรือออกมาให้เช่า แต่พอช่วงฤดูท่องเที่ยวเรือให้เช่าไม่เพียงพอ จึงต้องต่อขึ้นมาใหม่ โดยฝีมือการต่อเรือของพ่อ เริ่มจากต่อเรือใช้เองก่อน และบริษัทนำเที่ยวอื่นๆ เรือไม่เพียงพอเช่นกัน หาคนต่อเรือ และเห็นว่าพ่อต่อเรือได้จึงมาว่าจ้างให้เราต่อให้ เป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดอู่ต่อเรือตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลาเกือบ5 ปี

เรืออยู่ระหว่างขั้นตอนการทำ

ปัจจุบันมีลูกค้าต้องการเรือสปีดโบท เพื่อมาให้บริการนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ปีหนึ่งมีลูกค้ามาต่อเรือใหม่ประมาณ 20 ลำ ราคาจะขึ้นอยู่กับขนาด เริ่มต้น ที่ 3 แสนบาท ไปจนถึง 2 ล้าน ราคานี้ไม่รวมเครื่องยนต์เรือ วัสดุที่ใช้เป็นไม้เนื้อแข็ง เช่น ไม้มะค่า ไม้ตะเคียน เป็นต้น ระยะเวลาในการต่อเรือประมาณ 2-3 เดือน ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มบริษัทให้บริการเรือนำเที่ยว ส่วนลูกค้าสั่งต่อเพื่อนำไปใช้ส่วนตัวมีอยู่น้อยมาก เพราะส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะนิยมเช่าเรือมากกว่า ไม่ต้องดูแลรักษา

“ช่วงเวลาที่ลูกค้ามาสั่งต่อเรือ หรือ นำเรือเข้ามาซ่อมจะเป็นช่วงโลว์ซีซัน ทำให้ช่วงเวลาดังกล่าวเราจะมีรายได้จากอู่ต่อเรือ แต่ถ้าเป็นช่วงไฮซีซัน จะมีรายได้จากการให้บริการเช่าเรือ และบริการนำเที่ยวทางทะเล การที่เรามีบริการแบบครบวงจรทำให้กิจการของเราฟื้นตัวอย่างรวดเร็วหลังจากที่กิจการของเราประสบภัยสึนามิที่ผ่านมา”

ท่าเรือที่เปิดให้บริการอยู่ใน จ.ภูเก็ต

นายกฤษฎา เล่าว่า ที่ผ่านมาเรือสปีดโบท มีราคาสูงมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ต้องเสียภาษี และเรือนำเข้าจากต่างประเทศจะเป็นเรือใช้วัสดุไฟเบอร์กลาส แต่พอเราสามารถต่อเรือสปีดโบทในประเทศไทย โดยใช้วัสดุไม้ ซึ่งบ้านเรามีไม้เป็นวัสดุธรรมชาติที่ยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก และราคาไม่แพง ทำให้ราคาเรือสปีดโบทต่อในประเทศไทย ราคาไม่สูงมากนัก เป็นราคาที่บริษัทนำเที่ยวสามารถสั่งซื้อได้หลายลำ และนำไปให้บริการนักท่องเที่ยวในราคาถูกได้

บ้านเรามีผู้ประกอบการนำเที่ยวทางทะเลหลายราย ทำให้การแข่งขันสูงมาก ส่งผลให้มีการตัดราคากันเอง เป็นเหตุผลที่ทำให้บริการนำเที่ยวทางทะเลในบ้านเรามีราคาต่ำกว่าความเป็นจริง ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการในระยะยาว ดังนั้น มีแผนจะจัดตั้งสมาคมขึ้นมาดูแล เพื่อแก้ปัญหาเรื่องราคา เพราะของดีราคาถูกไม่มี ต้องตั้งราคาให้สมเหตุสมผล และเพิ่มบริการที่ดีดีมาช่วยมัดใจลูกค้าได้ดีกว่าสินค้าราคาถูก และบริการไม่ดี

ในส่วนของอู่ต่อเรือ ในอนาคตมีแผนที่จะผลิตโดยใช้วัสดุไฟเบอร์กลาส เพราะข้อดีของไฟเบอร์กลาส น้ำหนักเบา แต่ข้อเสียคือ ต้องขึ้นรูปเรือไม้ ก่อนจะหล่อเป็นไฟเบอร์กลาส ทำให้ต้องจ่ายต้นทุนค่าขี้นรูปอีกต่อหนึ่ง แต่ในอนาคต เรือไฟเบอร์กลาส น่าจะได้รับความนิยมมากว่าเรือไม้ เพราะไม่ต้องดูแลรักษามาก

ทั้งนี้ ในต่างประเทศให้ความสนใจ ต้องการให้เราต่อเรือให้ แต่ติดปัญหาว่า ใช้ไม้เป็นวัสดุไม่สามารถนำเข้าประเทศเขาได้ แต่ถ้าเป็นไฟเบอร์กลาส จะสามารถส่งออกไปขายต่างประเทศได้ และเคลื่อนย้ายได้สะดวก เพราะน้ำหนักเบา ซึ่งประเทศที่น่าสนใจจะเป็นกลุ่มประเทศในทะเลแถบเดียวกัน เพราะใช้เรือลักษณะเดียวกัน เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย

ส่วนรูปแบบของเรือ เกิดขึ้นจากประสบการณ์ของพ่อ ที่อยู่กับเรือมานานกว่า 20 ปี จะรู้ว่าต้องต่อเรือแบบไหนจึงจะเหมาะสมกับการวิ่งแวกคลื่นในทะเลอันดามันที่มีคลื่นแรงๆได้ ส่วนสีสัน และลวดลายขึ้นอยู่กับเจ้าของเรือ

ท่าเรือที่เปิดให้บริการ จ.ภูเก็ต

อย่างไรก็ตาม บริษัทอันดาวารี ดำเนินธุรกิจหลายประเภท ทำให้ต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง ทั้งค่าแรงในการว่าจ้างพนักงาน และซื้อวัสดุอุปกรณ์จำนวนมาก และในช่วงภาวะวิกฤติจากเศรษฐกิจภายใน และภายนอกประเทศ ส่งผลให้บริษัทหมุนเงินไม่ทัน แต่ได้เงินกู้ จากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ในสินเชื่อทั่วไป วงเงิน 31 ล้านบาท และสินเชื่อโครงการชะลอการเลิกจ้างงานวงเงิน 15 ล้านบาท

โทร. 08-1970-5093

Share the Post: