จุมโพ่มือปรุงก้นครัว เรือหลวงแหลมสิงห์

จาก ไทยรัฐฉบับพิมพ์ วันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

นับว่าเป็นความโชคดีของคนไทย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงพระปรีชาสามารถในทุกด้าน โดยเฉพาะกิจการทหารเรือ…พระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีคุณูปการแก่กองทัพเรือเป็นอเนกอนันต์ ซึ่งทหารเรือทุกนายต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น

พระองค์ทรงสนพระทัยในกิจการทหารเรือมาโดยตลอดกระทั่งมีพระราชดำรัสเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง ทรงยกตัวอย่างโครงการสร้างเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชุดเรือ ต.91 มีใจความสำคัญว่า กองทัพทำอะไรพอเพียงเยอะแยะ ช่วยหลายอย่าง ทำได้อย่างทหารเรือ เรือ ต.91 เศรษฐกิจพอเพียง…ด้วยแนวทางพระราชดำริที่ว่า กองทัพเรือควรต่อเรือประเภทนี้ขึ้นใช้เองบ้าง

ล่าสุด ร.ล.แหลมสิงห์ ที่สร้างขึ้นโดยฝีมือคนไทยก็สำเร็จ พร้อมเข้าประจำการและได้ปล่อยลงน้ำเมื่อวันที่ 25 ส.ค.2559 โดย พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผบ.ทร.เป็นประธาน ณ ฐานทัพเรือสัตหีบ จ.ชลบุรี

ว่ากันว่า ร.ล.แหลมสิงห์ เป็นเรือตรวจการณ์ปืนลำใหม่ที่กองทัพเรือจัดหามาเข้าประจำการ กองเรือตรวจอ่าว กองเรือยุทธการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทดแทนเรือตรวจการณ์ระยะปานกลาง ตามยุทธศาสตร์กองทัพเรือ พ.ศ.2551-2560 ที่ได้ทยอยปลดประจำการ โดยกองทัพเรือได้จัดซื้อแบบแปลนรายละเอียดและพัสดุสำหรับการสร้างเรือตรวจการณ์ปืนจากบริษัท มาร์ซัน…โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 699,459,000 บาท

สมรรถนะใช้ปฏิบัติงานร่วมกับเรืออากาศนาวี หน่วยกำลังต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง หน่วยกำลังนาวิกโยธิน และหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ ตั้งแต่ในภาวะปกติ โดยมีขีดความสามารถปฏิบัติการรบ 2 มิติ คือการปฏิบัติการสงครามผิวน้ำ และการต่อสู้ภัยคุกคามทางอากาศ

ผู้การฯบอล น.ต.เกริกยศ สุวรรณโณ ผบ.เรือหลวงแหลมสิงห์ เล่าถึงสมรรถนะของเรือตรวจการณ์ปืนลำนี้ว่า มีความยาวตลอดลำ 58 เมตร ความกว้างกลางลำ 9.3 เมตร ความลึกกลางลำ 5.1 เมตร กินน้ำลึกเต็มที่ 2.9 เมตร ระวางขับน้ำสูงสุด 520 ตัน…มีความเร็วสูงสุดที่ระวางขับน้ำสูงสุด 23 นอต

อาวุธประจำเรือปืนขนาด 76/62 มิลลิเมตร OTO Melara (Refurbished) จำนวน 1 กระบอก ปืนกลขนาด 30 มิลลิเมตร MIS จำนวน 1 กระบอก ปืนกลขนาด .50 นิ้ว จำนวน 2 กระบอก

ระยะปฏิบัติการไม่น้อยกว่า 2,500 ไมล์ทะเล ความคงทนทะเลจนถึงสภาวะระดับ 4 (Sea State 4) มีสถานที่จัดเก็บเสบียงอาหารและระบบน้ำจืด เพียงพอสำหรับการปฏิบัติงานในทะเลต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 7 วัน โดยไม่ต้องรับการส่งกำลังบำรุง มีห้องและที่พักอาศัยเพียงพอสำหรับกำลังพลประจำเรือตามอัตรา 53 นาย

ที่สำคัญ…ขีดความสามารถในการปฏิบัติการต่อต้านภัยผิวน้ำ ด้วยการซ่อนพราง การใช้อาวุธปืนหลัก/ปืนรอง…การชี้เป้าให้กับเรือผิวน้ำและอากาศนาวีต่อการโจมตีที่หมายบนฝั่งด้วยอาวุธปืนหลัก…ปืนรอง การป้องกันฝั่ง การสกัดกั้น รวมถึงการตรวจค้นด้วยระบบตรวจการณ์ …เรือยางท้องแข็งไฟเบอร์กลาสความเร็วสูง

ค้นหา ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลตามแนวชายฝั่ง การสนับสนุนการป้องกันและต่อต้านการก่อการร้ายในทะเลและท่าเรือ การสนับสนุนการปฏิบัติการทางเรืออื่นๆ

ทั้งหมดทั้งปวงกองทัพเรือเล็งเห็นถึงการสร้างเรือขนาดใหญ่ที่พึ่งพาตนเองเป็นหลัก ทว่า…หัวใจของการปฏิบัติภารกิจในทะเลแต่ละภารกิจบุคลากรที่ขาดไม่ได้ คือ พ่อครัว หรือ จุมโพ่ ที่ได้บรรจุประจำเรือ 2 นาย

การพิจารณาคัดเลือกกำลังพล ต้องผ่านการศึกษาอบรมงานด้านโภชนาการ จากกรมพลาธิการทหารเรือ มีหน้าที่รับผิดชอบเสบียงอาหาร…ปรุงอาหารให้แก่กำลังพลในเรือทั้งสิ้น 53 นาย

แรกเลย จ่าเอกวัชรพล อำโพธิ์ศรี ตำแหน่งสูทกรรม ประจำ ร.ล.แหลมสิงห์ ที่ได้ผ่านการคัดเลือกเข้าประจำการ เล่าว่า หลังได้รับคำสั่งจากผู้บังคับการเรือฯ ว่ามีภารกิจต้องออกไปปฏิบัติการในทะเลเป็นเวลากี่วันแล้วในฐานะที่รับผิดชอบเรื่องการตุนเสบียง อย่างแรกเลยต้องรีบคำนวณถึงปริมาณให้พอดีกับระยะเวลาที่ออกปฏิบัติการ ทั้งอาหารสดและอาหารแห้งต้องเตรียมให้พร้อม

โดยคิดเฉลี่ยจากจำนวนกำลังพลว่า ;อาหารที่บริโภคแต่ละวัน มีปริมาณเท่าไหร่ ในจำนวนต่อคน ต่อมื้อ

จากนั้นต้องเขียนเมนูอาหารแต่ละวันว่า มีเมนูอะไรบ้าง เช่น มื้อเช้าก่อน 07.00 น. มื้อกลางวัน 11.30 น. และมื้อเย็น 17.30 น. และบางวันอาจมีมื้อดึก รวมถึงของหวานผลไม้กระป๋อง หรือผลไม้สด

ผมผ่านการอบรมจากกรมพลาธิการทหารเรือในการคำนวณปริมาณอาหาร ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะคำนวณได้อย่างแม่นยำ เพราะกำลังพลบางวันบริโภคไม่เท่ากัน จึงต้องใช้หลักประมาณการให้ใกล้เคียงมากที่สุด

ที่สำคัญอีกเรื่องคือ เมื่อรู้ปริมาณอาหารแล้วก็ต้องรีบไปซื้อกันที่ตลาดสดตามท้องถิ่น เราต้องการของสดที่มีคุณภาพเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาร กะปิ น้ำปลา ปลาร้า หอม กระเทียม เครื่องปรุงรส เนื้อวัว เนื้อหมู ผักต่างๆ ผลไม้ตามฤดู โดยซื้อกันจำนวนมากต้องนำกำลังพลเรือไปช่วยลำเลียงกันเลยทีเดียว หลังจากได้อาหารสดเรียบร้อยแล้ว ต้องนำมาจัดระเบียบวางเรียงในห้องแช่แข็งเพื่อความสะดวกในการนำไปประกอบอาหาร

จ่าเอกวัชรพล กล่าวติดตลกว่า อาหารสดประเภทปลาทู ปลาอินทรี ปลาหมึก ปู หอย ฯลฯ สามารถซื้อหาได้ไม่ยาก ส่วนใหญ่ก็ซื้อจากเรือประมงแต่เขาจะไม่เอาเงิน

ด้วยเหตุผลที่ว่าทหารเรือในฐานะ พี่ใหญ่ เป็นที่เรียกขานกันของชาวประมง และรู้ดีว่าทหารเรือไปที่ไหนมักจะช่วยเหลือดูแลชาวประมงเหมือนญาติสนิทจนเกิดความรักความผูกพัน ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทหารเรือได้กินอาหารสดจากพี่น้องชาวประมงแทบทุกวัน…อิ่มท้อง ของครบ รบเงียบ เฉียบบริการสโลแกนหลักของพวกเรา

ด้าน จ่าเอกฤทธิ์ศักดิ์ พุทธบาล เจ้าหน้าที่กองบริการ กรมพลาธิการทหารเรือ หรือที่เรียกภาษาสากลว่า สหโภชน์ แต่คนเรือมักนิยมเรียกติดปากว่า จุมโพ่ เล่าอย่างอารมณ์ดีขณะควงตะหลิวปรุงอาหารเมนูพิเศษ ปูผัดผงกะหรี่ เพื่อรอเสิร์ฟผู้บังคับบัญชา เมนูอาหารแต่ละวันบนเรือหลวงแหลมสิงห์ รับรองได้เลยว่าไม่มีซ้ำ ในแต่ละวันแต่ละมื้อเลือกสรรอาหารที่มีคุณค่าตามหลักโภชนาการทั้งสิ้น อาหารสดใหม่ทุกมื้อ ยกเว้นก็แต่ปลาร้าที่หมักใส่โหลมาเท่านั้น จ่าเอกฤทธิ์ศักดิ์กล่าวติดตลก

ว่าไปแล้วเมนูหลักอาหารคาวแต่ละวัน ส่วนใหญ่ก็เป็นข้าวสวยร้อนๆ กับข้าวอีก 2 อย่างพร้อมขนมหวานที่คุ้นเคย ถั่วเขียวหรือมันเทศต้มน้ำตาล กล้วยบวชชี และผลไม้ตามฤดู อย่างมื้อนี้เป็นเมนูพิเศษ ก็จะมีหอยเชลล์นึ่ง ปูม้านึ่ง ปลาหมึกลวก พร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ด ส้มตำไทยรสจัดจ้าน และข้าวเหนียวนึ่งร้อนๆ

กำลังพล 80 เปอร์เซ็นต์บนเรือนี้ส่วนใหญ่เป็นคนภาคอีสานชื่นชอบอาหารรสจัด ถ้าวันไหนมีเมนู น้ำพริกปลาร้า น้ำพริกกะปิ ปลาทูทอด ลาบ ไก่ทอด รับรองอร่อยถูกปาก หม่ำกันพุงกาง

แม้จะมีบางครั้งที่คนกินบ่นบ้างอะไรบ้าง เราก็ต้องน้อมรับไว้ปรับปรุงให้มีคุณภาพดีขึ้นเรื่อยๆ ดังคำขวัญที่ว่า ;หนึ่งปรุงหนึ่งพัน ชิมว่าต่างกัน เปรี้ยวเค็มเผ็ด มันหวาน ต่างคนชอบ หากรู้ได้จะน้อมใจ ตอบสนอง …เป็นเรื่องธรรมดาครั้นจะทำให้ถูกปากทุกคนคงยาก ก็อย่าไปใส่ใจเราควรพัฒนาฝีมือให้ดีขึ้น เพื่อสนองต่อผู้บริโภคจะดีกว่ามั้ย

แม้ว่าสองมือเราจะถือตะหลิว ถือทัพพี ไม่ได้ถืออาวุธปืนออกไปปฏิบัติภารกิจข้างนอกก็ตาม แต่เราก็มีเกียรติ มีความภาคภูมิใจที่สามารถทำให้กำลังพลทุกคนบนเรืออิ่มท้องก็สุขใจแล้ว…ได้รับใช้กองทัพเรือและประเทศชาติเช่นกัน.