จาก เดลินิวส์ วันที่ 25 พฤษภาคม 2552
ปี ค.ศ. 1950 อินชอน เคยเป็นสมรภูมิแตกหักในสงครามเกาหลี ปัจจุบันเมืองนี้กำลังต่อสู้เพื่อจะเป็นขุมพลังทางเศรษฐกิจ เมื่อเกาหลีใต้กำลังสร้างมหานครทางเศรษฐกิจใหม่ขึ้นบริเวณชานเมืองอินชอน มีชื่อว่าเมืองนิวซองโด ขณะที่มหานครทางการเงินทุกแห่งจำเป็นต้องเชื่อมต่อกับสนามบินดี ๆ แต่นั่นคือปัญหาเพราะเส้นทางปัจจุบันจากเมืองนิวซองโดก็คือการขับผ่านเมืองซึ่งรถราเบียดเสียดยัดเยียด
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้รัฐบาลตัดสินใจทุ่มงบประมาณกว่า 17.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ สร้างสะพานอินชอนแกรนด์แห่งใหม่ ซึ่งมีความยาว 12.3 กิโลเมตร สะพานใหม่ที่จะลัดผ่านการจราจรของเมืองอินชอน และย่นเวลาเดินทางได้ถึงหนึ่งชั่วโมง
สะพานอินชอนแกรนด์เป็นสามสะพานในหนึ่งเดียว คือ สะพานขึง สะพานเชื่อม และทางยกระดับ สูงถึง 238.5 เมตร ตรงกลางจะเป็นสะพานขึงซึ่งยาวที่สุดแห่งหนึ่งของโลก สะพานจะทอดยาว 800 เมตร ช่วงที่ ยาวที่สุดคือทางยกระดับซึ่งยาวถึง 8.4 กิโลเมตร ทอดตัวจากตะวันออกไปตะวันตก
การสร้างสะพานยาวขนาดนี้อาจไม่ใช่เรื่องยากหากว่ามันตั้งอยู่บนแม่น้ำที่ปราศจากคลื่นลม แต่สะพานแห่งนี้กลับต้องเผชิญหน้ากับอุปสรรค ที่ยากยิ่งกว่า เพราะนี่คือทะเลตะวันตกที่ไม่น่าไว้ใจ พื้นที่ก่อสร้างทอดตัวข้าม ท่าเรืออินชอน หนึ่งในท่าเรือจอแจที่สุดของเกาหลีใต้ คลื่นจากเรือที่ผ่านไปมาอาจทำให้การปฏิบัติงานสั่นสะเทือน ขณะที่ในฤดูหนาวสายลมกระโชกจะทำให้พื้นน้ำปั่นป่วน น้ำขึ้นน้ำลงที่ต่างกันประมาณ 9.2 เมตร เปรียบเหมือนกับตึกสามชั้น ซึ่งนั่นไม่เพียงทำให้ความเร็วของน้ำขณะไหลขึ้นและไหลลงเร็วแต่ยังมีความแรงด้วย
แม้ อลัน แพล็ต รองผู้อำนวยการโครงการ จะเป็นวิศวกรที่มีประสบการณ์กว่า 21 ปี ในการสร้างสะพานอันน่าทึ่งทั้งในเอเชียและยุโรปแต่นี่ก็ไม่ใช่งานง่ายสำหรับเขา เทคโนโลยีอันทันสมัยอย่างการสร้างบล็อก แต่ละชิ้นแล้วนำมาประกอบเหมือนจิ๊กซอว์อาจดูไม่ยาก แต่การทำงานบน ผืนน้ำที่เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลานั้น การจะนำจิ๊กซอว์แต่ละชิ้นมาประกอบให้เป็นรูปร่างถือเป็นงานหินชิ้นหนึ่งเลยทีเดียว
คนงานต้องติดตั้งสมอยึด 24 ตัว ฝังอยู่ในเสากลางสูงตระหง่านแต่ละต้น ซึ่งทำหน้าที่ยึดบรรดาสายเคเบิลที่รับน้ำหนักสะพาน กล่องสมอ ยึดนี้เป็นชิ้นส่วนสำคัญยิ่งของงานซับซ้อนขนาดมหึมา พวกเขาต้องใช้สายเคเบิลยกมันขึ้นไปเกือบ 200 เมตร และติดตั้งมันท่ามกลางเหล็กเส้นสลับซับซ้อนที่ต้องอาศัยความแม่นยำเหมือนมือปืน หลังจากนั้นก็จะเทคอนกรีตล้อมกรอบและหุ้มพื้นที่การทำงานทั้งหมดนี้ไว้
การปิดช่องว่างตรงใจกลางสะพานเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญ พวกเขาจะต้องเอาบล็อกใหญ่ ๆ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนเหล็กกล้าขนาดยักษ์ของตัวถนนบนสะพานขึงวางให้เข้าที่ ชิ้น ที่ใหญ่ที่สุดนั้นหนักถึง 2,450 ตัน ส่วนชิ้นเล็กที่สุดหนักถึงกว่า 1,350 ตัน พวกเขาจะติดตั้งมันทางฝั่งตะวันตก 4 ชิ้น และทางฝั่งตะวันออก 4 ชิ้น มันจะถูกจัดให้เข้าที่โดยเครื่องรับน้ำหนักชั่วคราว จากนั้นก็จะถูกขึงเข้ากับสายเคเบิลบนหอคอยหลัก
พวกเขายกมันขึ้นไปด้วยปั้นจั่นลอยน้ำขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของเกาหลีใต้ แขนหลักของมันสูงเท่าตึก 40 ชั้น หรือราว 130 เมตร ยกน้ำหนักได้ 3,000 ตัน หรือกว่า 40,000 คน ลำเลียงชิ้นส่วนทางยกระดับไปยังสถานที่ก่อสร้างด้วยปั้นจั่นลอยน้ำขนาด 2,000 ตันในช่วงน้ำขึ้นมาตามแนวสะพาน
การวางบล็อกชิ้นใหม่ลงบนเสารับน้ำหนัก ควรวางลงใกล้พอและเกือบจะอยู่ในระดับเดียวกับบล็อกที่ประกอบเข้าที่ไปแล้ว ถ้าบล็อกใหม่กระแทกชิ้นส่วนที่ติดตั้งเข้าที่ไปแล้วทั้งสองชิ้นก็อาจเสียหายอย่างร้ายแรง ดังนั้นคนงานจึงต้องป้องกันไม่ให้ขอบทั้งสองกระแทกกัน พวกเขาแก้ปัญหาด้วยการยัดแผ่นไม้หนา ๆ เข้าไปในช่องว่างเพื่อรับแรงกระแทก
หลังจากงานวางบล็อกทั้งหมดเสร็จสิ้นลงงานหินต่อมาก็คือ การขึงสายเคเบิลให้กับสะพานขึง ที่ยาวที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เคเบิลเส้นสั้นที่สุด ซึ่ง ยาว 112 เมตร ถูกติดตั้งใกล้กับหอคอย ส่วนเส้นยาว ที่สุด ซึ่งยาว 420 เมตร จะขึงไปยังกึ่งกลางของช่วงสะพาน
เคเบิลที่ถูกส่งมาจากโรงงานห่อไว้ด้วยวัสดุห่อหุ้มชั่วคราว ซึ่งทำให้มันมีสภาพใหม่เอี่ยม มันจะได้รับความเสียหายไม่ได้ไม่ว่าจะโดยสถาน การณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะรอยขีดข่วนที่ลึกที่เดียวอาจทำให้น้ำซึมเข้าไปในปลอก และทำให้เคเบิลเหล็กกล้าข้างในเป็นสนิม การติดตั้งมันโดยไม่ให้มีรอยขีดข่วนแม้แต่รอยเดียวจึงเป็นความท้าทายที่ทีมก่อสร้างต้องเผชิญ
การก่อสร้างยังคงดำเนินต่อไปแม้ว่าเกาหลีใต้ยังคงประสบปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ เพราะเมื่อใดที่เมืองใหม่แห่งนี้เสร็จสมบูรณ์ นี่อาจเป็นอีกความหวังที่จะมาช่วยให้เศรษฐกิจที่กำลังซบเซาอยู่นี้ค่อย ๆ ดีขึ้นก็ได้