าก หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์ วันที่ 1 เมษายน 2554
โดย : Destination
เรื่อง /ภาพ นพพร ยรรยง
แดดทออ่อนจับผืนน้ำสีฟ้าครามส่งประกายระยิบระยับ จับต้องสายตาลูกเรือ ผู้ใจหาญอยากออกทะเลในวันฟ้าครึ้ม เราไม่แยแสต่อคำเตือนจากฟากฟ้า เมื่อปลายทางเห็นรำไรอยู่ตรงหน้า ใครเล่าจะล้าถอย ได้แต่วิงวอนให้เมฆก้อนโตลอยเคลื่อนจากไป…
แล้วคำอธิษฐานก็ส่งผล ท้องฟ้าค่อยๆ เปิดกว้าง เมฆก้อนใหญ่ลอยลับไปตามแรงลม “เกาะขาม” เปิดทางให้คนเมืองได้เข้าไปติดเกาะผ่อนคลายความเหนื่อยล้า หลังห้อรถยนต์มาพักใหญ่ แล้วโคลงเคลงอยู่บนเรือลำน้อยที่ออกตัวจากท่าเรือแสมสาร อ.สัตหีบ
ตลอด 30 นาที บนเรือของไต้ก๋งผมขาว ผู้เจนจัดการเดินเรือแถบนี้ เกลียวคลื่นน้อยใหญ่ได้ทดสอบประสบการณ์ของเค้าอีกครั้ง แม้จะไม่ใช่คลื่นใหญ่โตอะไร แต่ทำเอาเพื่อนร่วมทางส่งเสียงตกใจได้พอควร ที่น่าแปลกคงเป็นทะเลอ่าวไทยที่ไม่น่ามีคลื่นลมแปรปรวนตอนใกล้เที่ยงในฤดูนี้
“ทะเลก็เหมือนใจคนล่ะ! พ่อหนุ่ม จะเอาอะไรแน่นอนกับมันเล่า” ไต้ก๋งเอ่ยขึ้นทันทีที่ได้ยินเสียงเราคุยกัน ผืนน้ำค่อยๆ สงบลงเมื่อเรือทิ้งสมอลงสู่พื้นน้ำ หาดทรายขาวยิ้มร่าต้อนรับรอยเท้าน้อยใหญ่ที่กำลังบรรจบเหยียบอย่างทะนุถนอม เกาะเล็กๆ นี้มีความเงียบคลี่ม่านปกคลุมทุกตารางนิ้ว แสงแดดถ่ายทอดสีสันของน้ำใสๆ จนกลายเป็นสีฟ้าอ่อนมองเห็นผืนทราย เปลือกหอย อย่างชัดเจน
บรรดาเพื่อนสนิทที่ร่วมทางมา ต่างเห็นพ้องต้องกันกับการลากเก้าอี้ ปูเสื่อ แล้วนั่งดื่มด่ำพร้อมกินอาหารเบาๆ ก่อนจะเริ่มทำกิจกรรมผ่อนคลายกลางทะเล แดดแผดจ้า ผิดกับเมื่อแรกที่เรือออกจากฝั่ง ยิ่งแดดแรงเท่าไหร่ยิ่งดีกับการดำน้ำตื้น เพราะจะทำให้การชมความงามแบบผิวเผินของใต้ทะเลครั้งนี้ กระจ่างชัดงดงามยิ่งขึ้น
อะไรก็ไม่แน่นอนจริงๆ ครับ บนโลกใบนี้ แผนที่วางมาบางส่วนเริ่มทยอยหดหายไป เพราะบางคนพอได้ที่ ก็ไม่อยากลุกไปไหน แค่มีเพียงเก้าอี้สักตัว ทะเลตรงหน้าสักผืน สายลมเบาๆ คลุกเคล้าเสียงคลื่นกระทบหาด เท่านี้ก็เพียงพอสำหรับการพักผ่อนของคนที่ชอบปลีกวิเวกท่ามกลางเวิ้งทะเล
แต่ระดับความสุขของมนุษย์เรามักต่างกันครับ ถ้าไม่ไปดำน้ำเกรงว่าจะเสียชื่อ อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม เราจึงยกก๊วนที่เหลือไปเช่าอุปกรณ์ดำน้ำซึ่งมีหน้ากากพร้อมท่อหายใจ และชูชีพ เพื่อไปพิสูจน์ความงามใต้ทะเลของที่นี่ จากนั้นก็กระโจนลงสู่ท้องทะเล แต่เพื่อนบางคนดันลืมไปว่าว่ายน้ำไม่เป็น!
ที่สำคัญดันลืมไปอีกว่า…มีชูชีพติดตัว ตะเกียกตะกายอยู่
การดำน้ำที่นี่จะกำหนดให้ดำน้ำตามทุ่นที่กำหนดไว้เพื่อความปลอดภัย แต่ทุกฝีก้าวที่คุณลอยน้ำอยู่ ก็พึงระวังว่าอย่าไปเหยียบย่ำหรือสัมผัสปะการังเพราะมันบอบบางและเสียหายง่าย ความสวยงามบางอย่างควรมองแต่ตาไม่ควรจับต้อง ท้องทะเลแถบนี้ มีปะการังนานาชนิด อาทิ ปะการังเขากวาง ปะการังโต๊ะ ปะการังสมอง ตลอดจนดอกไม้ทะเล
แม้ท้องฟ้าจะเปิดแต่คลื่นลมก็แลดูขัดตา แต่ผมก็ไม่พลาดชมปลาสวยงาม อย่าง ดาวขนนก ปลาผีเสื้อ ปลาหางเหลือง แต่ในใจก็เฝ้าระวังว่าอย่าไปเหยียบเม่นทะเลที่วันนี้ดูชุกชุมเสียจริง เราเพลิดเพลินกับความงามใต้ทะเลอยู่ครู่ใหญ่ พอได้สีผิวเปลี่ยน ก็ขึ้นจากน้ำมานั่งจับเข่าริมหาดพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิด ตามประสาเพื่อนฝูง แต่ยังไม่ทันไร คนที่ไม่ยอมลงน้ำก็บอกว่า เรือท้องกระจกที่นัดไว้พร้อมแล้วนะ…ไปขึ้นเรือกันเถอะ
เรือท้องกระจกพาวนชมปะการังทั้งที่สมบูรณ์และที่กลายเป็นซาก พร้อมเสียงคำอธิบายจากพี่ทหารผู้ดูแลเกาะ “อย่าไปเผลอก้มมองผ่านกระจกมากนะครับ เพราะคุณอาจจะเมาเรือก่อนที่จะเมาความงามจากใต้ทะเล”
หลังขึ้นจากเรือท้องกระจก บางคนก็เดินถ่ายรูปตลอดชายฝั่ง บางคนก็นั่งห้อยขาบนชิงช้า บ้างก็นั่งทอดอารมณ์ไปกับชายหาด แต่ยังไม่ทันไร เวลาและฟ้าฝนก็ดูท่าจะไม่อนุญาตให้พวกเราขึ้นไปชมภาพมุมสูงของเกาะขาม เพราะเมฆฝนก้อนโตกำลังลอยลิ่วเข้าปกคลุม
ต่างคนต่างรีบเก็บสัมภาระ แล้วเมื่อทุกคนพร้อม ไต้ก๋งก็หันหัวเรือเข้าหาฝั่งทันใด เรือน้อยแหวกคลื่นลมฝ่ากระแสน้ำ พานักเดินทางทุกคนถึงฝั่งอย่างปลอดภัย ก่อนจะกล่าวคำอำลา “เกาะขาม” ด้วยรอยยิ้มกับมิตรภาพ ขณะเดินตามสะพานปูนอันยืดยาว ผมก็เริ่มทำการจดจำการเดินทางนี้ลงสู่ห้วงลึกของความรู้สึก…