จาก หนังสือพิมพ์ โพสต์ทูเดย์ วันที่ 28 พฤษภาคม 2554
โดย…นิธิ ท้วมประถม
เกาะแห่งท้องทะเลตราด น่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครหลายคนใฝ่ฝันที่จะเอาเวลาไปทิ้งไว้ที่บรรดาเกาะเหล่านี้ ได้ทันทีที่มีโอกาส
ผมเอง ไม่ได้ไปเยี่ยมเยือนหมู่เกาะทะเลตราดนานหลายปีแล้วครับ ส่วนหนึ่งเพราะหันไปท่องท้องทะเลและหมู่เกาะทะเลใต้เสียมากกว่า เลยห่างหายกับท้องทะเลแถบนี้ไปนาน
แต่เมื่อเดือนที่แล้ว ผมต้องไปทำงานแถวๆ นี้ก็เลยถือโอกาสเที่ยวแถวนี้เสียหน่อย ไปดูว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน
แถมครั้งนี้ ผมยังมีไกด์กิตติมศักดิ์ อย่าง “พี่ใหญ่” วรนิติ์ กายราศ ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานตราด และน้องเพชร เจ้าหน้าที่สำนักงานตราด ที่ให้คำแนะนำและพาไปพบเจอแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ บนดินแดนปลายสุดแผ่นดินสยามทางภาคตะวันออก
เริ่มจากร้านก๋วยเตี๋ยวทะเล ซึ่งอยู่ที่ตัวเมืองตราด ซึ่งน้องเพชร พาลัดเลาะไปทาน
“ร้านนี้เลยครับพี่ แจ่มๆ ”
เป็นคำแนะนำของน้องเพชร ที่แนะนำร้านอาหารก่อนแนะนำตัวเอง แสดงให้เห็นว่าเป็นคนชอบเสาะหาสิ่งแปลกใหม่ใส่กระเพาะอยู่เรื่อย
ร้านก๋วยเตี๋ยวทะเล รัานนี้น่าประทับใจตั้งแต่ป้ายบนร้านแล้วครับ เพราะป้ายบอกว่าร้าน “หมูกระทะ” ซึ่งเป็นอาชีพหลักยามค่ำคืนครับ แล้วอย่างนี้คนนอกอย่างผมจะไปรู้ได้ไง ต้องให้เจ้าถิ่นพามาถึงจะเจอ
เจอร้านแล้ว เข้าไปจับจองพื้นที่ทันที
“วุ้นเส้นต้มยำทะเล 2” สั่งเลย ไม่ต้องลังเล
ครู่เดียว ภาพของกุ้ง ปลาหมึก หอยแมลงภู่ กองเบ้อเริ่ม ก็ถูกนำมาวางไว้หน้าผม รสชาติยังไม่พูดถึงแค่ปริมาณกับราคาชามละ 25 บาท ก็งงแล้วครับ เมื่อรวมกับรสชาติ ที่บอกได้เลยว่าน้ำต้มยำที่ออกหวานนำ ตามสไตล์อาหาร จ.ตราด แต่แก้ด้วยน้ำส้มพริกเล็กน้อยก็ลงตัว
แค่ 2 ชาม ไม่พอแล้วครับ เพราะหมดอย่างรวดเร็ว กำลังมองหาเมนูอื่นมารองท้องอีกนิด ก็ได้ยินเสียง “น้องเพชร” บอกว่า “ข้าวหน้ากั้ง” มั้ยครับ
ข้าวหน้ากั้ง!! มีด้วยเหรอ แค่ได้ยินก็ตาลอยแล้วครับ สั่งมาเลยไม่ต้องคิดมาก กั้งต้มตัวพอดีคำแกะเปลือกวางอยู่บนข้าวร้อนๆ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มพริกเกลือ เฮ้อ…ผมไปอยู่ไหนมาเนี่ยะ มาตราดไม่รู้กี่ครั้ง พลาดไปได้ยังไง
ท่านผู้อ่านหากเดินทางไปตราด แล้วอยากทานก๋วยเตี๋ยวทะเลคุณภาพคับจาน ราคาเบาใจ โทร.ไปที่ สนง.ททท.ตราด ได้เลยครับ แล้วขอสาย น้องเพชร ถามเลยครับ ร้านก๋วยเตี๋ยวทะเลอยู่ไหน รับรองไปถูกแน่ๆ แถมจะได้คำแนะนำแหล่งท่องเที่ยวดีๆ ในเมืองตราดแถมด้วย
หนังท้องตึงแล้ว หนังตาเริ่มหย่อน เอ้ย!! ไม่ใช่ครับ ต้องเดินทางต่อไปเกาะกูดกันหน่อย นั่งเรือเร็วประมาณชั่วโมงนึงก็ถึงแล้วครับ เดี๋ยวนี้มีเรือเร็วบริการทุกวัน เช้ารอบ บ่ายรอบ สะดวกไม่น้อย เรือเร็วไปส่งถึงหน้ารีสอร์ตเลยครับ เพราะรีสอร์ตที่นี่ ติดชายหาดเกือบทั้งนั้น
พี่ใหญ่ บอกว่า ปัจจุบันนี้ ธุรกิจท่องเที่ยวบนเกาะกูดเติบโตขึ้นมาก ก็จะไม่ให้โตยังไงละครับ ขนาดผมไปวันธรรมดา นักท่องเที่ยวยังเต็มไปหมด แถมแหล่งท่องเที่ยวบนเกาะกูดนั้นมีทั้งคลองน้ำจืด ที่เราสามารถพายเรือคายักเข้าไปเที่ยวเล่นได้ตลอด
และยังมีน้ำตกให้เดินเล่นอีกครับ แต่ควรจะไปช่วงปลายฝน หรือฤดูหนาวนะครับ จะได้เจอน้ำตกจริงๆ หากไปหน้าร้อน หรือประมาณเดือน ก.พ.ไปละก็ พกน้ำขวดไปด้วยแล้วกัน เพราะน้ำตกแทบไม่มีน้ำแล้วครับ พกน้ำไปล้างหน้าเองดีกว่า หุหุ
บนเกาะกูด ถือว่าเจริญใช้ได้เลยครับ มีโรงไฟฟ้าของตัวเองด้วยครับ ทำให้เวลากลางคืนรีสอร์ตส่วนใหญ่ มีห้องแอร์ให้บริการ แต่ราคาก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย
ส่วนตัวผมว่า เกาะกูด นั้นหากซื้อแพ็กเกจทัวร์จากรีสอร์ต ซึ่งรวมอาหารและพาไปดำน้ำที่เกาะรัง ซึ่งเป็นโปรแกรมมาตรฐาน ก็ตกคนละ 45 พันบาท ซึ่งจะว่าแพงก็แพงถูกก็ถูกครับ ซึ่งหากมาครั้งแรก ก็ควรจะซื้อแพ็กเกจครับ แต่หากมาครั้งต่อไป ต้องลุยเองครับ
ก็เกาะกูด มีหาดทรายตั้งหลายหาดที่สวยมาก สวยเทียบเท่ากับเกาะทางอันดามันเลยครับ ทะเลสีคราม หาดทรายสีขาวจั๊วะละเอียดเท้า ยังซ่อนตัวอยู่รอบเกาะกูด
แต่นั่นหมายความว่า เราต้องเช่ามอเตอร์ไซค์เที่ยวรอบเกาะ ลัดเลาะไปเองครับ แล้วจะพบกับความสนุกในอีกรูปแบบหนึ่ง
ซึ่งหากหนุ่มๆ คนไหน อยากพาสาวที่หมายปองไปเกาะกูดแล้วอยากโชว์แมนละก็ ไปหัดขับมอเตอร์ไซค์ให้คล่องๆ เลยครับ จะได้พาสาวเจ้าไปเที่ยวหาดอื่นบ้าง ไปเที่ยวน้ำตก เที่ยวรอบเกาะ หาร้านอาหารริมทะเลเก๋ๆ ทาน ไม่ต้องมารอทานบุฟเฟต์ พร้อมกับนักท่องเที่ยวอีกเป็นสิบ ให้เสียบรรยากาศ
แต่ต้องขับเก่งหน่อยนะครับ ไม่ใช่แบบงูๆ ปลาๆ ไม่ได้เด็ดขาด เพราะเส้นทางรอบเกาะช้างโหดเอาเรื่องครับ ทั้งทางลื่น ทางชัน มีให้เลือกทุกอย่าง ขรุขระ ก็เพียบเวลาเข้าไปตามชายหาดต่างๆ ถ้าขับไม่คล่องเสียฟอร์มแย่
แต่ถ้าไม่แคร์ใคร ไม่อยากให้ใครเหมือนก็ให้ฝ่ายสาวเป็นผู้ขี่ ส่วนเราซ้อนท้าย ก็เท่ไปอีกแบบนะครับ ว่าคบกับเราเขาก็เป็นช้างเท้าหน้าได้เหมือนกัน สร้างความภูมิใจให้เธอได้อย่างเนียนๆ แต่ถ้าเธอขี่ไม่คล่อง เราขี่ไม่เป็นด้วยละก็ งามไส้ละทีนี้ ทางชันเรากระโดดลงก่อน ทางขรุขระ เราปล่อยเขาขับ ปลอดภัยเห็นๆ
อ้อ…อีกอย่างหากจะเช่ามอเตอร์ไซค์ของรีสอร์ต ควรจะต้องตรวจสภาพมอเตอร์ไซค์หน่อยนะครับ เพราะเห็นมอเตอร์ไซค์ใหม่ๆ ใช่ว่าจะดีเสมอไปนะครับ มอเตอร์ไซค์ของผมนั้น กว่าจะสตาร์ตได้ถีบคันสตาร์ตขาแทบเสีย
เวลาจอดดับเครื่องทีไรใจเสียทุกที เวลาสตาร์ตแทบจะเรียกคนในพื้นที่แถวนั้น เลือกที่ดูขาใหญ่ๆ แข็งแรงๆ มาช่วยสตาร์ตให้กันเลยทีเดียว
ขับรถกินลม ชมวิว ไปเรื่อยๆ ทางรีสอร์ตให้หมวกกันน็อกมาด้วยครับ เพราะบอกว่าตำรวจบนเกาะเข้มงวดมากกับเรื่องกฎหมายจราจร ไม่มีปัญหาใส่ก็ใส่ครับ
หึหึ แต่กลายเป็นว่าผมเป็นรถคันเดียวในเกาะที่ใส่หมวกกันน็อกวิ่งไปวิ่งมารอบเกาะ ผมไม่เห็นใครใส่หมวกกันน็อกเลยสักคน แถมเวลาขับสวนกับผมยังอมยิ้มแปลกๆ อีก เอ…หรือว่า ตำรวจที่นี่เขาเข้มงวดเฉพาะกับคนหน้าตาดีหว่า หุหุ
แล้วอย่าลืมไปหาดของรีสอร์ตที่ชื่อ สยามบีช รีสอร์ต ครับ เพราะหาดทรายและทะเลสวยจริงๆ ผมคอนเฟิร์ม
นอกจากเกาะกูดแล้ว พี่ใหญ่ ยังพาไปเกาะกระดาด ซึ่งเป็นเกาะชายขอบทะเลไทยแล้ว เลยไปอีกนิดก็เจอกับลูกน้องฮุนเซนแล้ว เกาะนี้เป็นเกาะส่วนตัวครับมีโฉนดเรียบร้อย เป็นเกาะขนาดไม่ใหญ่มาก เป็นเกาะที่สงบมากๆ อีกเกาะหนึ่งของท้องทะเลตราด
จากเกาะกูด นั่งเรือเร็วไปประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงเกาะกระดาดแล้วครับ แต่ต้องเสียค่าขึ้นเกาะคนละ 60 บาท หรือถ้าจะพักที่นี่ก็ได้ครับ คืนละไม่กี่ร้อยบาท แต่สิ่งอำนวยความสะดวกไม่ค่อยมากเท่าไหร่ เน้นแบบดิบๆ มากกว่า
เกาะกระดาดนี้ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบครับ มีภูเขาไม่สูงมากอยู่บริเวณกลางเกาะเท่านั้น พื้นที่ส่วนใหญ่เจ้าของทำสวนมะพร้าวกันมานมนาน ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 แล้ว แถมสัตว์บนเกาะนี้ คือ กวางครับ มีกวางเป็นพันๆ ตัวบนเกาะนี้
กวางที่นี่นั้นถูกพามาเพียงไม่กี่ตัว ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่มีคนมาตั้งรกรากที่นี่ จนออกลูกออกหลานเต็มไปหมดแล้ว ซึ่งคนที่นี่ไม่ทานกวางครับ ก็เลยแพร่พันธุ์กันสบายใจเฉิบไป
มีมากไม่มาก ไม่รู้ครับ รู้แต่ว่าหญ้าบนเกาะนี่เรียบกริบ เพราะเจ้ากวางนับพันตัว คอยกินหญ้าอยู่ตลอด เลยทำให้อย่างกับมีคนสวนคอยตัดอยู่ตลอด
ที่นี่เขามีบริการพาเที่ยวรอบเกาะด้วยรถไถขนาดใหญ่ ที่ต่อกระบะไม้ด้านหลังแบบไร้หลังคา ให้นักท่องเที่ยวได้เห็นวิวอย่างเต็มที่ แต่ไม่ต้องกลัวร้อนครับ เพราะเขามีร่มให้คนละคันเอาไปกางระหว่างชมเกาะได้ตามสะดวก
บรรยากาศเหมือนๆ กับไปท่องซาฟารีในต่างประเทศเลยครับ แดดร้อนๆ ทางเป็นลูกรังหน่อยๆ ขับไปทางไหนก็เห็นกวางเต็มไปหมด นี่ถ้าเอา ยีราฟ เอากระทิง เอาแรด มาปล่อยไว้ด้วยละก็ ซาฟารีเห็นๆ บรรยากาศได้จริงๆ
เราใช้เวลานั่งรถเที่ยวรอบเกาะประมาณเกือบชั่วโมงครับ ถ้าใครจะไป น้ำท่า ผ้าเย็น เตรียมไปให้พร้อมเพราะบนเกาะไม่มี เซเว่นให้ช็อปครับ เดี๋ยวจะลำบาก
วันรุ่งขึ้น เราไปแวะดำน้ำดูปะการังน้ำตื้นกันที่เกาะรังครับ โอ้ววว พระเจ้า ขอบอกเลยว่าเยอะจริงๆ ไม่ใช่ปลาหรือปะการังนะครับ แต่เป็นนักท่องเที่ยวที่ผู้ประกอบการนำเที่ยวทั้งหลายพานักท่องเที่ยวมาดำน้ำเล่น เรียกว่ากลายเป็นชุมชนแออัดเลยละครับ
เรือที่มา มีทั้งเรือจากเกาะกูด เรือจากเกาะช้าง ก็ลองคิดดูแล้วกันครับว่าเยอะขนาดไหน ผมเห็นแล้วก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาจัดระเบียบในเรื่องนี้หน่อย ทุ่นผูกเรือกว่า 10 ทุ่น ไม่พอให้เรือผูกครับ แถมเรือบางลำที่ต้องบอกว่ามีขนาดใหญ่มาก ยังเห็นแก่ตัวแล่นเรือแหวกกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ดำน้ำอยู่รอบๆ เกาะ เพื่อเอาเชือกไปผูกกับหินบนเกาะ เพื่อให้นักท่องเที่ยวบนเรือของตัวเองได้ดำนำใกล้ๆ กับปะการัง นักท่องเที่ยวมากันมากมายจนเหมือนกับเป็นสลัมดำน้ำเลยจริงๆ
แต่สภาพความสมบูรณ์ของ ปะการัง กับปลาที่ว่ายวนเวียนอยู่ในบริเวณนี้ ก็ต้องถือว่าใช้ได้ครับ หากมีการจัดระเบียบเรือให้ดีกว่านี้ ก็โอเค
ดำน้ำ แบบหวาดๆ ว่าจะโดนเท้าของใครต่อใครที่ดำน้ำอยู่ด้านหน้าแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะไปเกาะหมากแล้วครับ
เกาะหมากนี้ก็เป็นอีกเกาะหนึ่งที่น่าสนใจมาก เพราะบนเกาะแห่งนี้ยังมีสภาพป่าที่ยังสมบูรณ์อยู่มากๆ ครับ ต้นไม้ขนาดหลายคนโอบยังมีให้เห็นอยู่มากมาย แสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของที่นี่ ซึ่งแตกต่างจากเกาะกูด กับเกาะช้าง ที่ธรรมชาติป่าไม้ถูกทำลายไปจำนวนไม่น้อย
ความสงบและธรรมชาติ คือจุดขายของเกาะหมาก ซึ่งผมอยากตะโกนบอกทุกคนเลยว่าที่นี่น่าเที่ยวจริงๆ แต่อย่าเที่ยวแต่ในรีสอร์ตนะครับ ต้องไปเที่ยวบนเกาะด้วย แล้วจะได้เห็นว่าที่นี่น่าเที่ยว น่าอยู่จริงๆ
เกาะหมากนี้ก็เป็นเกาะที่มีตำนานเหมือนกันครับ เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่บนเกาะนั้นมีเจ้าของ ซึ่งมียศเป็นถึง “คุณหลวง” ทีเดียว ซึ่งปัจจุบันทายาท รุ่นที่ 4 แล้วครับที่อยู่บนเกาะเหล่านี้ แล้วส่วนใหญ่ก็ทำกิจการรีสอร์ตกันแทบทั้งนั้น แต่อาชีพเก่าแก่ของคนเกาะหมาก คือ ปลูกมะพร้าว และยางพารา ครับ