โดย สยามรัฐ วันที่ 11 สิงหาคม 2550
“โลกใต้น้ำ” นับเป็นสถานที่หนึ่ง ที่ใครต่อใครหลายคน อยากลงไป “ยลโฉม” ในฐานะที่ส่วนหนึ่ง (ส่วนใหญ่ของโลกเลยล่ะครับ เพราะคิดเป็นร้อยละ 70 ของโลกเราทั้งหมดทีเดียว) ของโลกบริเวณนี้ ถูกจัดว่า เป็นสถานที่ “ลี้ลับ” ที่ “น้อยคน” นักจะได้เข้าถึง เพราะมี “ผืนน้ำ” มาขวางกั้นไว้กับโลกบนบกนั่นเอง
ด้วยเหตุนี้เอง “นักธุรกิจหัวใสผู้มองการณ์ไกลทางการตลาด” ได้ผุด “ธุรกิจดำน้ำ” เพื่อให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ชื่นชมกับทัศนียภาพของโลกใต้น้ำขึ้นมา ซึ่งก็มีหลายที่หลายแห่งด้วยกันทั่วโลก
ล่าสุด ทางนิตยสารฟอร์บส์ ซึ่งเป็นนิตยสารด้านธุรกิจชื่อดังในสหรัฐอเมริกา ได้จัดอันดับสุดยอดสถานที่ดำน้ำเพื่อชมทัศนียภาพโลกใต้น้ำขึ้น ภายหลังจากธุรกิจให้บริการดำน้ำเหล่านี้ เจริญเติบโตขึ้นในแต่ละปี
ทั้งนี้ ทางฟอร์บส์ ระบุว่า การจัดอันดับสุดยอดสถานที่ดำน้ำในครั้งนี้ มีขึ้นภายหลังจากได้ทำการสำรวจแล้วพบว่า ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ต่างแพ็คกระเป๋า และเดินทางเข้าไปใช้บริการเพื่อชมความงามของทัศนียภาพโลกใต้น้ำเหล่านั้นจำนวนหลายพันคนด้วยกันโดย “สุดยอดสถานที่ดำน้ำ” ที่ทางฟอร์บส์จัดอันดับให้นั้นได้แก่
“บลูโฮล” : ถ้ำใต้น้ำ ณ ประภาคารแนวปะการังในบีลีซ ประเทศฮอนดูรัส
สถานที่ดำน้ำแห่งนี้ นักท่องเที่ยวจะได้ยลโฉมสิ่งมีชีวิตใต้น้ำนานาชนิด ที่พำนักอาศัยและหากินอยู่ในสถานที่คล้ายถ้ำหรือหลุมขนาดใหญ่ ลึกลงไปจากผิวน้ำประมาณ 110 ฟุต ซึ่งถ้ำหรือหลุมขนาดใหญ่ที่ว่านี้ เดิมทีเคยอยู่บนบกมาก่อนตั้งแต่ยุคน้ำแข็งแล้ว ก่อนที่พื้นผิวโลกมีการเปลี่ยนแปลง จนทำให้ถ้ำแห่งนี้ลงไปอยู่ใต้ท้องทะเลในที่สุด
ถ้าใครอยากยลโฉมโลกใต้น้ำแห่งนี้ ก็ต้องเดินทางมาในช่วงเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน จึงจะเหมาะสมที่สุด เพราะจะได้เห็นฝูงปลาฉลามว่ายลอดถ้ำกันไปมา โดยช่วงเวลาดังกล่าว ถือว่า เป็น “ไฮ – ซีซัน” ของที่นี่
เกาะโครอน ประเทศฟิลิปปินส์
หากใครอยากรำลึกในเหตุการณ์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ต้องมาดำน้ำ ณ ที่แห่งนี้ เพราะที่นี่เขายังคงเก็บซากฝูงเรือรบของกองทัพญี่ปุ่น ที่จมลงสู่ก้นทะเล เพราะถูกกระสุนปืนของกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรยิงใส่เอาไว้อยู่ จนกลายเป็นแนวปะการังเทียมและเป็นที่พำนักอาศัยและหากินของบรรดาสัตว์น้ำทั้งหลาย
โดยนักท่องเที่ยวหลายรายที่ลงดำน้ำไปเยี่ยมชม บอกเป็นเสียงเดียวว่า “แปลกตาไปอีกแบบ”
ทะเลแดงซูดาน ประเทศซูดาน
บรรยากาศใต้ท้องทะเลของทะเลแดงในฝั่งของประเทศซูดานแห่งนี้ คล้ายคลึงกับที่เกาะโครอน คือ มีแนวปะการังเทียมอันเกิดจากวัตถุขนาดใหญ่จมลงสู่ก้นทะเล ต่างกันแต่ว่า ที่ทะเลแดงในซูดาน เป็นเรือชนิดอื่นๆ ไม่ใช่เรือรบ เช่น เรือสำภาขนาดใหญ่ เป็นต้น
“โบแนร์” แนวปะการังน้ำตื้นแห่งแดนกังหันลม Bonaire, Netherland
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ ถือเป็นหนึ่งในสถานที่ดำน้ำไม่กี่แห่งที่ขึ้นชื่อในภูมิภาคยุโรป โดยอยู่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ แต่นักดำน้ำหลายคนที่ไปเที่ยวชมมาแล้ว เอ่ยปากชมว่า “สวยงามมาก” ถ้าให้จัดอันดับท็อปเทน คือ 1 ใน 10 น่าจะอยู่ในลำดับต้นๆ หรือถึงขั้นติด 1 ใน 5 ด้วยซ้ำ เพราะที่นี่มีแนวปาการังหลากสีต่างๆ เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หินปะการังสีเหลือง มีความงามอย่างจับใจ
แนวปะการัง “เกรต บาร์เรียร์ รีฟ” แห่งแดนจิงโจ้ Great Barrier Reef, Australia
สถานที่ดำน้ำแห่งนี้ รับประกันความ “อลังการ” ได้ สำหรับแนวปะการังที่ชื่อก็บ่งบอกอยู่แล้ว ถึงความยิ่งใหญ่ได้เป็นอย่างดี โดยสถานที่ดำน้ำแห่งนี้อยู่ที่ประเทศออสเตรเลีย บรรดาน้ำดำน้ำหลายคน ต่างชื่นชมและยกย่องให้แนวปะการังยักษ์แห่งนี้ เป็น “สถานที่ดำน้ำระดับสุดยอดของโลก” ที เดียว
เกาะโคคอส ประเทศคอสตาริกา
นับเป็นหนึ่งในสถานดำน้ำขึ้นชื่อย่านอเมริกากลาง โดยนักท่องเที่ยวสามารถดำน้ำ ลงไปเที่ยวชมสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ ในทะเลแคริบเบียน ซึ่งได้รับการยกย่องว่า มีสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลเป็นจำนวนมากและหลากหลายสายพันธุ์
ชายหาดดินาห์ ประเทศปาปัวนิวกินี
บรรดานักท่องเที่ยวที่เคยลงไปเที่ยวชมใต้ท้องทะเลของชายหาดดินาห์ ต่างยกย่องกันว่า เป็นเสมือนสนามเด็กเล่นใต้ท้องทะเลทีเดียว สำหรับสถานที่ดำน้ำในประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกแห่งนี้ นิก ลูซี บรรณาธิการนิตยสารสคูบา ไดฟ์วิง กล่าวยกย่องว่า ใต้ท้องทะเลของชายหาดดินาห์ มีสิ่งต่างๆ ที่แปลกตากว่าที่อื่นๆ ชนิดที่ไม่เคยได้เห็นที่อื่นมาก่อน
บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย
ปิดท้ายที่เกาะสวรรค์ในประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง นั่นคือ “บาหลี” ที่เกาะแห่งนี้นอกจากมีชายหาดที่สวยงาม อย่างยากจะหาที่อื่นเทียบเทียมแล้ว ณ ใต้ผืนน้ำของท้องทะเลบาหลี มีความงดงามไม่น้อยไปกว่าบนชายหาดแต่ประการใด กลับมาที่ประเทศไทยเรา ที่มีท้องทะเลสวยงาม สามารถจัดเป็นสถานที่ดำน้ำได้อย่างสบาย และถ้าหากมีระบบการจัดการ ตลอดจนการบริการที่ดี เชื่อว่า สถานที่ดำน้ำในบ้านเรา ดึงดูดนักท่องเที่ยว พร้อมกับเรียกเงินจากบรรดาผู้ที่ชื่นชอบโลกใต้น้ำได้เป็นอย่างดีไม่แพ้ชาติอื่นๆ ครับ
