น.ต.มนัส จารุภา
ข้าพเจ้าเองก็มิได้แตกต่างไปจาก น.อ. อานนท์ บ้านของข้าพเจ้าอยู่ที่ซอย 1 ตำบลศรีย่าน ก็ถูกเฝ้าดูเช่นเดียวกัน เนื่องด้วยข้าพเจ้าสังเกตเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งเฝ้าเดินเทียวไปเทียวมาผ่านหน้าบ้านเสมอ และโดยเฉพาะมักทำลอบชำเลืองดูทางด้านชั้นบน แรกๆ ข้าพเจ้าก็คิดว่า เด็กหนุ่มคนนั้นคงจะมาเมียงมองดูสาวๆ ในบ้านของข้าพเจ้าก็ซึ่งมีอยู่หลายคนด้วยกัน ตามวิสัยของคนหนุ่มเป็นแน่ แต่เมื่อได้สังเกตบ่อยครั้งเข้า ข้าพเจ้าก็แน่ใจว่าเขา “พิศวาส” ตัวของข้าพเจ้ามากกว่า เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเวลาที่ข้าพเจ้ามีเพื่อนฝูงไปมาหาสู่ เขาจะค่อยๆ เดินช้า ๆ ผ่านเลยไปแล้วก็ย้อมกลับมาทำดังนี้หลายๆ ครั้ง คอยสังเกตการณ์บ้าง คอยจดเบอร์รถที่มาจอดบ้าง ถ้าเป็นเวลาค่ำคืน ก็ไม่เพียงแต่เดินผ่านไปมาเท่านั้น แต่จะหยุดซุ่มตัวอยู่เงียบๆ ข้างรั้วแถวหน้าประตูบ้านเลขทีเดียว
ดังนั้น วันหนึ่งข้าพเจ้าจึงได้ใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่ง พอเห็นเขามาเช่นเคย ก็จัดส่งหลานชายของข้าพเจ้าสะกดรอยติดตามไป ผลปรากฏว่า เมื่อออกจากซองไปถึงศรีย่าน เขาก็แวะเข้าไปพูดโทรศัพท์ที่ตู้ยามตำรวจ แล้วก็ขึ้นรถไปลงที่สถานีตำรวจบางขุนพรมเก่าซึ่งเป็นที่ตั้งของกองตรวจเหนือ ในบังคับบัญชาของ พ.ต.ต. วิชิต รัตนภาณุ
เมื่อได้ความเป็นที่ประจักษ์เช่นนี้แล้ว ข้าพเจ้าก็รออยู่จนกระทั่งเขามาอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ข้าพเจ้าไม่รอช้าปราดออกไปประชิด ถามเขาว่า ใครใช้ให้มาเฝ้า เขาตอบว่าเขาไม่ได้มาเฝ้า เขามาหาเพื่อนของเขาซึ่งบ้านอยู่แถวนี้ และเขาไม่ได้เป็นตำรวจดังที่เราเข้าใจ ข้าพเจ้าบอกเขาว่าอย่าได้โกหกไปเลย ข้าพเจ้ารู้แน่ว่าเขาเป็นตำรวจ ขอให้ไปบอกเจ้านายเขาด้วยว่า อย่าส่งคนมาเฝ้าแบบรุ่มร่ามอย่างนี้ต่อไปเลย ถ้าจะติดใจสงสัยเรื่องอันใดก็ถือหมายมาค้นบ้านได้
จากวันนั้นมา ก็ไม่มีการสะกดรอยอย่างเปิดเผย แต่ก็เป็นที่เชื่อได้ว่าต้องมีการสะกดรอยดูพฤติการณ์ของข้าพเจ้าอย่างลับๆ แน่นอน เราได้แจ้งให้สายงานของเราทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และกำชับให้ระมัดระวังการพบปะติดต่อย่างเข้มงวด
ในระยะต่อมา น.ต.สุภัทรได้ติดต่อกับพวกพลเรือจำนวนหนึ่ง สำหรับจะให้ทำหน้าที่จู่โจมจุดสำคัญบางจุดและยึดไว้ชั่วขณะก่อนที่กำลังทหารจะเคลื่อนเข้ามารับมอบ ในการนี้จำเป็นจะต้องใช้ปืนกลแมดเสน และลูกระเบิดเท่านั้น แต่เนื่องจากพวกพลเรือนยังไม่เคยชินกับอาวุธที่ทางทหารเรือมีอยู่ จำเป็นจะต้องจัดคนไปแนะนำวิธีใช้ให้เข้าใจ เราจึงปรึกษาหารือกันและตกลงว่าจะจัดส่งนายทหารไปแนะนำฝึกอาวุธให้ตามสถานที่ต่าง ๆ ที่สายงานจะตกลงนัดมา ข้าพเจ้าเป็นคนหนึ่งซึ่งรับหน้าที่ทำแนะนำด้วย
วันหนึ่งสายงานนัดให้ข้าพเจ้าไปที่บ้านหลังหนึ่งแถวสถานีรถไฟสามเสน ข้าพเจ้าพร้อมด้วยกระเป๋าเครื่องอาวุธไปถึงบ้านหลังนั้นประมาณบ่าย 14.00 น. เศษ เมื่อเข้าไปถึงห้องชั้นบนรู้สึกตกใจไม่น้อยที่แลเห็นคนนั่งอยู่ในห้องก่อนแล้วประมาณยี่สิบกว่าคน ไต่ถามสายงานว่าทำไมจึงมากหน้าหลายตานัก ความลับอาจรั่วไหลได้ง่าย เขาตอบว่าไม่เป็นไร ไว้ใจได้ทั้งสิ้น ข้าพเจ้าจึงเปิดกระเป๋าเอาปืนกลมือแมดเสนและลูกระเบิดมือออกมา ทำการแนะนำวิธีใช้วิธีแก้ไขข้อขัดข้อง และได้อธิบายให้แก่ทุกคนที่สงสัยฟังจนเป็นที่เข้าใจกันทั่วดีแล้ว ทั้งได้ย้ำให้ทราบว่าปืนและลูกระเบิดมือจะได้จัดส่งให้ในวันปฏิบัติงาน ฉะนั้นอย่าลืมข้อแนะนำเสีย
นอกจากข้าพเจ้าแล้ว นายทหารผู้รับมอบหน้าที่ทำการฝึกอีกหนึ่งนาย ก็ได้ไปปฏิบัติหน้าที่ของเขา ณ สถานที่ต่าง ๆ จนครบตามจำนวนคน
ในที่สุดเราก็กำหนดวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2494 เป็นวันดำเนินการอีกครั้งหนึ่ง วันนั้นเป็นวันประชุมนายทหารชั้นผู้ใหญ่ เกี่ยวกับการป้องกันราชอาณาจักร ณ ทำเนียบรัฐบาล การประชุมนายทหารชั้นผู้ใหญ่ เกี่ยวกับการป้องกันราชอาณาจักร ณ ทำเนียบรัฐบาล การประชุมจะเริ่มประมาณ 10.00 น. และจะเสร็จประมาณ 13.00 น. โดยที่มีเวลาล่วงหน้าหลายวัน จึงตระเตรียมวางแผนปฏิบัติส่วนภายในไว้คือ
ก. หน่วยล้อมทำเนียบรัฐบาลเข้าควบคุมตัวผู้มีอำนาจสั่งการใช้กำลังพลเรือนมีนายทหารเป็นหัวหน้า
ข. หน่วยจู่โจมวังปารุสกวันทำการยืด และทำให้รถเกราะเสียสมรรถภาพในการเคลื่อนตัว และในการยิงชั่วคราว ใช้กำลังหมู่รบจากกองเรือรบ และกำลังรถจี๊ปขนาดกลาง ติดปืนใหญ่ 17 มม. ข้าพเจ้าเป็นหัวหน้า
ค. หน่วยกำลัง น.ย. 4 และ 5 ภายใต้การนำของ น.ต.ประกาย เคลื่อนกำลังเข้าสมทบหน่วย ก. และ ข. และทำการยึดพื้นที่ประสานกับหน่วย ง.
ง. หน่วยกำลังทางด้านกองสัญญาทหารเรือ ซึ่งมีกำลังทหารนาวิกโยธินส่วนหนึ่ง และกำลังรถกึ่งสายพาน เมื่อได้ทราบข่าวแล้วให้เคลื่อนตัวมาสมทบทางปีกขวา
การเตรียมการตามแผน เราจัดการทำด้วยวิธีการต่าง ๆพอจะกล่าวได้ตามลำดับคือ
ก. ไม่มีปัญหาอะไรยุ่งยากนอกจากจัดส่งเครื่องอาวุธให้ พาหนะที่จะใช้คือรถยนต์นั่งธรรมดา ซึ่งก็มีอยู่พร้อมแล้ว
ข. จัดการเฉพาะรถยนต์ติดปืนใหญ่เท่านั้น ประการแรกต้องจัดหาแบตเตอรี่มาใส่รถใหม่ เพราะของเดิมที่ใช้ประจำรถใช้การได้ไม่สะดวก จึงตกลงเช่าจากร้านอัดแบตเตอรี่ที่พวกเรารู้จัก ประการที่สองจัดการสร้างฝาไม้ครอบตัวปืนที่ติดตั้งบนรถ เพื่อมิให้เป็นที่สังเกตเห็นอันจะก่อให้เกิดความสงสัยขึ้นได้ ในระยะที่รถเคลื่อนตัวออกจากที่ตั้งวิ่งไปตามถนนสายต่าง ๆฝาไม้นี้สามารถจะถอดออกจากกันได้อย่างรวดเร็ว ถ้ามองดูในเวลาที่ประกอบกันเข้าเรียบร้อยแล้ว จะแลเห็นเป็นหีบไม้ฉำฉาใบใหญ่วางอยู่บนรถเท่านั้น เมื่อรถถึงจุดหมาย ก็จะถอดฝาไม้ออกทิ้งไปและพร้อมที่จะใช้ปืนได้ทันที
ค. จัดหารถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่จำนวนห้าคัน เพื่อให้สมทบในการลำเลียงกำลังทหารจากฝั่งธนบุรีข้ามฟากมายังฝั่งพระนครให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ตกลงเช่าจากแหล่งชุมนุมรถบรรทุกรับจ้าง แถวท่าน้ำราชวงศ์ได้ในราคาคันละสี่ร้อยบาท กำหนดให้ไปจอดรถที่เชิงสะพานวัดใหม่ชิโนรส จังหวัดธนบุรี เวลา 19.30 น. ของวันที่ 26 มิถุนายน
ง. ต้องจดหาน้ำมันเบนซินใส่รถกึ่งสายพาน เพราะปกติรถเหล่านั้นมีน้ำมันอยู่ในถังน้อยมากเกือบจะเรียกได้ว่าติดก้นถัง ในการนี้สายงานของเราไปติดต่อซื้อมาด้วยการซื้อเชื่อ
วังปารุสกวัน
งานที่เราจะต้องกระทำ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องสำคัญยังมีอีกเรื่องหนึ่งคือการสอดแนมดูกำลังป้องกันในวังปารุสกวัน เรื่องนี้เราได้จัดส่งนายทหารเข้าไปสอดแนมในวังปารุสกวันสองครั้ง โดยอาศัยติดเข้าไปกับรถงานของบริษัทก่อสร้างและรถบรรทุกน้ำมัน ได้รับผลเป็นที่พอใจ โดยเฉพาะเกี่ยวกับรถเกราะได้ทราบรายการเกี่ยวกับจุดที่ตั้งและจำนวนรถอย่างละเอียด นอกจากนั้นเรายังได้จัดพิมพ์และอัดสำเนาใบปลิวแถลงการณ์ของคณะกู้ชาติขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก เพื่อแจกจ่ายเมื่อลงมือปฏิบัติตามแผนแล้ว นับว่าการตระเตรียมงานในระยะนี้ลุล่วงไปด้วยดี จะเหลืออยู่ก็แต่การปฏิบัติงานเท่านั้นที่ยังเป็นปัญหาอยู่ ส่วนในเรื่องการใช้จ่ายเงินนั้นเราร่วมสมทบกันตามแต่กำลัง และบางทีต้องกู้หนี้ยืมสินมา
เมื่อถึงวันที่ 26 เวลาประมาณ 10.00 น. ข้าพเจ้าขับรถบรรทุกอาวุธที่จะเข้าไปแจกจ่ายให้กับหน่วยพลเรือน และใบปลิวทั้งหมดออกจากกองสำรองเรือรบ พร้อมกันนายทหารสามนาย มุ่งตรงไปยังจุดนัดพบที่ถนนจรัญสนิทวงศ์ ธนบุรี ที่จุดนั้นรถของ พ.ต. วีระศักดิ์ จะมารับเอาไปแจกจ่ายพวกพลเรืออีกทอดหนึ่ง เราจำเป็นที่จะต้องเลือกจุดให้ปลอดจากสายตาคน เมื่อขนถ่ายกันเสร็จแล้ว รถก็แล่นตามกันไป มุ่งตรงไปยังสะพานข้างวัดใหม่ชิโนรส จังหวัดธนบุรี และเห็นรถบรรทุกที่เช่ามาจอดรออยู่ครบตามจำนวนแล้ว จึงแล่นรถเลยต่อไปอีกเล็กน้อยและจอดคอยอยู่ เพื่อรอรับข่าวจาก น.ต.ประกาย
เวลาใกล้ 11.00 น. น.ต. ประกายจึงขับรถมาบอกว่า มีเหตุขัดข้องบางประการจะเอากำลัง น.ย. ออกมาตามกำหนดนัดมิได้ พวกเราที่นั่งในรถจ้องมองดูหน้า น.ต.ประกาย ชนิดตาเกือบไม่กะพริบ นี้เป็นครั้งที่สองที่ น.ต.ประกาย ทำให้แผนการล้มเหลว และครั้งนี้ยิ่งลำบากกว่าครั้งก่อนมาก เพราะเราขนอาวุธยุทธภัณฑ์ออกมาจากกกรมกองแล้ว เรามองหน้ากันเอง นึกไม่ออกว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปดี ในที่สุดก็เห็นสมควรกลับไปที่กองเรือรบก่อน เพื่อปรึกษาหารือร่วมกันหลาย ๆ ความคิด
เมื่อมาพร้อมกันที่กองสำรวจเรือรบ และได้ร่วมปรึกษาหาลู่ทางนานาประการแล้ว ในที่สุดก็เห็นว่า ไม่มีทางที่จะปฏิบัติงานในวันนั้นให้สำเร็จลุล่วงไปได้เพราะขาดกำลังทหารราบที่เป็นหลัก จึงตกลงล้มเลิกแผนงานทั้งหมด ส่วนอาวุธที่เอาออกจากกองสำรองเรือรบไปนั้น จะเอากลับเข้าคลังตอนกลางวันย่อมไม่เป็นการปลอดภัย ผู้ใหญ่อาจจะสังเกตเห็น และสงสัยสอบถามขึ้นได้ ตกลงให้รอเอากลับคืนคลังในตอนพลบค่ำ ในระยะนี้ให้เปลี่ยนไปไว้ในรถบรรทุกของทหารเรืออีกคันหนึ่งก่อน เพื่อเป็นการพรางตาว่า ขนอาวุธมาจากหน่วยอื่นตามปกติ
เรื่องอาวุธยุทธภัณฑ์นี้เป็นเรื่องลำบาก เราจะทำประเจิดประเจ้อมิได้ ต้องหาจุดปลอดภัยทากรถ่ายอาวุธอีกครั้งหนึ่งแถวฝั่งธนบุรี เมื่อข้นย้ายเสร็จแล้วก็ต้องขับรถตระเวนไปตามถนนสายต่างๆ เพื่อรอให้ถึงเวลาค่ำ ในการขับรถตะเวนไปนั้น ก็ต้องแสร้างทำให้เหมือนกับรถบรรทุกของทหาร ที่ใช้บรรทุกของไปมาตามธรรมดา โดยบางคราวก็หยุดแล่น จอดรถเสียในที่ชุมนุมชน เช่นที่สี่แยกบางลำพู เป็นต้น ครั้งหนึ่ง ๆ เป็นระยะเวลานานๆ เพื่อถ่วงเวลา การทำดังนี้ได้ผลดี ปรากฏว่า ไม่เป็นที่ผิดสังเกตแก่ผู้ใดเลย
จนกระทั่งพลบค่ำ ประมาณ 18.30 น. รถจึงแล่นกลับไปที่กองสำรองเรือรบช่วยกันทำการขนอาวุธเข้าคลังจนเสร็จเรียบร้อย ส่วนใบปลิวก็เหลี่ยงหีบลงไปในน้ำจนหมดสิ้น ไม่ต้องการเก็บไว้ในเป็นภัยแก่ตัว เมื่อถึงคราวจะต้องใช้อีก ก็ไม่เสียเวลาอะไรมากมายที่จะพิมพ์ และอัดสำเนาขึ้นใหม่
ด้วยเหตุแห่งความล้มเหลวของสายงานด้าน น.ต.ประกาย ถึงสองครั้ง เป็นผลให้บุคคลบางคนในคณะของเราเริ่มระส่ำระสาย เกิดความลังเลและหวาดหวั่นว่าจะถูกจับกุม บางคนถึงกับขอถอนตัวออกไปก็มี ดังนั้น เราจึงพยายามเหนี่ยวรั้งและให้กำลังใจด้วยการชี้แจงว่า แม้จะได้ปฏิบัติการไปแล้วเป็นบางส่วนก็ยังไม่มีสิ่งใดที่จะส่อให้เป็นพิรุธแก่พวกผู้ใหญ่หรือรัฐบาลเลย ขอให้อดทนและยึดมั่นในอุดมการณ์ของเรา และพยายามรักษาความลับของเราโดยเข้มงวดที่สุดเพื่อฟันฝ่าอุปสรรคไปสู่ความสำเร็จ สำหรับผู้ที่ไม่สามารถจะทัดทานไว้ได้ขอถอนตัวออกไป เราก็ให้เขาจากพวกเราไปด้วยความเข้าใจอันดีต่อกัน พร้อมกับขอร้องให้เขาช่วยเก็บความลับของหมู่คณะของเราไว้ด้วย เราไม่ถือว่าเขาผละจากพรรคพวกไปด้วยความเห็นแก่ตัวเลย หากเป็นด้วยเขาหมดกำลังใจเพราะความเหลวไหลไม่แน่นอนของสายงานดังกล่าวแล้วนั่นเอง
เหตุการณ์ที่ผ่านพ้นไปนั้นทำให้เรานิ่งนอนใจอยู่ไม่ได้ จำเป็นต้องสืบเสาะหาโอกาสที่จะลงมือกระทำการใหม่ในระยะเวลาใกล้ๆ กันนั้น ในที่สุดก็ทราบมาว่า ทางราชการกำหนดจะประกอบพิธีรับมอบเรือขุดแมนฮัตตันที่ท่าราชวรดิษฐ์ในวันที่ 29 เดือนเดียวกันนั้นเอง ส่วนรายละเอียดในการนี้ยังไม่ทราบ จึงได้มอบหมายให้พลเรือนผู้ร่วมงานคนหนึ่งไปสืบหาข่าวจากสภาเศรษฐกิจแหงชาติซึ่งเป็นเจ้าภาพดำเนินงานนี้ก็ได้รับรายนามผู้ที่ทางเศรษฐกิจฯ ออกบัตรเชิญมาโดยละเอียด ในตอนเย็นวันที่ 27 นั้น มีนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีต่างๆ และบรรดาข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายทหารและพลเรือน ตลอดจนทูตานุทูตทั้งหลาย ประจวบกับ พ.ต.วีระศักดิ์ได้ทราบข่าวมาว่าหน่วยทหารทางด้านกองทัพบกบางกองกันในเขตจังหวัดพระนคร จะมีการปลดปล่อยทหารกองหนุนล่วงหน้ากำหนดเดิมสองวัน คือ ปลดปล่อยให้กลับภูมิลำเนาในวันที่ 28 เราจึงเอากระแสข่าวทั้งสองมาพิจารณากันว่า ควรจะลงมือกระทำการในวันที่ 29 หรือไม่ โดยหยิบยกเอาทั้งข้อดีและข้อเสียมาเปรียบเทียบกันดังนี้
ข้อดี
ก. กำลังที่ทางรัฐบาลจะใช้ออกมาสู้รบนั้นมีจำนวนลดลง เพราะได้ปลดปล่อยทหารกลับภูมิลำเนาไปแล้ว ไม่มีกำลังพอที่จะเคลื่อนออกไปได้ทันท่วงที ซึ่งเรากะให้ว่าจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยถึงสามชั่วโมง จึงจะเคลื่อนได้ จะมีอยู่ก็แต่หน่วยรถเกราะของตำรวจที่จะเคลื่อนออกมาได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น ผิดกับทางฝ่ายเราซึ่งถือว่ามีกำลังทหารนาวิกโยธินที่จะใช้เป็นกำลังหลักตามอัตรา เพราะยังไม่ได้ปลดปล่อยทหารไปแล้วยังจะได้รับกำลังสนับสนุนจากทหารบางหน่วยของกาองทัพบก ซึ่งได้ทำการติดต่อตกลงกันไว้แล้ว
ข. การควบคุมตัวบุคคลที่เราต้องการ ทำได้ง่าย เพราะอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่ น.อ. อานนท์สามารถจะสั่งการได้สะดวก
ข้อเสีย
ก. จะควบคุมตัวบุคคลผู้มีอำนาจสั่งการได้ไม่เท่าที่เราต้องการ เพราะงานพิธีคราวนี้ถือว่าเป็นพิธีพลเรือน อาจจะมีผู้ใหญ่ฝ่ายทหารมาน้อยคนก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามเชื่อได้แน่นอนว่าอย่างน้อยก็จะได้ตัวนายกรัฐมนตรี ซึ่งจำเป็นต้องมา เพราะเป็นงานที่เกี่ยวกับ สัมพันธไมตรีระหว่างชาติ
ข. จะต้องมีบรรดาทูตานุทูตมาร่วมในงานพิธีมาก ถ้าพลาดพลั้งไปอาจกระทบกระเทือนในด้านสัมพันธไมตรีระหว่างชาติ
ร.ล.ศรีอยุธยา
เมื่อได้เปรียบเทียบทั้งข้อดีและข้อเสียแล้ว ก็เห็นพ้องต้องกันว่า จำเป็นต้องลงมือดำเนินการในวันที่ 29 มิถุนายน แน่ ถึงแม้ว่าจะเป็นการเตรียมที่ค่อนข้างฉุกเฉินกะทันหัน มีเวลาน้อยกว่าเมื่อคราววันที่ 26 มิถุนายนก็ตาม ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้ คือ
ก. สภาพการณ์ของพวกเราอยู่ในฐานะถูกบังคับ ยิ่งทิ้งไว้นานความลับต้องแตกแน่ และกำลังของเราจะลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ เพราะหมดกำลังใจ
ข. ถือว่ามีกำลังที่จะปฏิบัติการในด้านภายในเหนือกว่าฝ่ายรัฐบาล ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากทางด้านหัวเมืองที่ร่วมมือด้วย โดยได้ติดต่อตกลงไว้แล้ว ก็จะยิ่งบีบบังคับฝ่ายรัฐบาลให้ยอมจำนนได้ง่าย
ค. เรื่องบุคคลที่ต้องการจะควบคุมตัวนั้น ไม่ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ได้เท่าไรก็เอาเท่านั้น ข้อสำคัญอยู่ที่การเคลื่อนกำลังออกไปยึดพื้นที่ให้ได้ตามจุดที่กำหนดไว้ในแผน โดยไม่ให้มีการพลาดพลั้งและล้มเหลวดังเช่นที่แล้วๆ มาอีก
ง. เกี่ยวกับการจะกระทบกระเทือนบรรดาทูตานุทูตนั้น เราสามารถป้องกันมิให้เกิดอันตรายขึ้นได้ เพราะอยู่ในพื้นที่ที่เรารักษาการณ์เอง และเมื่อปฏิบัติการลงไปแล้วก็จะพยายามให้ความสะดวกแก่พวกเขาทุกประการ
เมื่อได้ย้ำถึงความมั่นใจของสายงาน โดยเฉพาะตัว น.ต. ประกายเอง ก็ได้รับการยืนยันเป็นมั่นเหมาะว่า จะทำได้อย่างแน่นอนแล้ว เราก็ลงมือวางแผนซึ่งจะกล่าวเป็นสังเขปได้คือ
1. การควบคุมจอมพล ป.พิบูลสงคราม ไปลง ร.ล.ศรีอยุธยา เป็นหน้าที่ของข้าพเจ้า ตลอดจนนำเรือผ่านสะพานพุทธยอดฟ้าออกไปจอดยังบริเวณที่จอดเรือรบหน้ากรมสรรพาวุธทหารเรือบางนา เพื่อใช้เป็นที่ตั้งกองบัญชาการชั่วคราว และจัดการรวบรวมกำลังเรือรบ ณ ที่นั่น
2. การควบคุมตัวบุคคลสำคัญอื่นๆ ยกเว้นบรรดานายทหารเรือชั้นผู้ใหญ่การอำนวยความสะดวกให้แก่บรรดาทูตานุทูต การส่งกำลังไปยึดโรงไฟฟ้า – โทรศัพท์ กลางวัดเลียบ เพื่อควบคุมการปิดเปิดสะพานพุทธยอดฟ้า การลำเลียงกำลังทหาร น.ย. 5 ข้ามฟากจากธนบุรีมาฝั่งพระนคร และการติดต่อให้หน่วยกำลังทางด้านกองสัญญาณทหารเรือเคลื่อนตัว อยู่นายของ น.อ.อานนท์
3. การเคลื่อนกำลังทหารนาวิกโยธินและหน่วยอื่น ทางด้านจังหวัดธนบุรี อยู่ในสายงานของ น.ต.ประกาย
4. การเคลื่อนกำลังทางด้านกองสัญญาณทหารเรือ การติดต่อหน่วยทหารเรืออื่น ๆ นอกเขตจังหวัดพระนคร การติดต่อหน่วยพลเรือนและทหารอากาศ ตลอดจนการออกอากาศที่สถานีวิทยุ 2 ร.น. อยู่ในสายงานของ น.ต.สุภัทร
5. การติดต่อประสานงานกับหน่วยทหารบกภายในจังหวัดพระนครบางหน่วยและหน่วยทหารบกต่างจังหวัด พ.ต.วีระศักดิ์เป็นหัวหน้าสาย ปฏิบัติการร่วมกับสายงานในข้อ 4
กำลัง น.ย. 4 – 5 ที่จะนำออกมาใช้นั้น เป็นกำลังหลักที่ยิ่งใหญ่ของเรา เราจะใช้กำลังนี้ยึดครองพื้นที่ตามแผน ผ่านจุดต่างๆ คือ สะพานบางลำพู – สะพานวันชาติ สะพานผ่านฟ้า – สะพานขาว – สะพานยมราช ติดต่อกับกำลังจากกองสัญญาณทหารเรือที่จะเคลื่อนตัวมาทางประตูน้ำสระประทุมเข้าถนนเพชรบุรี สำหรับงานด้านนี้เป็นเทคนิคของทหารราบ จึงเป็นภาระโดยตรงของนายทหารนาวิกโยธินทั้งสอง คือ น.ต. ประกาย และ น.ต.สุภัทร ซึ่งเมื่อเป็นไปตามแผนแล้วก็จะแบ่งเขตจังหวัดพระนครออกเป็นสองส่วน กองพันทหารบกใดที่อยู่ในแนวของเราก็จะจัดการเจรจาโดยสันติวิธีมิให้มีการสู้รบกับ สถานีตำรวจต่างๆ ก็จะขอปลดอาวุธหนัก ให้มีแต่อาวุธเบารักษาความสงบในท้องที่เท่านั้น